29 ก.ค. เวลา 13:38 • ท่องเที่ยว

ท่องสวนสนุกในอ้อมกอดเมฆและหมอกที่ Sun World Bana Hills ดานัง

ดานังเป็นเมืองที่อยู่ตอนกลางของเวียดนาม มีความเป็นเมืองที่ทันสมัย และก็มีธรรมชาติที่แสนจะฮีลใจทั้งทะเลและภูเขาที่เขียวชะอุ่ม ทริปดานังของเราอยู่ในช่วงฤดูร้อนและฝนของดานัง เราเลยเจอฝนบ้างเป็นบางช่วงแต่ก็ยังมีแดดออกนะ ไม่ใช่ตกตลอด ด้วยความที่ฝนตกนี่แหละเลยทำให้ได้สัมผัสถึงความร่มรื่นเขียวขจีตอนนั่งเคเบิ้ลคาร์ขึ้นเขาไป Sun World Bana Hills หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาด ภูเขาเขียวได้ใจ สดชื่นมาก
เคเบิ้ลคาร์ขึ้นเขา
ทริปนี้เราซื้อตั๋ว Sun World Bana Hills ล่วงหน้าจาก Klook ซึ่งมีให้เลือกหลายแบบว่า จะเลือกแค่ตั๋วเข้าสวนสนุกอย่างเดียวพร้อมบริการรถรับส่งหรือพักค้างคืน Sun World Bana Hills เป็นสวนสนุกที่ตั้งอยู่บนเขา จริง ๆ ไม่ได้มีแค่เครื่องเล่นอย่างเดียว มีร้านอาหารที่หลากหลาย โรงแรม และร้านขายของที่ระลึก และที่ระทึกอย่าง Pop Mart ขนาดเราไม่ได้เข้าวงการอาร์ตทอยเข้าไปแล้วก็อยากจะร้องกรี๊ดดัง ๆ เอาเข้าจริงก็กรีดร้องเบา ๆ ในใจ
Pop Mart ที่ Bana Hills
ก่อนถึงวันเดินทางไป Bana Hills ทางจนท.จะส่งอีเมลมาคอนเฟิร์มกับเราว่า จะมารับเราที่จุดไหน กี่โมง พร้อมด้วยเลขทะเบียนรถ และพอถึงวันจริงจนท.ก็จะเมสเสจมาทาง Whatsapp อีกรอบ เรามาถึงจุดขึ้นรถก่อนเวลา วันนั้นฝนตกปรอย ๆ ก่อนที่รถจะมาถึงเราก็ได้รับข้อความจากพนักงานขับรถว่า รถกำลังมานะ ทะเบียนรถเลขที่นี้
ระหว่างรอรถ ลูกค้าที่ซื้อตั๋วเหมือนเราก็ทยอยกันมา พอรถมาถึง เราก็โชว์อีเมลที่คอนเฟิร์มการจองหรือแจ้งชื่อให้กับพนักงานขับรถ ขึ้นไปก็มีผู้โดยสารคนอื่นที่ขึ้นรถจากจุด Pick up ก่อนหน้าเรา ก่อนออกรถ พนักงานก็นับจำนวนผู้โดยสารอีกรอบ
บรรยากาศภายใน
จากตัวเมืองดานังไปสวนสนุกใช้เวลาประมาณ 45 นาที ออกจากเมืองมาก็จะเห็นภูเขาเขียวชะอุ่มเรียงราย ข้อดีคือเวียดนามใส่ใจเรื่องการดูแลต้นไม้ บนเกาะกลางถนนเราจะเห็นต้นไม้สวยงาม ส่วนข้างทางก็จะมีการปลูกไม้ยืนต้น เมื่อถึง Bana Hills เรียบร้อย พนักงานขับรถจะส่งข้อความถึงทุกคนว่า รถจะมาจอดรับที่ล็อตหมายเลขอะไร แนะนำเราให้ลงเคเบิ้ลคาร์รอบไหน เพื่อที่จะได้กลับมาขึ้นรถตามเวลา
ศาลเจ้าท่ามกลางหมอกหนาทึบ
ว่าด้วยเรื่องเคเบิ้ลคาร์บน Bana Hills นั้น สายที่ขึ้นและลงเขาจะอยู่คนละสถานีกัน ตอนที่เราไปเวียดนามเมื่อเดือนมิ.ย.ซึ่งเป็นช่วงปิดเทอมของที่นั่น เด็กและนักท่องเที่ยวตรึม ต่อแถวรอขึ้นเคเบิ้ลขากลับลงจากเขานี่นานอยู่ ถ้าไม่เผื่อเวลาให้ดี อาจตกรถได้ เพราะกว่าจะได้ขึ้นเคเบิ้ลคาร์ช่วงคนทยอยกลับนี่ หลายนาทีอยู่เหมือนกัน
2
ความแน่นของต้นไม้
เมื่อมาถึง Bana Hills แล้วก็เตรียมเปิด QR code ที่เปรียบเสมือนตั๋วเพื่อขึ้นเคเบิ้ลคาร์ เราไปเที่ยวดานังเดือนนี้ นักท่องเที่ยวไม่เยอะเท่าคราวที่แล้ว ก็เลยใช้เวลาต่อแถวไม่นานมาก สแกน QR code เสร็จก็ต่อแถวขึ้นเคเบิ้ลคาร์ เพื่อสัมผัสกับความงามที่มากับฝน
เห็ดน้อยและเฟิร์นบนเขา
ความเขียวชอุ่มของต้นไม้หลากชนิดบนเขาที่โบกมือพลิ้วไหวเหมือนกับคอยต้อนรับแขกผู้มาเยือน ลมที่พัดตึง และเมื่อขึ้นเขาสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ เราก็จะได้สัมผัสกับความเย็นยะเยือก ระหว่างทางขึ้นเขาจะมีน้ำตกขนาดใหญ่และขนาดเล็กแทรกตัวอยู่ท่ามกลางป่าเขาที่มีต้นไม้แน่นขนัด
น้ำตกระหว่างทางขึ้นเขา
เมื่อขึ้นถึงยอดเขา เราก็จะเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเมฆและหมอก อากาศเย็นสบายมาก บางช่วงที่ลมพัดตึงนั้นจัดว่าหนาวเลยทีเดียว ดีว่าเอาเสื้อกันแดดไปด้วยเลยได้เอามาสวมทับอีกที ออกมาจากเคเบิ้ลคาร์แล้ว เราก็จะเข้าไปอยู่ในดินแดนแห่งดวงอาทิตย์ และจะได้พบกับโซนของเครื่องเล่นต่าง ๆ ม้าหมุน เครื่องเล่นคล้าย ๆ ชิงช้าสวรรค์ที่เหวี่ยงขึ้น ๆ ลง ๆ
1
โซนเครื่องเล่น
ที่สนุกคือพวกปาเป้าปาบอลตักปลาตักเป็ดทั้งหลาย มีอยู่ครอบครัวหนึ่ง เด็ก ๆ ปาเป้ากันเก่งมาก ได้ตุ๊กตาตัวใหญ่มากอดกันตั้งแต่ต้นทริป 2 คนเลย ตอนแรกก็ว่าจะลองบ้าง แต่ดูราคากับจำนวนครั้งของการตักปลาตักเป็ดแล้วไม่น่าจะครั้งเดียวได้
ตักเป็ดกัน
แนะนำว่าก่อนที่จะขึ้นเคเบิ้ลคาร์ จะมีเคาน์เตอร์แจกแผนที่ซึ่งมีแผนที่ภาษาไทยด้วย ถือติดมือไว้ช่วยวางแผนได้ว่าจะจ่อมที่ไหนบ้าง เมื่อเดินถัดจากโซนเครื่องเล่นที่บอกไปเราก็จะถึงทางเดินขึ้นไปศาลเจ้า ระหว่างทางต้นไม้ ดอกไม้ และอ่างบัวที่ปลูกเรียงรายนั้น งามมาก บัวสีส้มอมชมพูออกดอกสวยหวาน ไฮแดรนเยียช่อกลมอัดแน่นไปด้วยดอกเล็ก ๆ สีชมพูอ่อนไล่ไปจนถึงชมพูเข้ม นับถือคนสวนที่นี่เลย ดูแลต้นไม้ดอกไม้ดีมาก
1
บอนไซกุหลาบหน้าร้านชา น่ารักมาก
เมื่อเราเดินขึ้นไปจะพบกับจุดชมวิวที่มีร้านน้ำชาตั้งอยู่ บริเวณโดยรอบมีจุดชมวิว ด้วยความที่เราอยู่ในหมอก มองไปทางไหนก็ขาวโพลน ลมพัดมาเป็นระลอก ๆ ทีแรกว่าจะเข้าไปจิบชาในร้าน แต่ยังมีอีกหอระฆังและศาลเจ้าลินห์ตื่อรออยู่บนเขาซึมซับบรรยากาศและน้องบอนไซกุหลาบเสร็จ ก็ออกเดินต่อ เจอไม้ยืนต้นออกดอกสีม่วง ไม่รู้ชื่อ แต่นางออกดอกทุกช่อ ม่วงฉ่ำมาก นักท่องเที่ยวจึงหยุดถ่ายกับนางอยู่เป็นระยะ ๆ นอกจากต้นดอกไม้สีม่วงนี้แล้ว ไม้ดอกที่เป็นไม้ยืนต้นก็ออกดอกฉ่ำไม่แพ้กัน
สีม่วงแจ่มมาก
ทางเดินจากเจดีย์ไปยังศาลเจ้านั้น รายล้อมไปด้วยต้นไม้ตามธรรมชาติและต้นไม้ที่ทาง Bana Hills ปลูก รวมทั้งมอส เฟิร์น เห็ดพันธุ์เล็กพันธุ์น้อยชูช่อชุ่มฉ่ำ เมื่อเดินไปถึงหอระฆังและศาลเจ้าจะมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่และพระพุทธรูปและศาลเจ้าให้ได้เข้าไปสักการะบูชา
ขอนไม้กับเห็ดบนทางเดินไปศาลเจ้า
ได้ไหว้พระท่ามกลางอากาศที่เย็นฉ่ำแล้วเราก็ลงมามุ่งสู่ทางโลก ด้วยการไปถ่ายรูปโซน Medieval หรือยุคกลางที่มีอาคารสมัยโบราณไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปกัน ถัดมาก็จะเป็นโซนของการแสดงหรือจตุรัสนิรันดร์ ซึ่งมีทั้งโชว์สเก็ตแบบโรลเลอร์เบลด ร้องเพลง และการแสดงอื่น ๆ เป็นโชว์เล็ก ๆ แต่ฝีมือไม่ธรรมดาทั้งนักสเก็ตและนักร้อง
ความยุโรป
จากจุดนี้ เรากับลูกสาวเดินขึ้นไปถ่ายรูปตรงสวนกุหลาบ และเช่นเคย กุหลาบที่ปลูกสีสันสวยงาม มีสีม่วง สีส้มอมเหลือง สีแดงเข้มสุดใจ ปลูกและดูแลได้เก่งมาก แล้วก็แวะพักกันที่สตาร์บัคส์ ซึ่งเป็นอีกร้านที่ขายดีตลอด นั่งจิบมัทฉะลาเต้ร้อน ๆ กับขนมก็เรียกพลังกลับคืนมาได้
1
ออร่าน้องมอลลี่
ว่าแล้วก็เดินเข้า Pop Mart กัน ชั้นที่ 1 ก็จะมีเชลฟ์วางน้องต่าง ๆ และโมเดลสุดน่ารัก ที่ดัง ๆ ก็จะติดป้าย Sold Out กันถ้วนหน้า ขนาดไม่ได้เข้าวงการยังแอบหลงรักน้อนอาร์ตทอยเหล่านี้ไม่ได้ ลาบูบู้ มอลลี่ สกัลแพนด้า ฮิโรโน่ ต่างเปล่งประกายความเป็นตัวของตัวเองและความน่ารักอย่างเต็มที่
1
ต้นเหตุเสียงกรี๊ดสนั่นร้าน
ว่าแล้วก็ถ่ายรูปกับน้องตรงบันไดและส่องน้องไปจนถึงชั้น 2 ก็ได้ยินเสียงกรี๊ดดังลั่น กรี๊ดแบบปลื้มสุดขีด พร้อมกับเสียงพูดคุยเป็นภาษาเกาหลี นั้นแหละครับท่านผู้ชม สาวกเหล่านี้เป็นชาวเกาหลี นางจุ่มได้ Cry Baby ผลงานศิลปินไทยที่เป็นคอลเลคชั่นใหม่ แอบดูตอนนางถ่ายรูปเรียงแถวชูน้อนของตัวเองแล้วก็ให้เข้าใจว่า ถ้าฉันจุ่มได้เหมือนเธอ ฉันก็จะกรี๊ดเหมือนกัน
1
บู้ใน Pop Mart
หลังจากที่แสดงความยินดีในใจกับสาวกกลุ่มนี้แล้ว ก็ให้โดนตกบ้าง ได้กระเป๋ามอลลี่มา 1 ใบ น้อนน่ารักเกินต้าน แต่ลูกสาวเราไม่ได้อยู่ในวงการ นางใจแข็งเลยไม่ได้สอยอะไร แต่อย่าคิดนะว่า นางจะไม่โดนตก ไว้ตามอ่านกันต่อนะคะ ว่านางโดนตกที่ไหน 555
ร้านและซุ้มอาหารกระจายอยู่ทุกที่
ใช้เวลาอยู่ใน Pop Mart นานอยู่เหมือนกัน จากนั้นเราก็เดินมาตรงลานอาหาร ซึ่งมีคราฟท์เบียร์หน้าตาดี เสริฟ์พร้อมหมูย่าง ไส้กรอกย่าง แต่ลูกอยากทานไก่ทอดเลยเข้าร้าน Roza Fried Chicken ที่อยู่ตรงโซนสวนกุหลาบ ระหว่างสั่งอาหาร สายตาก็ไปสะดุดกับแก้วเบียร์ดำ สั่งมาลอง 1 แก้ว ดีงามมาก ไก่ทอดแกล้มเบียร์ฟีลซีรีส์เกาหลียังไงยังงั้น เติมพลังแล้วเราก็ปล่อยลูกสาวเดินเล่นตามสะดวก
กรอบนอกนุ่มใน
นั่งรอนางสักพักกลับมาแล้วก็ขึ้นเคเบิ้ลคาร์ไปโซน B2 เพื่อไปชม Golden Bridge สะพานรูปทรงโค้งที่มีมือรองรูป หนึ่งในแลนด์มาร์กของดานัง ซึ่งเมื่อยืนอยู่บนสะพานเราก็จะได้เห็นวิวทิวทัศน์ไกลสุดลูกหูลูกตา นักท่องเที่ยวถ่ายรูปกันเยอะ ถ้าอยากจะถ่ายรูปมุมไหน ก็ให้รีบพุ่งตัวไปต่อคิว ถ้าคิวยาวก็เดินไปถ่ายรูปตรงมุมอื่นก่อนแล้วค่อยย้อนกลับมาจุดยอดนิยมก็ได้
Golden Bridge
จาก Golden Bridge เราก็ไปเดินต่อไปที่สวนเทียนทาย ระหว่างทางที่ Bana Hills ถ้าหิวหรืออยากเข้าห้องน้ำนี่ ไม่ต้องห่วงเลย ระหว่างทางจะมีซุ้มขายฮ็อทด็อก โดนัทเวียดนาม ขนม น้ำมะพร้าว น้ำดื่มทุกประเภทพร้อมให้บริการ เช่นเดียวกับห้องน้ำที่มีกระจายอยู่ตามโซนต่าง ๆ
เดินผ่านย่านนี้อย่างหอม
ถ่ายรูปดอกไม้ ใบหญ้ากันเรียบร้อยแล้วก็เตรียมลงเขา คราวนี้แถวขึ้นเคเบิ้ลคาร์เพื่อลงเขาไม่ยาวเท่าคราวที่แล้ว ตอนขาลงก็ลมพัดเย็นสบายเช่นเคย ชมวิวไป แป๊ปเดียวก็ถึงข้างล่างแล้ว ขากลับจะมีร้านขายขนม ชาของเวียดนาม เราลองชาอาร์ติโช้ค (Artichoke) ไป หอมหวานชื่นใจ พนักงานขายบอกเป็นชาที่ไม่ได้ใส่น้ำตาลแต่ใส่หญ้าหวาน สงสัยจะเหนื่อยมา ได้จิบชาแล้วชื่นใจ ที่ถูกใจอีกอย่างก็คือลูกหม่อนกวน เปรี้ยวอมหวาน เข้าใจทำขาย
อีกหนึ่งมุมของสวน
ลงมาแล้วก็ไปเดินไปที่จอดรถ รถจะจอดตรงล็อตที่แจ้งไว้ ระหว่างนี้ เราก็จะได้เมสเสจถามว่าอยู่บนรถรึยัง พอผู้โดยสารขึ้นรถกันครบ พนักงานขับรถก็นับจำนวนผู้โดยสารอีกที พอครบก็ออกเดินทาง ขากลับได้ยินเสียงคนกรนและงีบหลับกันเป็นแถบ ๆ นับเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่ไปได้ทุกวัยนะ Bana Hills
โฆษณา