30 ก.ค. เวลา 11:48 • การเมือง

"อีลอน มัสก์" ผู้หันขวับ 180 องศา จาก “ซ้าย” ไป “ขวา”

“อีลอน มัสก์” เป็นเซเลบคนดังที่เรารับรู้ข้อเท็จจริงที่ว่า เมื่อหลายปีก่อนเขาเริ่มเปลี่ยนแนวคิดทางการเมืองจากอยู่ “ฝ่ายเสรีนิยม” (ซ้าย) มาเป็น “ฝ่ายอนุรักษนิยม” (ขวา) โดยเริ่มต่อต้านสื่อฝ่ายเสรีนิยมและแม้แต่ส่งเสริมแนวคิดที่สนับสนุนทรัมป์ เป็นพวก MAGA ไป
เขายังได้มีแนวคิดต่อต้าน “กระแส Woke” (พวกตื่นรู้ถึงความไม่เท่าเทียมกันในสังคมอเมริกันมากจนเกินไปออกนอกหน้าไม่ฟังอะไร เช่น Black Live Matters, LGBTQ, Antisemitism) และเขาเพิ่งเปิดเผยเหตุผลส่วนตัวของเขาสำหรับการเปลี่ยนแปลงแนวคิดทางการเมืองของเขา มาลองติดตามอ่านกัน
1
เครดิตภาพ: Mother Jones; Str/NurPhoto/ZUMA; Starmax/Newscom/ZUMA
ก่อนอื่นล่าสุดเมื่อไม่กี่วันก่อน (28 กรกฎาคม 2024) มัสก์ออกมาเรียก “กมลา แฮร์ริส” ตัวแทนชิงประธานาธิบดีของฝั่งเดโมแครตว่าเป็นพวก “Extinctionist” อธิบายง่ายๆ คือ แนวความคิดที่ส่งเสริมให้มนุษย์มีโอกาสสูญพันธุ์ผ่านการต่อต้านการเพิ่มอัตราการเกิด
ก่อนอื่นเรื่องมันเริ่มมาจากการที่ “โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์” (ลูกทรัมป์) ออกมาโพสต์บน X แนบไฟล์วิดีโอการให้สัมภาษณ์ของแฮร์ริสเมื่อกันยายน 2023 เธอพูดถึงความไม่เต็มใจของคนหนุ่มสาวที่จะเริ่มต้นครอบครัวและซื้อบ้านใหม่ และ “โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีลูก” เนื่องมาจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอนาคตของสภาพภูมิอากาศ หลังจากนั้นไม่เกินชั่วโมง “มัสก์” ก็โหมโรงโพสต์เรียกแฮร์ริสว่าเป็นพวก “Extinctionist”
อ้างอิง: [1]
2
แฮร์ริสมีความมุ่งมั่นต่อนโยบายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่รุนแรง ซึ่งได้รับการยืนยันจากข้อเท็จจริงที่ว่าเธอได้รับการสนับสนุนแรงกล้าจากหนึ่งในผู้ริเริ่มนโยบายดังกล่าวคือ อดีตรองประธานาธิบดี “อัล กอร์” (สมัยคลินตัน) ซึ่งเขาเขียนเชียร์แฮร์ริสว่า
ในฐานะอัยการสูงสุด (ของรัฐแคลิฟอร์เนีย) กมลา แฮร์ริส ยืนหยัดต่อต้านบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่และได้รับชัยชนะ ในฐานะรองประธานาธิบดี เธอลงคะแนนเสียงให้สามารถกฎหมายลดเงินเฟ้อซึ่งเป็นการลงทุนครั้งที่สำคัญที่สุดในการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในประวัติศาสตร์อเมริกา
เธอคือผู้ชนะเลิศด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เราต้องการในทำเนียบขาว ด้วยเดิมพันมากมายในการเลือกตั้งปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นการเสริมสร้างประชาธิปไตยในประเทศและต่างประเทศ การขยายโอกาสสำหรับชาวอเมริกัน และการเร่งดำเนินการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ผมภูมิใจที่ได้สนับสนุน กมลา แฮร์ริสเป็นประธานาธิบดีสมัยนี้
1
อ้างอิง: [2]
อัล กอร์ (ในวงกลม) เครดิตภาพ: Reuters, X/@ProfDBernstein Photos
“อีลอน มัสก์” เปิดเผยเรื่องราวส่วนตัวที่น่าเศร้าของเขาในบทสัมภาษณ์กับคอลัมน์นิสต์ฝ่ายอนุรักษนิยม ดร. จอร์แดน ปีเตอร์สัน ตามที่มัสก์กล่าว ลูกชายคนหนึ่งของเขา “เซเวียร์” ถูกปั่นหัวด้วยโฆษณาชวนเชื่อเรื่องเพศทำให้เชื่อว่า เขาเป็นโรคที่เรียกว่า gender dysphoria หรือภาวะสับสนทางเพศ ความหมายที่สื่อคือ เขาเป็นผู้หญิงในร่างของผู้ชายแท้ๆ
มัสก์เชื่อว่าหากเซเวียร์ไม่ได้รับยาชะลอวัยแรกรุ่นในเด็ก (Puberty blocker) เขาก็อาจฆ่าตัวตายได้ ตามที่มัสก์กล่าว ตอนนั้นเขาไม่เข้าใจว่าการใช้ยาดังกล่าวจะหมายถึงเป็นการทำหมันวัยรุ่นคนนั้นโดยสมบูรณ์
ไม่กี่ปีต่อมาเซเวียร์ประกาศตัวว่า เขาได้เปลี่ยนตัวเองเป็นเด็กผู้หญิงแล้วและชื่อ “วิเวียน เจนนา วิลสัน” ลูกชายข้ามเพศของเขาตัดความสัมพันธ์กับพ่อของเขา มัสก์อ้างว่าลูกชายของเขา “จากโลกไปแล้ว” คำว่าจากโลกไปคือ “คนเดิมไม่มีอีกแล้ว มีแต่คนใหม่บุคลิกใหม่” “ลูกชายเปลี่ยนเป็นลูกสาว” ทั้งหมดนี้เป็นการกระทำของ “ไวรัสที่ชื่อ Woke ขึ้นสมอง” ตามที่มัสก์กล่าว
อ้างอิง: [3]
เครดิตภาพ: Financian
โดยเฉพาะอย่างยิ่งมัสก์บอกกับปีเตอร์สันว่า “ผมเห็นด้วยกับคุณที่ว่าคนที่ส่งเสริมเรื่องนี้ควรอยู่ในคุก ผมถูกหลอกให้ทำแบบนี้ ผมไม่ได้กำลังบอกว่ายาหยุดการเจริญเติบโตในวัยรุ่นเป็นเพียงยาฆ่าเชื้อ… ดังนั้นโดยพื้นฐานแล้ว ผมสูญเสียลูกชายไปแล้ว ดังนั้น คุณรู้ไหม ลูกชายของผม เซเวียร์ ก็ตายไปแล้ว ถูกสังหารโดยไวรัส Woke ทางจิตใจ”
1
ในตอนท้ายของการสนทนากับปีเตอร์สัน มัสก์กล่าวว่า “หลังจากนั้นผมสาบานว่าจะทำลายไวรัส Woke นี้ให้ได้ในสังคมอเมริกัน และเราก็มีความคืบหน้าไปบ้างแล้ว” เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เขาหันหลังให้ความเป็น “เสรีนิยม” และซบกับ “ฝ่ายอนุรักษนิยม” แน่นอนว่ามัสก์เริ่มถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากกลุ่มผู้สนับสนุนเสรีนิยมของอเมริกา แต่เขาก็ได้เลือกเส้นทางเดินแล้ว
เครดิตภาพ: Pgurus
เรียบเรียงโดย Right Style
30th July 2024
  • แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
<เครดิตภาพปก: Joshua Lott / Getty Images>
โฆษณา