1 ส.ค. เวลา 11:35 • การเมือง

มีคนปล่อยข่าว “แผนลอบสังหารปูติน” ครั้งใหม่

บทความจากสื่อตะวันตกที่โจมตีใส่รัสเซียแบบจังๆ อย่าง Foreign Policy (FP) เผยแพร่เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2024 โดยมีชื่อหัวข้อว่า “Would the U.S. Consider Assassinating Putin?” แปลเป็นไทย “สหรัฐฯ พิจารณาจะทำการลอบสังหารปูตินหรือไม่?”
3
ฟังจากชื่อหัวข้อที่เปิดขึ้นมาแบบโจ่งแจ้งอย่างนี้แล้ว ตรรกะมันก็เพี้ยนแล้ว ง่ายๆ ถ้าใครจะลอบสังหารใคร เค้าคงไม่ออกมาบอกก่อนล่วงหน้าชัดขนาดนี้หรอกครับ ยังไงมาลองดูเนื้อหาคร่าวๆ แล้วกันว่าเป้าหมายของคนที่ปล่อยน่าจะมีวาระซ่อนเร้นอย่างไร ขอสรุปใจความสำคัญเลย
1
ก่อนอื่นเลยผู้เขียนบทความต้นเรื่องนี้คือ ดักลาส ลอนดอน ซึ่งมีประวัติการทำงานที่น่าเชื่อถือต่อเรื่องนี้มาก เขาเคยทำงานให้กับซีไอเอนานถึง 34 ปี ดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายฝึกอบรมและต่อต้านการก่อการร้ายในเอเชียใต้และเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ ปัจจุบันเขาเป็นอาจารย์ด้านการศึกษาข่าวกรองที่ School of Foreign Service ของมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์
หน้าปกหนังสือชื่อ THE PLOT TO KILL PUTIN แต่งโดย Max Karpov ได้รับคำโปรยจากอดีตซีไอเอ
สาระสำคัญของบทความคือ แม้ว่าการพยายามลอบสังหารประมุขของรัฐจะเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก แต่ก็ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ “ปัญหาใหญ่ที่สุดไม่ใช่ว่าสามารถทำได้หรือไม่ได้ แต่เป็นว่าควรทำหรือไม่ควรทำ”
ผู้เขียนชี้ให้เห็นโดยตรงว่าการพยายามลอบสังหารปูตินอาจเกิดขึ้นได้เมื่อใดและที่ไหน เขาบอกว่าระหว่างที่ปูตินเดินทางไปต่างประเทศ ตัวอย่างเช่น ในน่านฟ้าบางแห่ง ขณะที่ประธานาธิบดีรัสเซียอยู่บนเครื่องบิน Il-96 (อิล-96) ที่ล้าสมัยและมีปัญหาทางเทคนิค
เครดิตภาพ: TG / dailywrap.uk
การลอบสังหารปูตินนอกรัสเซีย ไม่ว่าหลักฐานจะชี้ออกมาเป็นอย่างไรก็ตาม การลอบสังหารผู้นำต่างประเทศโดยอาศัยข้อมูลข่าวกรองที่น่าเชื่อถือซึ่งสะท้อนถึงความพยายามอย่างต่อเนื่องของพวกเขาก็ยังสอดคล้องกับข้ออ้างที่ว่าทำเพื่อป้องกันตนเองก่อนอย่างสมเหตุสมผล
1
การสังหารปูตินแล้วจะได้อะไร? ภัยคุกคามของรัสเซียต่อสหรัฐอเมริกาและพันธมิตรตะวันตกจะลดลงหรือไม่? กองทหารรัสเซียจะถอนตัวออกจากยูเครนและหยุดเป็นภัยคุกคามต่อพันธมิตรนาโตในกลุ่มประเทศบอลติกและยุโรปตะวันออกหรือไม่? หรือมันจะยิ่งทำให้รัสเซียฮึกเหิมและมีท่าทีที่คาดเดาได้ยากขึ้นไปอีกหรือไม่? และมันอาจจะเป็นข้ออ้างให้ผู้มีอำนาจที่อยู่เบื้องหลังอิทธิพลทั่วโลกใช้เพื่อรวบรวมอำนาจและรวมตัวพันธมิตรกันเป็นหนึ่งเพื่อสู้กับภัยคุกคามจากรัสเซีย
2
บทเรียนในอดีตที่มีให้เห็นว่าอเมริกาจะกล้าทำหรือไม่? พวกเขาอนุมัติให้ใช้ความรุนแรงผ่านแผนการของซีไอเอในการสนับสนุนการโค่นล้มระบอบการปกครองที่เป็นปฏิปักษ์ในอิหร่านเมื่อปี 1953 และในชิลีเมื่อปี 1973 รวมถึงมีการบันทึกความพยายามหลายครั้งของซีไอเอในการลอบสังหารฟิเดล คาสโตร อดีตผู้นำคิวบา
เครดิตภาพ: Thomas Danthony / The New Yorker
ประเด็นอยู่ที่ว่าทำไมจึงมีบทความลักษณะนี้ใน FP ในช่วงเวลานี้ อันนี้เป็นการคาดการณ์เชิงแสดงความคิดเห็นเท่านั้น
หรือว่านี่เป็นสัญญาณออกมาจากซีไอเอ ที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางนโยบายปัจจุบันของวอชิงตันต่อรัสเซียและมองว่าเป็นภัยคุกคามต่อผู้มีอำนาจของอเมริกา เป็นการส่งข้อความไปทั่วโลกบอกทำนองว่า “อย่าคิดว่าไม่กล้า เรากำลังเตรียมการลอบสังหารคนที่เป็นปฏิปักษ์กับเราอยู่ ไม่ว่าหน้าไหน” “การลอบสังหารผู้นำไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเป็นวิธีการแก้ปัญหาทางนโยบายต่างประเทศที่ผิดพลาด”
1
บทความต้นเรื่องอ้างอิงได้จากลิงก์ด้านล่างนี้
เรียบเรียงโดย Right Style
1st Aug 2024
<เครดิตภาพปก: Reuters / The Economist>
โฆษณา