จากคำพูดเล่นๆ ของเด็กสาวมัธยมที่เกือบทำให้ธนาคารญี่ปุ่นล้ม
ผมได้อ่านหนังสือ Crossover Creativity ที่เขียนโดย Dave Trott ได้เล่าเรื่องไม่น่าเชื่อแต่เป็นเรื่องจริงของเรื่องนี้ไว้
เรื่องนี้ต้องย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ปี 1973 ที่ประเทศญี่ปุ่น ได้มีนักเรียนหญิง 3 คนคุยเล่นกันบนรถไฟ พวกเธอคุยกันว่าจะไปทำงานที่ไหนหลังจากที่เรียนจบแล้ว ซึ่งนักเรียนหญิงคนหนึ่งบอกว่าเธอได้งานที่ธนาคารโทโยคาวะ ชินกินแล้ว เพื่อนสาวอีก 2 คนได้ยินเช่นนั้นจึงนึกหยอกแกล้งแหย่เธอเล่น โดยพูดว่าการทำงานที่ธนาคารอันตรายออกเสี่ยงที่จะโดนโจรเข้ามาปล้น
นักเรียนหญิงคนนั้นเมื่อกลับถึงบ้านจึงเข้ามาถามแม่ว่าถ้าหนูทำงานที่ธนาคารโทโยคาวะ ชินกิน จะมีความเสี่ยงจริงไหม แต่แม่ของเธอได้ยินลูกถามแบบนี้กลับไปเข้าใจว่าธนาคารโทโยคาวะ ชินกินกำลังตกอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยงทางธุรกิจ แม่เธอจึงไปถามญาติที่ทำงานในร้านเสริมสวยว่าเคยได้ยินข่าวลือของธนาคารโทโยคาวะ ชินกินบ้างไหม
วันที่ 10 ธันวาคม ญาติคนนั้นก็หมั่นถามลูกค้าที่มาเสริมสวยว่าเคยได้ยินข่าวเรื่องธนาคารโทโยคาวะ ชินกินเสี่ยงจะล้มละลายบ้างไหม
วันที่ 13 ธันวาคม หนึ่งในลูกค้าร้านเสริมสวยคือเจ้าของร้านซักแห้ง ก็ได้ยินลูกค้าที่มาร้านกำลังคุยโทรศัพท์เรื่องถอนเงิน 1.2 ล้านเยนออกจากธนาคาร เจ้าของร้านซักแห้งทึกทักเอาเองว่าเขาถอนเงินออกมาเพราะธนาคารกำลังเสี่ยงจะล้มละลาย เธอจึงตัดสินใจถอนเงินตัวเองทั้งหมด 1.8 ล้านเยนออกจากธนาคารโทโยคาวะ ชินกิน พร้อมกับยังได้บอกเตือนกับเพื่อนฝูงคนรู้จักว่าธนาคารกำลังจะล้มละลายแล้วให้รีบไปถอนเงินออกซะ
ข่าวได้ถูกบอกต่อส่งออกไปเป็นทอดๆ บ้างก็บอกธนาคารกำลังเสี่ยงล้มละลาย บ้างก็บอกธนาคารจะล้มละลาย บ้างก็บอกพรุ่งนี้ธนาคารต้องปิดตัวลงแล้ว ทำให้มีผู้คนจำนวนมากมาที่ธนาคารเพื่อถอนเงินออก ตำรวจต้องเข้ามาควบคุมความเรียบร้อยของฝูงชนที่พากันมาถอนเงินที่ธนาคาร และเมื่อผู้คนเห็นตำรวจมาก็ยิ่งพาลเข้าใจว่าสถานการณ์ของธนาคารวิกฤติทำให้เชื่อว่าธนาคารโทโยคาวะ ชินกินกำลังล้มละลายจริงๆ ผู้คนจึงยิ่งมุ่งหน้ามาถอนเงินออกจากธนาคารมากขึ้นเรื่อยๆ ผลคือลูกค้ากว่า 59 รายแห่ถอนเงินออกมากกว่า 50 ล้านเยนภายในวันเดียว
วันที่ 14 ธันวาคม ธนาคารโทโยคาวะ ชินกิน ต้องออกมาประกาศว่าจะจ่ายเงินให้กับทุกคนที่มาถอนเงินขอให้ทุกคนอยู่ในความสงบ เพียงแต่ด้วยคนมาถอนเงินมีจำนวนมากจึงจะขอปัดเศษตัวเลขลงเพื่อให้การจ่ายเงินคืนเป็นไปอย่างรวดเร็ว พอผู้คนได้ยินเช่นนี้กลับยิ่งเข้าใจผิดไปอีกว่าธนาคารไม่มีเงินพอจะจ่ายดอกเบี้ยให้ด้วยซ้ำจึงต้องขอปัดเศษเงินลง สถานการณ์จึงยิ่งกลับเลวร้ายลง
ด้วยเหตุนี้ วันที่ 15 ธันวาคม ธนาคารโทโยคาวะ ชินเก็น จึงต้องเชิญสื่อมาและจัดแถลงข่าวพร้อมทั้งแสดงภาพห้องนิรภัยภายในธนาคารที่มีปึกธนบัตรวางซ้อนกันสูงเป็นเมตรวางเรียงกันกว้างกว่า 5 เมตร ให้ประชาชนได้เห็นว่าธนาคารโทโยคาวะ ชินเก็นมีเงินและมั่นคงมากแค่ไหน ไม่ได้เสี่ยงจะล้มละลายอย่างที่มีข่าวลือกัน
สถานีโทรทัศน์แห่งชาติ NHK หนังสือพิมพ์ยักษใหญ่อาซาฮี ชิมบุน, โยมิอุริ ชิมบุน, ไมนิจิ ชิมบุน รวมไปถึงธนาคารกลางประเทศญี่ปุ่น ธนาคารกลางชินเก็น และสมาคมธนาคารชินกินแห่งชาติ ต่างออกมาช่วยสมทบว่าข่าวลือธนาคารโทโยคาวะ ชินเก็นจะล้มละลายนั้นไม่เป็นความจริง นับเป็นวาระแห่งชาติที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันเพื่อแสดงความน่าเชื่อถือของธนาคารโทโยคาวะ ชินเก็น ด้วยเหตุนี้ทุกอย่างจึงอยู่ในความสงบ ผู้คนจึงเลิกไปถอนเงินกัน
จะเห็นได้ว่าภายใน 8 วัน จากเรื่องแกล้งหยอกกันเล่นของนักเรียนสาว 3 คน ลุกลามใหญ่โตกลายเป็นปัญหาของประเทศ เหมือนเรื่องน้ำผึ้งหยดเดียวที่เราได้พูดถึงกันไป
ผู้คนมักเต็มใจที่จะทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ และมักทำให้ข่าวร้ายรุนแรงกว่าความเป็นจริงเสมอ ดังนั้นเราควรมีสติคิดพิจารณาข่าวสารที่เข้ามาให้ดี ก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรลงไปกันครับ
- 138
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
