29 ก.ค. เวลา 11:00 • หนังสือ

ไอแซค อสิมอฟ กับ ประเด็น “ตายแล้วสูญ”

โพสต์เรื่องศาสนากับ 'ค่ายเพลง'
ทำให้นึกถึงนักเขียนระดับปรมาจารย์ ไอแซค อสิมอฟ ผู้มีมุมมองชีวิตน่าสนใจ นำมาให้อ่านเพื่อ 'ขะ-หยาย-กะ-บาน' โปรดใช้วิจารณญาณเอาเองนะครับ
โลกรู้ว่า ไอแซค อสิมอฟ มีโลกทัศน์กว้างไกลข้ามจักรวาล เขาไม่เคยปิดบังเรื่องมุมมองเรื่องศาสนาและชีวิตหลังความตาย
ในบทสัมภาษณ์ครั้งหนึ่ง อสิมอฟบอกว่า เขาเชื่อว่าหลังจากเขาตาย จะไม่มีอะไร ไม่มีชาติหน้า ไม่เกิดอะไร ชีวิตจบแค่นี้
ในบ้านเรา หากใครพูดแบบนี้ จะมีคำถามแย้งมาโดยอัตโนมัติเสมอว่า "ถ้าตายแล้วสูญ เราก็ทำชั่วได้ทุกอย่างซี ฆ่าใคร ข่มขืนใครก็ได้"
นี่จัดเป็นตรรกะวิบัติ โยงสองเรื่องเข้าด้วยกัน คล้ายๆ บอกว่า ถ้าเรามีมีด เราก็ต้องแทงคน ทั้งที่เจ้าของมีดอาจใช้หั่นผัก ถ้าเลี้ยงไก่ ก็ต้องเชือดเป็นอาหาร ทั้งที่อาจเลี้ยงไก่เป็นเพื่อนแก้เหงาก็ได้
ไอแซค อสิมอฟ บอกว่า "มีเหตุผลเดียวเท่านั้นหรือที่คุณมีศีลธรรมและจริยธรรมเพราะมันเป็นใบเบิกทางไปสวรรค์? มันคือเหตุผลเดียวหรือที่คุณไม่ตีลูกจนตาย เพราะคุณไม่ต้องการตกนรก? ผมรู้สึกว่ามันดูหมิ่นมนุษย์โดยทึกทักเอาเองว่า มีแต่ระบบให้รางวัลและการลงโทษ จึงทำให้คุณเป็นคนดี คิดไม่ออกหรือว่าคนคนหนึ่งต้องการเป็นคนดีเพราะมันเป็นทางที่ทำให้เขารู้สึกดีขึ้น? เพราะมันเป็นทางที่ทำให้โลกดีขึ้น?"
1
ไอแซค อสิมอฟ พูดต่อไปว่า "ผมอยากคิดว่า... ผมไม่เชื่อว่าผมจะไปสวรรค์หรือนรก ผมคิดว่าเมื่อผมตาย มันไม่มีอะไร นั่นคือสิ่งที่ผมเชื่ออย่างหนักแแน่น นั่นไม่ได้แปลว่าผมจะอยากไปปล้น ขโมย และข่มขืนใคร และอื่นๆ เพราะผมไม่กลัวบทลงโทษ"
แล้วถ้าให้เขาตอบคำกล่าวที่ว่า "ถ้าตายแล้วสูญ เราก็ทำชั่วได้ทุกอย่างซี ฆ่าใคร ข่มขืนใครก็ได้" อสิมอฟบอกว่า "ผมกลัวบทลงโทษจากมโนธรรมของผมเอง ผมมีมโนธรรม มันไม่ได้เกิดจากศาสนา..."
3
โฆษณา