Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
อิจฉาอิตาลี
•
ติดตาม
6 ส.ค. เวลา 11:41 • ท่องเที่ยว
เทพเจ้าลูกครึ่ง โรมัน-อียิปต์
ทุกคนที่อ่านอยู่คงได้ดูภาพยนตร์คลีโอพัตรากันแล้วใช่ไหม หรือถ้าไม่ดูก็คงได้รู้จักและคงได้รู้นะว่า กาลครั้งหนึ่งอียิปต์กับโรมันเคยรักเคยแค้นกันขนาดไหน และประวัติศาสตร์ช่วงนี้เองที่ทำให้เราได้เห็นการแพร่อิทธิพลจากอียิปต์มายังโรมันที่แสนจะพิศวง จนทำให้เกิดประติมากรรมชิ้นแปลก ๆ ที่เราจะกล่าวถึง
เราจึงได้เห็นมนุษย์จิ้งจอกตนที่แต่งตัวแบบโรมัน ถือคทารูปงูบนยอด ขอบอกใบ้ว่านี่คือเทพเจ้าลูกครึ่ง ลองทายดูว่าครึ่งอะไร ของใครบ้าง คนที่พอจะรู้จักเทพอียิปต์ รัน อาจจะพอเดาได้ ใช้เวลาคิดกันหน่อยไหม?
ภาพจาก https://www.museivaticani.va/
เฉลยซะเลย หัวจิ้งจอกนั้นคือเทพอนูบิส (Anubis) ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งความตายในรูปของหมาไน (ไม่ใช่จิ้งจอกอย่างที่หลายคนคิดอ่ะ) ซึ่งเป็นสัตว์ราตรี เวลาที่ชาวอียิปต์กำลังทำมัมมี่ก็จะมีการบูชาเทพนี้ และบางที่มีการแต่งตัวใส่หน้ากากเทพหมาไนที่ในระหว่างการดำเนินงานด้วย แต่หน้าที่สำคัญที่สุดต่อมนุษย์ผู้วายชนม์ก็คือการชี้ชะตาของวิญญาณว่าจะไปอยู่ในภพภูมิใด
เมื่อดวงวิญญาณเดินทางไปสู่ยมโลกท่านก็จะพบกับเทพอนูบิส ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นผู้พิพากษา โดยการนำหัวใจของท่านไปวางบนตาชั่ง เพื่อเทียบน้ำหนักกับขนนกด้านหนึ่ง และผลของตาชั่งนั่นคือการตัดสินชี้ชะตา เพราะน้ำหนักของหัวใจบ่งชี้น้ำหนักบาปของดวงวิญญาณนั่นเอง ซึ่งถ้ามันหนักกว่าขนนก วิญญาณนั้นจะถูกส่งไปยังนรกและมีอสูรกายมากลืนกินไป แต่ถ้าหัวใจเบาหวิวก็หมายถึงท่านจะได้เป็นเทพนิรันดรไปอยู่ในทุ่งแห่งต้นกกที่น่ารื่นรมย์
แต่ปกติเทพอนูบิสเขาไม่ได้แต่งตัวแบบนี้กันนะ นี่มันชุดชาวโรมันต่างหาก ดูเหมือนว่าพอคนอียิปต์พบพานกับโรมันแล้ว เทพอนูบิสอยากจะลองเป็นชาวโรมันบ้างแหละ เลยไปเอาชุดเขามาใส่ แค่นั้นยังไม่พอ ยังมีคทารูปงูเงินบนยอดอีก และสัญลักษณ์นี้ทำให้เรารู้ว่า อนูบิสกำลังจะแต่งคอสเพลย์เป็นเทพเมอร์คิวรี่หรือเทพเฮอร์มีสนั่นเอง ซึ่งถ้าเป็นเวอร์ชั่นโรมันแท้ ๆ จะสวมหมวกและรองเท้ามีปีก เพราะว่าเป็นเทพแห่งการส่งสาร จึงมีความไวอย่าปรอท
เวอร์ชั่นนี้ไม่มีหมวกแบบที่ว่า แต่ยังคงถือคทาคู่กายของเมอร์คิวรี่ไว้ในมือ ที่เรียกว่าไม้คะดูเซียส ซึ่งมีปีกที่ยอด แต่ดันมีงู 2 ตัวมาพันเพราะในกาลครั้งหนึ่ง เทพเมอร์คิวรี่ไปเจองู 2 ตัวสู้กันก็เลยทำการห้ามไว้ โดยเอาไม้แหย่ไปตรงกลางไม่ให้กัดกัน ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่น่าจะได้ผลนะ แต่อย่างไรก็ตาม งูสองตัวพอมาอยู่บนไม้ก็แช่แข็ง หันหน้าชนกันแต่ไม่กัดกันคาอยู่อย่างนั้น จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของเทพเจ้าองค์นี้ไป
ใครที่เคยเห็นไม้คทานี้ในร้านขายยาก็ให้ระลึกไว้ว่ามันมีที่มาเช่นนี้แหละ สัญลักษณ์นี้เคยถูกใช้เป็นเครื่องหมายทางแพทย์เนื่องจากมันแสดงความเป็นกลาง ไม่เข้าข้างงูตัวใดตัวหนึ่ง อยากรู้อะไรต่อไปค้นเอาเองแล้วกัน แล้วแวะมาบอกด้วยนะ
สุดท้ายเราก็เลยได้รูปเทพครึ่งอียิปต์ครึ่งโรมัน เป็นความงดงามของศิวิไลเซชั่นโบราณที่มาปะทะสังสรรค์ มีประติมากรรมเทพเจ้าลูกครึ่งเป็นตัวแทนของปรากฏการณ์
แต่ยังไม่จบนะ เรายังมีเทพลูกครึ่งอีกองค์จะมาขอเชิญชม เป็นชาวอียิปต์ที่ดูหล่อมาก ๆ เพราะมีใบหน้าเป็นฝรั่งและหุ่นดีมาก มีกล้ามแขนกล้ามท้องซิกแพ็ค แบบที่เราจะไม่ได้เห็นในหุ่นเทพเจ้าอียิปต์องค์อื่น ๆ เลย ซึ่งที่เป็นเช่นนี้แหละเนื่องจากรูปที่ท่านได้เห็นอยู่นี้เป็นฝรั่งในร่างเทพเจ้าอียิปต์ ที่ชื่อเทพโอซิริส
แต่ก่อนจะกล่าวถึงเทพโอซิริส ก็ขอกล่าวถึงหนุ่มน้อยชื่อ Antinous แอนตินัส ซะก่อน ไม่งั้นจะงงในงง ก็เพราะแอนตินัสเป็นหนุ่มหล่อเหลาจนจักรพรรดิเฮเดรียนแห่งโรมันได้หลงรักเป็นอย่างมาก (ทั้งคู่เป็นผู้ชายนะ อย่าได้แปลกใจ) แต่บนความโชคดีมาก ๆ ก็มีโชคร้ายหนัก ๆ อยู่เช่นกัน เพราะแอนตินัสได้ตายลงก่อนเวลาอันควร (ก่อนอายุ 20 ปีซะอีก) จักรพรรดิจึงได้แสดงความรักโดยการแต่งตั้งให้เข้ากลายเป็นเทพเจ้าซะเลย และมีคนนับถือกันเยอะซะด้วยในสมัยนั้น
เรื่องของ แอนตินัสมีความเกี่ยวข้องกับอียิปต์ก็เพราะขณะที่จักรพรรดิเพราะขณะที่จักพรรดิได้เดินทางไปอียิปต์ด้วยกัน แอนตินัสก็ตกลงไปในแม่น้ำไนส์ ซึ่งป่านนี้ก็มีคนสงสัยอยู่ว่านี่เป็นการฆาตกรรมใช่ไหม จักรพรรดิเฮเดรียนเลยเศร้าใจไม่เป็นอันกินนอน
สิ่งที่ทำได้ก็คือตั้งชื่อดวงดาวหนึ่งว่า แอนตินัส และสร้างเมืองแอนทิโนโพลิส (Antinopolis) ในอียิปต์ เพื่ออุทิศให้กับพ่อหนุ่มน้อยอีกด้วย นี่แหละทำให้ เขากลายเป็นเทพกึ่งโรมันกึ่งอียิปต์ไป มีผู้ทำรูปจำลองเทพแอนตินัสให้เป็นกลายเทพโอซิริส (เทพแห่งชีวิตหลังความตาย) เป็นฝรั่งหล่อแต่งชุดแบบอียิปต์ไปซะแทน
ภาพจาก https://www.museivaticani.va/
เห็นลักษณะของประติมากรรมแล้วก็ยังมีท่าแบบอียิปต์โบราณอยู่ คือยืนก้าวเท้าไปแบบแข็งๆ แต่ดันมีรายละเอียดสัดส่วนกล้ามเนื้อเสมือนบุคคลจริง อันนี้ยิ่งทำให้รู้สึกว่าพระองค์เป็นเทพที่น่าพิศวงเหนือใคร โดดเด่นไปกว่าประติมากรรมอื่นทั้งหลายทั้งมวล
เทพอียิปต์ที่หน้าตาเป็นฝรั่ง
แม้ว่าตอนนี้ลัทธิบูชาเทพแอนตินัสจะเสื่อมไปนานแล้ว แต่แอนตินัสก็ยังคงถูกเชิดชูในโลกปัจจุบัน กลายเป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มเก้งกวางไปแล้ว แบบเดียวกับนักบุญเซบาสเตียนผู้รูปหล่อ นี่คืออุทาหรณ์เตือนใจว่าชายหล่อใดๆที่มีจุดจบแสนเศร้าไปแล้วก็อาจจะเจอความเศร้ายิ่งกว่าหลังจากตายไป เพราะจะมีชนกลุ่มหนึ่งมาเชิดชูบูชาให้ท่านบันดาลโชคลาภ ขอให้ช่วยอำนวยพร
ถ้าคุณเป็นหนึ่งในนั้น ขอเชิญมาที่วาติกัน บนบานได้ตามปรารถนา หรือจะซื้อของจำลองไปไว้บูชาก็มีขายนะ
เที่ยวยุโรป
พิพิธภัณฑ์ศิลปะ
ประวัติศาสตร์
1 บันทึก
2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
อิจฉากรุงโรม
1
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย