31 ก.ค. 2024 เวลา 08:49 • ปรัชญา

ทำยังไง แม้เงินน้อยแค่ไหน ก็สามารถซื้อของให้ตัวเองได้

จากหนังสือทางด้านการเงินหลายๆเล่ม ที่ผมได้อ่านมา มักมีลักษณะอย่างหนึ่งที่คล้างคลึงกัน หรือเหมือนกัน นั่นก็คือการเก็บเงิน 10% ของรายได้แต่ละครั้ง หรืออาจจะน้อยกว่านั้นก็ยังได้ เพราะการเก็บทันทีที่ได้รับย่อมง่ายกว่าใช้ไปก่อน เหลือเท่าไรแล้วค่อยเก็บ ซึ่งน้อยคนนักที่จะสามารถควบคุมตัวเองได้ดีแบบนี้
ผมขอเล่าประสบการณ์ส่วนตัวของผมเองครับ เพียงแต่เป็นแนวทางเท่านั้น เผื่อว่าท่านผู้อ่านจะลองนำไปปรับใช้กับตัวเองได้ ซึ่งผมก็ประยุกต์มาจากหนังสือนักลงทุนหลายๆท่านเช่นกัน
เรื่องที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งที่อยู่ในหัวผมก็คือ ทุกครั้งที่ผมได้เงินพิเศษอะไรก็ตามแต่ ที่ไม่เกี่ยวกับรายได้ปัจจุบัน ผมกลับเสียมันไปอย่างรวดเร็ว เพราะทุกครั้งที่ได้มันมา ผมก็จะคิดทันทีว่า "จะเอาไปซื้ออะไรดีนะ" หรือ "เอาไปกินชาบูร้านไหนดี" สุดท้ายก็หมดไป เป็นแบบนี้เสมอ
ผมเริ่มกลัวสถานการณ์การเงินของตัวเอง และไม่อยากจะเป็นแบบนี้ตลอดไป ผมจึงเริ่มเก็บทุกครั้งที่มีรายได้เข้ามา เป็นเงินเก็บแบบลงทุนในอนาคต แต่เพียงแค่ 3-5% เท่านั้น ส่วนอีก 10% ผมเลือกที่จะเก็บไว้สำหรับซื้อของที่ผมอยากได้ หรืออยากจะกิน วิธีการของผมจะแตกต่างจากตำรานักลงทุนนิดหน่อย คือพวกเขาเลือกเก็บลงทุน 10% แต่ของผมเอาไว้กินกับซื้อของ (5555)
นั่นเป็นเพราะสไตล์การใช้เงินของผมซึ่งยอมรับว่าอาจไม่มีระเบียบวินัยที่ดีนัก จึงขอเลือกที่จะเก็บไว้ลงทุนในขอบเขตที่ผมพอใจ นั่นคือ 3-5% เท่านั้น ดังนั้น การเก็บเงินในกอง "ใช้เล่น 10%" มันทำให้ผมได้กินอาหารที่อยากกินทุกเดือน ส่วนเรื่องของใช้ ก็ต้องใช้ความอดทนรอคอยจนกว่าจะได้ราคาของมัน ซึ่งเป็นการฝึกการอดทนที่ดี
ถึงแม้ว่าจะให้รางวัลกับตัวเองได้ไม่บ่อย แต่มันทำให้ผมมีความสุขมาก เพราะไม่ว่าผมจะลำบากแค่ไหน เดือนชนเดือนยังไง ผมก็ยังมีเงินเล็กๆน้อยๆเหล่านี้ คอยเติมความสุขให้กับตัวผมเอง โดยที่ไม่คิดเสียดายมันเลยแม้แต่นิดเดียว
ส่วนเงินเก็บ 3-5% จนผ่านมาถึงตอนนี้ ก็เริ่มเป็นเงินก้อนที่เริ่มจะจับต้องได้บ้างแล้ว หลักการสำคัญคือ ห้ามนำออกมาใช้ จนกว่าจะนำมันไปเพื่อการลงทุนเท่านั้น
นี่คือลักษณะการเก็บเงินของผมครับ ท่านผู้อ่านมีวิธีดีดีอยากแนะนำ หรืออยากเล่าประสบการณ์ก็ช่วยเล่าให้ฟังใต้โพสนี้หน่อยครับ เพราะผมชอบที่จะเรียนรู้วิธีหลายๆแบบ ขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
โฆษณา