4 ส.ค. เวลา 15:10 • กีฬา

ไม่ต้องมีที่ที่ให้ฉันอยู่ แต่ขอแค่มีฉันอยู่ก็พอ “เฟรม ธนาคาร” สร้างตำนานนักปั่นไทยบนโอลิมปิก 2024

เมื่อวาน (3 สิงหาคม 2567) คงจะเป็นอีกวันหนึ่งที่มีหลายเหตุการณ์ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่คนไทยทั้งสนุก ทั้งหัวเราะ และก็มีน้ำตาแห่งชัยชนะ แน่นอนว่านักกีฬาไทยรอบนี้สู้สุดใจและหวังว่าอยากได้เหรียญทองกลับบ้านให้คนไทยได้ชื่นชมอยู่แน่ๆ แต่แน่นอนว่าบางชนิดกีฬาก็เป็นเรื่องยากมากๆ ที่นักกีฬาบ้านเราจะได้เหรียญทองเป็นแน่แท้
ซึ่งแค่การได้ไปแข่งโอลิมปิกสักครั้งหนึ่งก็ถือเป็นความภาคภูมิใจที่สุดของทั้งคนไทยและตัวนักกีฬาเองอย่างแน่นอน อย่างเช่น “เฟรม-ธนาคาร ไชยยาสมบัติ” นักกีฬาประเภทจักรยาน ที่รอบนี้ได้โควต้าลงแข่งประเภท Road Race หรือจักรยานประเภทถนนนั่นเอง
Road Race แข่งอย่างไรในโอลิมปิกครั้งนี้?
Road Race หรือการแข่งขันจักรยานประเภทถนนในโอลิมปิก 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสนั้น ใช้วิธีการแข่งขันแบบปล่อยทุกคนออกจากจุดเริ่มต้นพร้อมกัน หรือที่เรียกว่า Mass Start โดยรอบนี้มีระยะการปั่นจำนวน 272.1 กิโลเมตร โดยเป็นการ “ปั่นวันเดียวจบ” ความโหดของเส้นทางนี้คือการเริ่มต้นปล่อยนักปั่นจักรยาน 90 คนจากกรุงปารีส ในช่วงเวลา 11.00 น. ตามเวลาในฝรั่งเศส และต้องปั่นขึ้นเขาทั้งหมดกว่า 13 ลูก! ตลอดระยะเวลาจนถึงเส้นชัยที่สวนทร็อคคาเดโร่ในเวลาประมาณ 18.00 น.
ซึ่งในการแข่งขันรอบนี้ เหรียญทองเป็นของ Remco Evenepoel จากทีมชาติเบลเยี่ยม ซึ่งปีนี้ทีมชาติเบลเยี่ยมส่งนักกีฬาไปแข่งขันในชนิดกีฬานี้ทั้งหมด 4 คนด้วยกัน ส่วนเหรียญเงินและทองแดงตกเป็นของ Valentin Madouas และ Christophe Laporte ทั้งสองมาจากทีมชาติฝรั่งเศสนั่นเอง
ในขณะที่ไทยส่ง “เฟรม-ธนาคาร ไชยยาสมบัติ” ตามโควต้าของ UCI หรือ สหภาพจักรยานระหว่างประเทศ ที่ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ไปเก็บอันดับเพื่อให้ได้ดควต้านี้มา โดยการนำของสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย และก็ได้อันดับมาครอบทำให้สามารถคว้าที่นั่งในโอลิมปิกมาได้ และตั๋วใบนี้ก็เป็นของเฟรมในที่สุด
แล้วไทยอยู่ในจุดไหนของการแข่งขัน?
ต้องบอกว่าเฟรมเองพยายามทำผลงานได้ดีในช่วงแรก ด้วยการอยู่ใน “กลุ่มหนี” หรือ breakaway กลุ่มแรก โดยในกลุ่มนี้มีนักกีฬาทั้งหมด 5 คน และแน่นอนว่าเฟรมอยู่ในกลุ่มนี้ได้ค่อนข้างยาวนาน ตั้งแต่เวลา 11.05 น. จนก้าวไปเป็นนักปั่นผู้นำ 8 คนในช่วงเวลา 14.52 น. และหลุดจากกลุ่มหลัก กลายเป็น DNF หรือ Did Not Finish คือการหลุดจากกลุ่มผู้นำ ทำให้ถูกตัดออกจากการแข่งขัน ไม่ใช่เป็นการั่นไม่จบเส้นชัยนั่นเอง
อย่างไรก็ดี หากใครติดตามจากการถ่ายทอดสดนั่น เฟรมยืนระยะการอยู่ในกลุ่มหนีและได้ airtime ในฐานะตัวแทนประเทศไทยไปมากพอสมควร ยืนระยะเกือบ 4 ชั่วโมง ทั้งการโชว์ศักยภาพและภาพไวรัสอย่าง “การโชว์พินโอลิมปิกไทย” อีกด้วย และนี่กลายเป็นการโปรโมทตัวเฟรมและสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยไปในตัวว่า “ฉันก็มีดีมากพอที่จะมายืนอยู่ในโอลิมปิก ถึงแม้ประเทศของฉันจะะเล็กในสายตาทุกคนก็ตาม” เฟรมปั่นนำกลุมไปได้เกินร้อยกิโลเมตร จนสุดท้ายโดยนักปั่นฝั่งยุโรปแซงได้ เฟรมถึงได้เป็น 1 ใน 13 นักปั่นที่ DNF ในที่สุด
1
แน่นอนว่าการที่เฟรมก้าวมาถึงจุดนี้ คือการเป็นนักปั่นจักรยานดีกรีทีมชาติไทย และการเป็น Content Creator ที่ปั่นจักรยานได้ “นิดหน่อย” ไม่ได้มาเพราะโชค ซ้ำร้ายยังเคยโดนตีตราว่า “ไปโด๊ปยามารึเปล่า?” เพียงเพราะตัวเฟรมเองเป็นม้ามืดที่ชนะทุกคนได้ จนวันนี้ที่ได้ตั๋วไปโอลิมปิกตัวเฟรมเองก็ไม่ได้มองว่าจะชนะง่ายๆ เช่นกัน
เฟรมให้สัมภาษณ์กับไทยพีบีเอสว่า หลังจากจบการแข่งขัน ตนเองรู้สึกว่าขสไม่เหลือแรงอะไรแล้ว ยอมรับว่าเหนื่อยมากๆ เพราะระยะทางค่อนข้างโหด แต่ตัวเองก็ประสบความสำเร็จที่ได้ปั่นจนถึงที่สุดแล้วที่ร่างกายไปไม่ไหว ซึ่งตรงกับความคาดหวังในครั้งนี้ ซึ่งการเกาะกลุ่มเป็นผู้นำในครึ่งแรกนั้น ใช้วิธีการมาจากโอลิมปิกที่โตเกียว เมื่อปี 2020 ที่เน้นการนำก่อน เพื่อจะได้มีเวลาไปถึงจุดสำคัญก่อน และตามเก็บจนเข้าเส้นชัยได้เร็ว
และในการปั่นครั้งนี้ตนเองก็พกพินธงชาติไทย และเครื่องรางด้วยเช่นกัน คือเหรียญหลวงปู่ และท้าวเวสสุวรรณ นอกจากนี้อีกสิ่งที่ทำให้การปั่นสนุก คือการมีกองเชียร์เต็มพื้นที่รอบการแข่งขัน ทำให้บางครั้งตนเองก็หายเหนื่อยไปเลย ตนเองขอบคุณทุกคนที่เชียร์มากๆ และการแข่งครั้งนี้คือโอกาสที่หาไม่ได้จากที่ไหนอีกแล้ว ที่ประเทศไทยอยู่ในหมุดหมายและสายตาของชาวโลกในขณะที่แข่งกับมืออาชีพจากทั่วโลกเช่นกัน
แล้วเฟรมเป็นใคร ทำไมถึงน่าสนใจ?
เฟรม หรือชื่อจริง “ธนาคาร ไชยยาสมบัติ” เป็นนักปั่นจักรยานทีมชาติไทย วัย 25 ปี เคยผ่านการแข่งขันก่อนหน้านี้มาค่อนข้างมาก เช่น
- รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 เวลารวม 6 วัน 6 สเตจ ทัวร์ออฟไทยแลนด์ 2024
- คว้า 1 เหรียญทองและ 1 เหรียญเงิน การแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 30 ประเทศฟิลิปปินส์
- รางวัลแชมป์ประเทศไทยรุ่นประชาชนชาย ประเภทถนนโรดเรซ ชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2567
- รางวัลแชมป์ประเทศไทยรุ่นประชาชนชาย ถ้วยพระราชทาน “คิงส์ภูมิพล“ ประเภทถนนไทม์ไทรอัล ชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2567
- รางวัลนักปั่นเอเชียยอดเยี่ยม ประจำทัวร์ออฟไต้หวัน 2023
เฟรมเริ่มต้นการปั่นจากคุณพ่อที่เป็นนักปั่นอยู่แล้ว ประกอบกับการได้แรงบันดาลใจมาจากการ์ตูนเรื่อง Yowamushi Pedal เลยทำให้ค่อยๆ เริ่มปั่นจักรยาน ซึ่งด้วยความที่เฟรมและครอบครัวอยู่ที่จังหวัดเชียงราย เลยทำให้เฟรมมีโอกาสปั่นจักรยานขึ้นและลงเขาอยู่บ่อยๆ และสุดท้ายเฟรมก็ได้เริ่มลงแข่งภายใต้การสนับสนุนของคุณพ่อในสนามและประเภทกีฬาจักรยานที่หลากหลาย
และโค้ชเปี๊ยก (ไพโรจน์ อินต๊ะปัญญา) ก็ได้ไปเห็นเข้า เฟรมจึงเข้าไปอยู่กับโค้ชเปี๊ยกเพื่อพัฒนาและซ้อมให้เก่งขึ้น จนโค้ชตั้ม (วิสุทธิ์ กสิยะพัท) ได้ชักชวนเฟรมให้มาอยู่ทีม Singha Infinite Cycling Team เฟรมจึงแข่งขันร่วมกับทีมจนชนะในหลายครั้ง
และด้วยการชนะแบบม้ามืดนี่เองที่ทำให้เฟรมเจอคำสบประมาทจากรุ่นพี่ในวงการที่แข่งขันด้วยกันว่า “โด๊ปยาเหรอ” ทำให้ตอนนั้นเฟรมอึ้งไปสักพักใหญ่ จนตอบไม่ถูกไปสักพัก และเฟรมได้ปฏิเสธไป นี่จึงเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันที่ทำให้เฟรมตัดสินใจต่อสู้ด้วยการพัฒนาร่างกาย ทักษะ และสุขภาพโดยรวมให้สามารถแข่งขันและเอาชนะได้ และหลังจากที่เฟรมแข่งจนได้แชมป์ประเทศไทย สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยจึงส่งหนังสือเชิญชวนให้เฟรมก้าวเข้าสู่ทีมชาติไทย และเฟรมก็ตอบรับทันที จนได้มีโอกาสไปแข่งขันจักรยานในประเทศต่างๆ อีกด้วย
หลังจากที่เฟรมแข่งขันไปได้สักพัก เดือนมิถุนายน 2565 เฟรมตัดสินใจเริ่มต้นทำคอนเทนต์ของตนเองบน YouTube และ Facebook จนเมื่อช่วงกีฬาโอลิมปิกมาถึงและเฟรมก็ได้โควต้าแข่ง จึงเริ่มทำรีวิวบน TikTok มากขึ้น และคลิปที่เฟรมกลายเป็นที่โด่งดังมากๆ จนถึงขั้นสำนักข่าวเอาไปทำข่าวต่อกัน นั่นคือคลิปบน TikTok ที่รีวิวพินต่างชาติและรีวิวห้องพักนักกีฬาในโอลิมปิก 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และหลังจากนั้นเฟรมก็ได้ลงแข่งขันจักรยานประเภท Road Race ซึ่งเป็นครั้งแรกของคนไทยในรอบ 48 ปีที่มีโอกาสได้ลงแข่งนั่นเอง
พอยท์สำคัญของเฟรมไม่ใช่แค่การได้ลงแข่งแล้วชนะ แต่คือประสบการณ์ตลอด 272.1 กิโลเมตร ที่เฟรมได้บอกใน Facebook ของตนเองไว้ก่อนแข่งว่า “การได้มาอยู่ตรงนี้ สำหรับผมถือว่าเป็นความสำเร็จ และชัยชนะแล้วครับ” และ “ผลจะเป็นยังไงมันไม่สำคัญเท่าการทำอย่างเต็มที่ที่สุด ไม่มีอะไรให้เสียใจหรือเสียดาย” เพราะสิ่งสำคัญของกีฬาโอลิมปิกไม่ใช่แค่ชัยชนะ แต่คือการมอบมิตรภาพและความสุขให้กับมวลมนุษยชาตินั่นเอง
เรียบเรียง กฤตนัน ดิษฐบรรจง
ติดตาม THE F1RST ได้ทาง www.thef1rst.co
#จักรยาน
#เฟรมธนาคาร
#ธนาคารไชยยาสมบัติ
#โอลิมปิก
#โอลิมปิก2024
#Olympics
#Olympics2024
#Paris2024
#THEF1RST
โฆษณา