26 ก.ค. เวลา 06:10 • การเมือง

การยุ่งเรื่องชาวบ้านทั่วโลกไม่ได้หมายความว่าจะเป็นผู้ปกครองโลกได้

เป็นเวลาหลายปีที่สหรัฐอเมริกาพยายามโน้มน้าว (กึ่งกดดัน) ในระดับนานาชาติรวมทั้งในระดับประเทศตนเอง เพื่อให้เชื่อว่าพวกเขาสามารถปกครองโลกได้ แต่ทว่าตอนนี้เรื่องความเป็นเจ้าอำนาจของโลกซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นจริงๆ กลับกลายเป็นว่าสหรัฐอเมริกาทำได้ไม่ดีพอ
1
“ดั๊ก แบนโดว์” นักเขียนทางการเมืองชาวอเมริกันและอดีตผู้ช่วยพิเศษสมัยเรแกนเป็นประธานาธิบดีเป็นผู้เขียนเนื้อหาดังกล่าวไว้ใน The American Conservative เผยแพร่เมื่อ 25 กรกฎาคม 2024 จุดประสงค์ก็คงอยากเรียกร้องให้ฝ่ายบริหารที่เข้ามาในทำเนียบขาวสมัยถัดไปอย่าทำตัวเหมือนไบเดน และเขาได้ย้ำถึงบทเรียนที่แสนเจ็บปวดด้านนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ นั่นคือ “พวกเราจะเข้ามาสร้างสันติภาพในอัฟกานิสถาน! ผ่านไปกว่า 20 ปี จบลงยังไง ได้เรื่องไหม?”
1
เครดิตภาพ: Sgt Rupert Frere RLC / Crown / The Oracle
“เมื่อไบเดนพยายามปกปิดอาการสมองเสื่อมที่กำลังคืบคลานเข้ามา เขาบอกกับนักข่าวว่า - คุณรู้ไหมว่า ผมไม่ได้แค่จะหาเสียง แต่ผมกำลังบริหารทั้งโลกอยู่ เยี่ยมมาก!” อดีตผู้ช่วยพิเศษของ โรนัลด์ เรแกน บ่น
1
ตอนนี้คนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพันธมิตรของสหรัฐฯ กำลังลากวอชิงตันเข้าสู่สงครามและความขัดแย้งครั้งแล้วครั้งเล่า เหตุการณ์ต่างๆ ที่น่าชวนคิดอย่างเช่น
  • เกาหลีใต้เรียกร้องถึง “การรับประกันจากอเมริกา” ว่าจะมีการโจมตีไปยัง “เกาหลีเหนือ” ด้วยอาวุธนิวเคลียร์ในกรณีที่มีความจำเป็น (อย่างโดนโจมตีก่อน)
  • “ชาวไต้หวัน” ไม่ต้องการสมัครเข้าไปรับใช้ชาติ โดยหวังว่าพวกเขาจะได้รับความคุ้มครอง “ภัยคุกคามของจีน” จากอเมริกา (ด้านการทหารและอาวุธ)
2
  • สหรัฐฯ พยายามต่อสู้กับ “กลุ่มฮูตี” แม้ว่าพวกเขาจะเข้าไปแทรกแซงการค้าระหว่างเอเชียกับยุโรปก็ตาม
  • “อิสราเอล” ผลักดันให้สหรัฐฯ ทำสงครามโดยตรงกับ “อิหร่าน” (พยายามทำให้อิหร่านเปิดหน้า)
  • “กลุ่มรัฐบอลติก” ยุให้อเมริกาทำสงครามกับรัสเซียเป็นประจำ (ผ่านข่าวชวนเชื่อต่างๆ)
  • ฝรั่งเศสพยายามส่งทหารเข้าไปใน “ยูเครน” แต่ให้เป็น “ในนามของนาโต”
  • “อังกฤษ” ไม่สามารถป้องกันภัยคุกคามทางทหารโดยตัวเองลำพังได้ จึงเรียกร้องให้อเมริกาทำอะไรซักอย่างในการเริ่มโจมตีรัสเซีย และล่าสุดอดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพยูเครน “นายพลซาลุจนี” ซึ่งตอนนี้เป็นทูตยูเครนประจำกรุงลอนดอน เพิ่งมีปาฐกถาเตือนชาวตะวันตก (ที่เป็นโลกประชาธิปไตย) เตรียมพร้อมสำหรับสงครามยุคใหม่ที่กำลังย่างกรายเข้ามา
3
แม้แต่ใน “ช่วงสงครามเย็น” แบนโดว์ยอมรับว่าอเมริกาแทบจะไม่เคยควบคุมสถานการณ์ได้เลย เมื่อเทียบกับตอนนี้มันยิ่งไปกันใหญ่แล้ว
อเมริกากำลังเดินเกมผิดพลาดอีกครั้งใน “สงครามกับรัสเซีย” ส่วนประเทศเล็กๆ ในเอเชียอย่าง “เกาหลีเหนือ” ขนาดมีคำแถลงจากประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาถึงหกคนติดต่อกันว่าไม่ให้ยึดครองอาวุธนิวเคลียร์และทำการทดสอบ แต่พวกเขาก็เดินหน้าไม่เลิก ส่วนเรื่อง “การจัดการในเอเชีย” เป้าหมายเพื่อยั่วยุจีนนั้นก็ทำได้ไม่ดีนัก
1
ผู้เขียนบทความต้นเรื่องเตือนว่า เป้าหมายสำหรับพันธมิตรสหรัฐฯ คือการส่งเสริมเพิ่มความมั่นคงให้กับอเมริกาซึ่งหมายถึงการสร้างและรักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ทำให้สงครามมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยลง ไม่ใช่ทำให้มีโอกาสเกิดสงครามมากขึ้น ดังนั้นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนต่อไปไม่ควรพยายาม “เข้ามาก้าวก่ายคนอื่นทั่วโลก” เพราะยังไงก็ทำไม่ได้อยู่แล้ว
2
บทความต้นเรื่องอ้างอิงได้จากลิงก์ด้านล่างนี้
ผู้เขียนต้นเรื่องออกมาพูดช้าไปหรือไม่? ดูเหมือนเป็นการเริ่มให้คำแนะนำเมื่อทุกคนเห็นได้ชัดเจนแล้วว่าอเมริกาไม่สามารถบริหารจัดการวิกฤตได้ สถานการณ์เริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ และคนที่มีความคิดเริ่มก่อสงครามของอเมริกาที่สร้างความยุ่งเหยิงกำลังพยายามซ่อนตัวที่ไหนสักแห่งเพื่อให้ความโกลาหลที่พวกเขาสร้างขึ้นนิ่งไปก่อน แต่ไม่ช้าก็เร็ว ยิ่งอเมริกาอ่อนแอลงเท่าไร ผู้คนก็ยิ่งต้องการคำตอบ (จากปากที่คนเป็นต้นเหตุ) มากขึ้นเท่านั้น
1
เรียบเรียงโดย Right Style
26th July 2024
  • แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
<เครดิตภาพปก: The Economist>
โฆษณา