เกมที่จ่ายมาพร้อมกับเวลาที่ต้องจ่าย (เล่นกันตาแตก)
ในโลกของเกม มีบางเกมที่ไม่เพียงแค่ทำให้คุณเพลิดเพลิน แต่ยังทำให้คุณต้องใช้เวลาหลายร้อยชั่วโมงเพื่อค้นหาทุกซอกทุกมุมของเกมนั้นๆ อย่างเต็มที่. วันนี้เรามาดูกันว่ามีเกมไหนบ้างที่สามารถทำให้คุณใช้เวลานานที่สุดในการจบเกม และเหตุผลที่ทำให้เกมเหล่านั้นมีระยะเวลาเล่นยาวนานขนาดนี้ รวมถึงความคุ้มค่าและราคาเพื่อให้คุณตัดสินใจได้ดีขึ้น.
1. The Elder Scrolls V: Skyrim
The Elder Scrolls V: Skyrim คือเกม RPG ที่คุณสามารถใช้เวลาเล่นได้ยาวนานมากจริงๆ เกมนี้เปิดโลกให้คุณสำรวจแบบไร้ขีดจำกัด. ระบบกราฟฟิกใน Skyrim อาจจะไม่ทันสมัยเท่าเกมใหม่ๆ แต่การออกแบบโลกและรายละเอียดต่างๆ ยังคงน่าตื่นตาตื่นใจ.
ระบบกราฟฟิก: แม้กราฟฟิกจะดูเก่าไปหน่อยเมื่อเปรียบเทียบกับเกมยุคใหม่ แต่โลกของ Skyrim ยังคงมีความสวยงามและเต็มไปด้วยรายละเอียดที่ทำให้คุณอยากสำรวจต่อไป. ข้อมูลเพิ่มเติมที่: en.wikipedia.org/wiki/The_Elder_Scrolls_V:_Skyrim
เนื้อเรื่องและภารกิจ: เนื้อเรื่องหลักของเกมอาจใช้เวลาประมาณ 30-40 ชั่วโมงในการจบ แต่ถ้าคุณสนใจทำภารกิจรอง, สำรวจดันเจี้ยน, หรือเก็บเกี่ยวสิ่งของต่างๆ เกมนี้มีเนื้อหามากมายที่สามารถขยายระยะเวลาเล่นได้ถึง 200 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้น. ข้อมูลเพิ่มเติมที่: www.ign.com/wikis/the-elder-scrolls-5-skyrim/Gameplay
ระบบการเล่น: มีการออกแบบระบบการเล่นที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการฝึกฝนทักษะ, การสร้างไอเทม, หรือการร่วมมือกับตัวละครอื่นๆ ทำให้คุณไม่รู้สึกเบื่อหน่าย.
ชั่วโมงในการจบเกมเฉลี่ย: ประมาณ 30-40 ชั่วโมง (เนื้อเรื่องหลัก) และ 100-200 ชั่วโมง (รวมภารกิจรองและการสำรวจ).
ความคุ้มค่าและราคา: Skyrim มีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ $30-$60 ขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มและเวอร์ชัน. ด้วยเนื้อหาที่มีความหลากหลายและยาวนาน, เกมนี้ถือว่าคุ้มค่ามากสำหรับผู้ที่ชอบการสำรวจและการสร้างสรรค์.
2. The Witcher 3: Wild Hunt
The Witcher 3: Wild Hunt เป็นเกมที่ได้รับความนิยมอย่างมากและเป็นที่รักของผู้เล่น RPG. เกมนี้มีกราฟฟิกที่สวยงามและระบบการเล่นที่ลึกซึ้ง.
ระบบกราฟฟิก: การออกแบบกราฟฟิกใน The Witcher 3 นั้นสวยงามและละเอียดอ่อน. ภูมิทัศน์, สภาพแวดล้อม, และการออกแบบตัวละครทั้งหมดมีคุณภาพสูง. ข้อมูลเพิ่มเติมที่: en.wikipedia.org/wiki/The_Witcher_3:_Wild_Hunt
เนื้อเรื่องและภารกิจ: เนื้อเรื่องหลักของเกมมีความลึกซึ้งและเต็มไปด้วยการผจญภัยที่น่าติดตาม. หากคุณเลือกที่จะทำทุกภารกิจรอง, สัมผัสกับเรื่องราวเสริม และสำรวจโลกเกม คุณอาจใช้เวลา 150-200 ชั่วโมงในการเล่น. ข้อมูลเพิ่มเติมที่: www.ign.com/wikis/the-witcher-3-wild-hunt/Gameplay
ระบบการเล่น: การผสมผสานระหว่างการต่อสู้, การสำรวจ, และการสร้างไอเทม ทำให้เกมนี้มีระบบการเล่นที่หลากหลายและน่าสนใจ.
ชั่วโมงในการจบเกมเฉลี่ย: ประมาณ 50-60 ชั่วโมง (เนื้อเรื่องหลัก) และ 150-200 ชั่วโมง (รวมภารกิจรองและการสำรวจ).
ความคุ้มค่าและราคา: The Witcher 3 มักมีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ $40-$70 ขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มและเวอร์ชัน. ด้วยการที่เกมมีการอัปเดตเนื้อหาและการขยายโลกอย่างต่อเนื่อง, เกมนี้ถือว่าคุ้มค่ามากสำหรับผู้เล่นที่ชอบการผจญภัยและการสำรวจ.
3. Persona 5
Persona 5 เป็นเกม RPG ของญี่ปุ่นที่มีการออกแบบกราฟฟิกที่มีเอกลักษณ์และระบบการเล่นที่เป็นเอกลักษณ์.
ระบบกราฟฟิก: กราฟฟิกของ Persona 5 มีความโดดเด่นด้วยสไตล์การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์และมีสีสันสดใส. การออกแบบตัวละครและเมืองในเกมมีความละเอียดและมีเสน่ห์. ข้อมูลเพิ่มเติมที่: en.wikipedia.org/wiki/Persona_5
เนื้อเรื่องและภารกิจ: เกมนี้มีเนื้อเรื่องหลักที่ยาวและซับซ้อน รวมถึงภารกิจรองและกิจกรรมที่หลากหลาย. การทำทุกอย่างในเกมอาจใช้เวลา 100-120 ชั่วโมง. ข้อมูลเพิ่มเติมที่: www.ign.com/wikis/persona-5/Gameplay
ระบบการเล่น: ระบบการเล่นผสมผสานระหว่างการใช้ชีวิตประจำวันและการต่อสู้ ซึ่งทำให้เกมมีความหลากหลายและน่าสนใจ.
ชั่วโมงในการจบเกมเฉลี่ย: ประมาณ 80-100 ชั่วโมง (เนื้อเรื่องหลักและกิจกรรมรอง).
ความคุ้มค่าและราคา: Persona 5 มีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ $40-$60 ขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มและเวอร์ชัน. ความหลากหลายของเนื้อเรื่องและกิจกรรมทำให้เกมนี้เป็นการลงทุนที่ดีสำหรับแฟนๆ RPG.
4. Final Fantasy XIV
Final Fantasy XIV เป็นเกม MMORPG ที่มีการอัปเดตเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง และมีระบบกราฟฟิกที่สวยงาม.
ระบบกราฟฟิก: กราฟฟิกของ Final Fantasy XIV มีคุณภาพสูงและมีการออกแบบที่สวยงาม. การสร้างโลกในเกมให้มีรายละเอียดที่น่าทึ่งและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา. ข้อมูลเพิ่มเติมที่: en.wikipedia.org/wiki/Final_Fantasy_XIV
เนื้อเรื่องและภารกิจ: เกมนี้มีเนื้อเรื่องหลักที่ยาวและมีการอัปเดตเนื้อหาอย่างสม่ำเสมอ. ผู้เล่นที่ต้องการสัมผัสทุกเนื้อหาและกิจกรรมในเกมอาจต้องใช้เวลานานหลายร้อยชั่วโมง. ข้อมูลเพิ่มเติมที่: www.ign.com/wikis/final-fantasy-xiv
ระบบการเล่น: ระบบการเล่นในเกมนี้เน้นการร่วมมือกันเป็นกลุ่ม, การทำภารกิจรายวัน, และกิจกรรมต่างๆ ซึ่งทำให้เกมมีความหลากหลายและน่าสนใจ.
ชั่วโมงในการจบเกมเฉลี่ย: ประมาณ 60-80 ชั่วโมง (เนื้อเรื่องหลัก) และ 200-300 ชั่วโมง (รวมภารกิจรองและกิจกรรม).
ความคุ้มค่าและราคา: Final Fantasy XIV มีค่าใช้จ่ายในการสมัครสมาชิกที่ประมาณ $12.99 ต่อเดือน. ด้วยการอัปเดตเนื้อหาและกิจกรรมที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง, เกมนี้ถือว่าคุ้มค่าสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเล่น MMORPG ระยะยาว.
5. Minecraft
Minecraft เป็นเกมที่ไม่มีการสิ้นสุดในการเล่น. คุณสามารถสร้างและสำรวจโลกได้ตามต้องการ.
ระบบกราฟฟิก: แม้กราฟฟิกจะดูเรียบง่ายและไม่ทันสมัย แต่ความเรียบง่ายนี้ทำให้คุณสามารถจดจ่อกับการสร้างสรรค์และการสำรวจได้มากขึ้น. ข้อมูลเพิ่มเติมที่: en.wikipedia.org/wiki/Minecraft
เนื้อเรื่องและภารกิจ: Minecraft ไม่มีเนื้อเรื่องหลักที่ชัดเจน แต่ความสามารถในการสร้างและสำรวจโลกทำให้เกมนี้สามารถใช้เวลาได้มากมาย. ข้อมูลเพิ่มเติมที่: www.ign.com/wikis/minecraft/Gameplay
ระบบการเล่น: ระบบการเล่นเน้นการสร้างสรรค์และการสำรวจ ทำให้คุณสามารถเล่นได้ตามใจชอบและใช้เวลานานหลายร้อยชั่วโมงในการสร้างโลกของคุณเอง.
ชั่วโมงในการจบเกมเฉลี่ย: ไม่มีจุดสิ้นสุดที่ชัดเจน, แต่การเล่นอย่างมีประสิทธิภาพอาจใช้เวลาหลายร้อยชั่วโมงในการสำรวจและสร้างสิ่งต่างๆ.
ความคุ้มค่าและราคา: Minecraft มีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ $20-$30 ขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มและเวอร์ชัน. ความสามารถในการสร้างและสำรวจทำให้เกมนี้
📌 อย่าลืมกดติดตามเพจของเรา เพื่อไม่พลาดบทความใหม่ ๆ ที่เต็มไปด้วยความสนุกและข้อมูลน่าสนใจนะครับ!
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
