4 ส.ค. เวลา 18:23 • การเกษตร

แตงกวา (Cucumber) เป็นพืชในตระกูล Cucurbitaceae ซึ่งรวมถึงฟักทองและแตงโมด้วย

มีถิ่นกำเนิดในเอเชียใต้ และเป็นพืชที่นิยมปลูกกันทั่วโลก
## ลักษณะทั่วไป
- **รูปร่าง**: ผลของแตงกวามักมีลักษณะยาวทรงกระบอก เปลือกบางหรือหนาขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ มีสีเขียวหรือเขียวขาว
- **รสชาติ**: มีรสชาติอ่อน ๆ และกรอบ นิยมรับประทานสดในสลัด หรือนำมาดอง
- **ใบและเถา**: ใบของแตงกวามีลักษณะกลม มีขอบหยัก เถามักเลื้อยและมีมือจับเพื่อยึดเกาะ
## คุณค่าทางโภชนาการ
แตงกวามีปริมาณน้ำสูง ทำให้เหมาะสำหรับการบริโภคเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ร่างกาย นอกจากนี้ยังมีวิตามินซี วิตามินเค และสารต้านอนุมูลอิสระ
## ประโยชน์ต่อสุขภาพ
- **เพิ่มความชุ่มชื้น**: แตงกวามีปริมาณน้ำสูง ช่วยรักษาสมดุลของน้ำในร่างกาย
- **บำรุงผิวพรรณ**: วิตามินซีในแตงกวาช่วยในการผลิตคอลลาเจน และสารต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกันความเสียหายของเซลล์ผิว
- **ลดการอักเสบ**: สารต้านอนุมูลอิสระในแตงกวาช่วยลดการอักเสบในร่างกาย
## การปลูก
แตงกวาเป็นพืชที่ปลูกง่าย สามารถปลูกในดินที่มีความอุดมสมบูรณ์และมีการระบายน้ำที่ดี ควรปลูกในช่วงฤดูร้อนหรือฤดูฝนเพราะเป็นพืชที่ต้องการแสงแดดมาก
การปลูกและดูแลแตงกวาให้ได้ผลดีต้องมีขั้นตอนและการดูแลอย่างถูกต้อง ดังนี้:
## การปลูกแตงกวา
1. **เตรียมดิน**:
- เลือกดินที่ร่วนซุย มีการระบายน้ำดี และมีค่า pH ระหว่าง 6.0-6.8
- ปรับปรุงดินด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก เพื่อเพิ่มธาตุอาหารในดิน
2. **การเพาะเมล็ด**:
- แช่เมล็ดในน้ำประมาณ 4-6 ชั่วโมงก่อนการปลูกเพื่อให้เมล็ดงอกง่าย
- ปลูกเมล็ดในหลุมลึกประมาณ 1-2 เซนติเมตร และเว้นระยะห่างระหว่างหลุมประมาณ 30-50 เซนติเมตร
3. **การปลูกลงแปลง**:
- หากเพาะเมล็ดในกระถางต้นกล้า เมื่อต้นกล้ามีอายุประมาณ 3-4 สัปดาห์ สามารถย้ายปลูกลงแปลงได้
- ปลูกในแปลงที่มีแสงแดดเพียงพอ และควรใช้ไม้ค้ำหรือรั้วให้เถาแตงกวาเลื้อย
## การดูแลแตงกวา
1. **การรดน้ำ**:
- รดน้ำให้เพียงพอและสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงแรกของการเจริญเติบโตและช่วงที่ออกดอก
- หลีกเลี่ยงการรดน้ำที่ใบเพื่อป้องกันการเกิดโรค
2. **การให้ปุ๋ย**:
- ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในช่วงแรกของการปลูก
- ใช้ปุ๋ยไนโตรเจนในช่วงที่ต้นยังเจริญเติบโต และเปลี่ยนเป็นปุ๋ยฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมในช่วงที่เริ่มออกดอก
3. **การควบคุมศัตรูพืชและโรค**:
- ตรวจสอบต้นแตงกวาอย่างสม่ำเสมอเพื่อตรวจจับและจัดการกับศัตรูพืช เช่น หนอนใยผัก และเพลี้ย
- หากพบโรคพืช เช่น โรคราน้ำค้าง หรือโรคใบไหม้ ควรใช้สารเคมีหรือสารชีวภาพที่เหมาะสม
4. **การตัดแต่งกิ่ง**:
- ตัดแต่งกิ่งที่ไม่จำเป็นออกเพื่อให้แสงแดดส่องถึงทุกส่วนของต้น และช่วยในการระบายอากาศ
5. **การเก็บเกี่ยว**:
- แตงกวาสามารถเก็บเกี่ยวได้เมื่อมีอายุประมาณ 50-70 วันหลังจากการปลูก
- เก็บเกี่ยวผลเมื่อมีขนาดที่เหมาะสม และสีเปลือกยังคงเขียวสด
การดูแลแตงกวาให้ได้ผลผลิตที่ดีต้องอาศัยการใส่ใจและการดูแลอย่างสม่ำเสมอ
โฆษณา