“กลยุทธ์การตลาดต้นทุนต่ำ: วิธีแจกของรางวัลอย่างสร้างสรรค์จากคุณวาริส CEO Barbieswink”
คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก คุณ วาริส content creator สาวใน tiktok และเป็นถึง CEO ของแบรนด์ อาหารเสริมอย่าง barbieswink ที่มีชื่อเสียงในขณะนี้
ซึ่งเธอเคยทำยอดขายภายใน 1 ปีถึง 100 ล้านบาทเลยทีเดียว
แล้วตอนนี้เองเธอก็ได้ทำ Content การแจกเงิน 12 ล้านบาทเพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าทุกคนของเธอ โดยการที่เธอจะสุ่มแจกเงิน ลงไปในกล่องสินค้าทุกกล่อง โดยที่แต่ละกล่องก็จะได้เงินไม่เท่ากัน เช่นบางกล่องอาจจะได้ 100 บาทบ้าง 200 บาทบ้าง หรือบางกล่องได้ถึง 5,000 บาทเลยก็มี
กลยุทธ์ที่คุณวาริสใช้ในการดึงดูดลูกค้าด้วยการแจกเงินรางวัลในกล่องสินค้าที่ลูกค้าซื้อ เรียกว่ากลยุทธ์ "การตลาดชิงโชค" หรือ "การตลาดแบบสุ่มรางวัล" (Sweepstakes Marketing Strategy) ซึ่งเป็นวิธีที่ให้ลูกค้ามีโอกาสได้รับรางวัลโดยการซื้อสินค้าหรือเข้าร่วมกิจกรรมที่กำหนด กลยุทธ์นี้ช่วยเพิ่มความน่าสนใจและแรงจูงใจให้ลูกค้าซื้อสินค้า เพราะมีความรู้สึกว่าอาจจะได้รับรางวัลเพิ่มเติมจากการซื้อสินค้านั้นๆ
ดังนั้น ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจสูงขึ้น การดึงดูดลูกค้าด้วยกลยุทธ์ที่สร้างความน่าสนใจและเพิ่มแรงจูงใจในการซื้อสินค้าจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง หนึ่งในกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมคือการใช้ "การตลาดชิงโชค" หรือ "การตลาดแบบสุ่มรางวัล" (Sweepstakes Marketing Strategy) ซึ่งช่วยเพิ่มแรงจูงใจให้ลูกค้าด้วยการเสนอรางวัลที่น่าสนใจ
แต่ถ้าคุณมีต้นทุนที่จำกัดในการแจกของรางวัลใหญ่ๆ อย่างเจ้าของ Barbywink คุณยังสามารถสร้างความน่าสนใจและกระตุ้นยอดขายด้วยกลยุทธ์ที่เหมาะสมและคุ้มค่าได้ วันนี้เรามีกลยุทธ์บางอย่างมานำเสนอครับ
1.การแจกสินค้าพิเศษและคูปองในกล่องสินค้า
แทนที่จะใช้ต้นทุนที่สูงในการแจกของรางวัล คุณสามารถเสนอรางวัลในรูปแบบของบัตรชิงโชค เพื่อแลกรับเซทสินค้าสุดพิเศษ เช่น สุ่มรับบัตรชิงโชค เพื่อรับ
เซทสินค้ายอดฮิตของทางร้าน หรือเซทสินค้าสุดพิเศษจากทางร้านฟรี นี่จะทำให้ลูกค้ารู้สึกตื่นเต้นและมีแรงจูงใจในการซื้อสินค้าของคุณมากขึ้น ลูกค้าจะรู้ว่าทุกครั้งที่ซื้อสินค้า ก็มีโอกาสที่จะได้รับรางวัล
2. การให้สินค้าชุดเล็ก (Mini Set)
อีกหนึ่งวิธีที่ช่วยเพิ่มความพิเศษให้กับลูกค้าคือการแถมสินค้าชุดเล็กในทุกกล่องสินค้า ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกได้รับความพิเศษและความเท่าเทียมกันในการซื้อสินค้าของคุณ ไม่ว่าพวกเขาจะได้รับรางวัลใหญ่หรือไม่ก็ตาม
แต่มีข้อควรพิจารณาคือต้องคำนึงปัจจัยอื่นๆร่วมด้วย เช่น ต้นทุน กำไร และอื่นๆ
3. การเสนอส่วนลดตลอดปี
คุณอาจลองเสนอคูปองส่วนลด 5% หรือ 10% ฟรีตลอด1ปี เป็นวิธีที่ดีในการกระตุ้นการซื้อซ้ำและรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า กลยุทธ์นี้คุณอาจจะต้องคำนวณจากต้นทุนและกำไร ว่าคุ้มค่ามั้ยในการใช้กลยุทธ์นี้ด้วย
ข้อดีของกลยุทธ์นี้
1. เพิ่มความน่าสนใจ การเสนอรางวัลหรือส่วนลดที่สุ่มในกล่องสินค้า จะทำให้ลูกค้ารู้สึกตื่นเต้นและมีแรงจูงใจในการซื้อสินค้าของคุณ
2. ลดต้นทุน การให้ส่วนลดหรือสินค้าเซ็ทเล็กแทนการแจกของรางวัลที่มีมูลค่าสูง ช่วยลดต้นทุนและยังสามารถกระตุ้นยอดขายได้
3. สร้างความรู้สึกเท่าเทียม การให้สินค้าชุดเล็กในทุกกล่องสินค้า จะทำให้ลูกค้ารู้สึกได้รับความพิเศษอย่างเท่าเทียมกัน
ข้อเสนอแนะ
1. ความชัดเจนในการสื่อสาร ตรวจสอบให้แน่ใจว่าลูกค้าเข้าใจถึงเงื่อนไขการรับรางวัลและส่วนลดอย่างชัดเจน
2. ความหลากหลายของรางวัล เพิ่มความหลากหลายของรางวัลและส่วนลดเพื่อเพิ่มความตื่นเต้นและการมีส่วนร่วม
3. การโปรโมทและติดตามผล ใช้สื่อออนไลน์ในการโปรโมทกลยุทธ์และติดตามผลเพื่อปรับปรุงกลยุทธ์ให้มีประสิทธิภาพ
• นี่เป็นเพียงแนวทางเท่านั้น คุณสามารถที่จะปรับหรือประยุกต์ใช้กลยุทธ์นี้ ได้ตามความเหมาะสมนะครับ
การใช้กลยุทธ์ที่สร้างสรรค์และคุ้มค่าในการดึงดูดลูกค้าเช่นนี้จะช่วยให้ธุรกิจของคุณโดดเด่นและสามารถแข่งขันได้ดีในตลาดที่มีการแข่งขันสูง
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณได้แนวทางในการนำเสนอและประยุกต์ใช้กลยุทธ์ที่คุณคิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพนะครับ
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
