20 ส.ค. เวลา 03:00 • การศึกษา

สรุปสารคดี 🎥 The Social Dilemma ทุนนิยมสอดแนม

สำหรับสารคดีเรื่องนี้เป็นอะไรที่อยากแชร์มาก
เพราะตั้งแต่ที่เราเริ่มจำกัดการเล่น FB และ IG
เหลือแค่วันละ 30 นาที รู้สึกได้เวลากลับคืนมา
และมีความสุขมากขึ้นจริงๆ
ข้อมูลมาจากผู้เชี่ยวชาญในหลายสาขา
รวมถึงคนที่เคยทำงานเบื้องหลังในส่วนต่างๆ
ที่ทำให้โมเดลธุรกิจ Social Media ประสบความสำเร็จ
ด้วยเป้าหมายในการดึงความสนใจผู้ใช้
เราจะขอสรุปใจความหลักๆ ตามนี้นะคะ
1️⃣ ของฟรีไม่มีในโลก
เมื่อโจทย์ในการทำธุรกิจคือ
ทำยังไงให้เรามอบเวลาชีวิตให้เขามากที่สุด
เพื่อขายโฆษณาและทำเงินให้เยอะที่สุด
รู้ตัวอีกที เราก็กลายเป็น “สินค้า” ที่แพลตฟอร์มเหล่านี้
ขายให้กับผู้ต้องการยิงโฆษณาไปซะแล้ว
2️⃣ คาดการณ์แม่นยำชั้นเลิศ
ทุกการกระทำบนโลกออนไลน์ของเรา
ถูกบันทึก ติดตาม จับจ้อง และประเมินตลอดเวลา
จนเขารู้ว่าภาพแบบไหนทำให้เราหยุดดู
หยุดดูนานแค่ไหน และน่าจะทำอะไรต่อ
สิ่งนี้เองที่อยู่ในเกม “ใครคาดเดาได้แม่นสุด” คนนั้นชนะ
ซึ่งเป็นจุดขายให้อยากซื้อโฆษณาด้วยเป็นอย่างดี
3️⃣ เทคโนโลยีการชักจูงใจ
ม.สแตนฟอร์ด มีสาขาวิชานี้ให้เรียน
มันคือการรวมจิตวิทยาการชักจูงใจเข้ากับเทคโนโลยี
แน่นอนว่าคนดังในซิลิคอนวอลเลย์มาเรียนที่นี่กันเยอะ
แล้วเราจบอะไรมา จะไม่โดนเขาชักจูงได้อ่ะเนอะ
4️⃣ ค่าของคนอยู่ที่ผลของไลค์
Social Media ไม่เพียงเรียกร้องความสนใจจากเรา
แต่มันยังเจาะลึกเข้าไปในก้านสมอง
ยึดอัตลักษณ์กับความรู้สึกมีค่าของเรา
ทำให้เผลอเอายอด Like มาปนกับคุณค่าตัวเอง
5️⃣ การซึมเศร้าและฆ่าตัวตาย
ช่วงปี 2009 เป็นต้นมา
เด็กผู้หญิงมีอัตราการทำร้ายตัวเองสูงขึ้นมาก
วัย 10-14 ปี เพิ่มขึ้น +186%
วัย 15-19 ปี เพิ่มขึ้น +62%
และอัตราการฆ่าตัวตาย
วัย 10-14 ปี เพิ่มขึ้น +151%
วัย 15-19 ปี เพิ่มขึ้น +70%
ซึ่งทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะมี Social Media บนมือถือ
6️⃣ Machine Learning
ระบบเรียนรู้และหาสิ่งที่ใกล้เคียงกับเรื่องที่เราชอบ
มาเรียงลำดับไปเรื่อยๆ เพื่อให้เราอยู่กับหน้าจอนานขึ้น
มีกลุ่มคนเพียงหยิบมือที่เข้าใจวิธีการของระบบ
แต่ก็ยังไม่ทั้งหมด และแทบจะควบคุมระบบไม่ได้เลย
7️⃣ ยุยงออนไลน์จนกลายเป็นความรุนแรงของจริง
เมื่อรัฐบาลใช้ Social Media เป็นอาวุธ
FB จึงมอบวิธีใหม่ในการควบคุมความเห็นประชาชน
ให้แก่กองทัพ และผู้ก่อความรุนแรงอย่างเช่นในพม่า
จนมีการกระตุ้นให้ใช้ความรุนแรงกับกลุ่มโรฮิงญา
มาถึงตรงนี้หลายคนอาจคิดว่า
มันเป็นภัยคุกคามขนาดนั้นเลยหรอ?
งั้นเราลองหยุดคิดตามสักนิด พิจารณาสักหน่อย
นี่คือยุคที่เราเห็นความแตกแยก หยาบคาย วุ่นวาย
เห็นเด็กๆ ที่ไม่ได้อยากวิ่งเล่นอีกต่อไป
เห็นวัยรุ่นที่แบกความทุกข์ใจเกินจำเป็น
เห็นผู้ใหญ่วันๆ ไม่เป็นอันทำอะไร
แน่นอนว่า Social Media ก็ทำให้เกิดด้านดีๆ ได้
เพียงแต่เราเองก็ต้องช่วยกันเปลี่ยนเป็นผู้คุมเกม
เล่นบนกติกาที่ว่า อะไรไม่ดี ขอไม่มีส่วนร่วม
อะไรที่ควร...ก็ช่วยกันสนับสนุน
และสุดท้าย วางมือถือแล้วออกไปใช้เวลากับคนที่รัก
กับเรื่องที่เราอยากทำจริงๆ บ้าง
หวังว่าทุกคนจะมีความสุขมากขึ้นนะคะ
รับชมได้ทาง: Netfilx
โฆษณา