5 ส.ค. เวลา 02:13 • การศึกษา
ปัญญาเป็นเรื่องของการใช้เหตุผล ที่เค้าบอกว่าให้มีสติ …รู้สึกตัว ..ในการกระทำ ในอารมณ์โลภโกรธหลง ที่มีอยู่ในที่อาศัย จะใช้อารมณ์ความนึกคิด ..มันมีดีชั่วอย่างไร เมื่อมีอารมณ์ไม่พอใจ ไม่ชอบใจ โมโหโกรธา หรือ หลงยึดถือ ว่าสิ่งนี้สิ่งนั้น จะบันดาลให้ ..เจ้าพ่อเจ้าแม่ หมอดู พ่อมดหมอผี ..จะบันดาลให้ สมปรารถนาที่คาดหวัง
..เรื่องปัญญา มันเป็นเรื่องที่รู้จัก ดูแลตัวเอง มีปัญญาอย่างเดียวก็ไมได้ ต้องมีสติสัมปชัญญะด้วย ..เหมือนเวลาเราวางของตรงนั้นตรงนี้ ..แล้วก็ลืม ..หาไม่เจอ หรือ มีนัดหมาย อะไรแต่กลับลืมเวลา
..บางคนเกิดมา มีพ่อแม่มีเงินมีทอง พอพ่อแม่จากไป ลูกก็รักษาทรัพย์สมบัติพ่อแม่ที่ตกทอดมาไม่ได้ ใช้เงินเพลิดเพลินจนหมดตัว บ้างเป็นสามล้อถูกหวยรางวัลที่หนึ่ง ก็กลับไปถีบสามล้อใหม่
..เรื่องปัญญารู้จัก สิ่งที่เป็นคุณ เป็นโทษแก่ตนเอง ..มันไม่มีใครทำร้ายเราได้มาก เท่ากับอารมณ์นึกคิดของเราเอง ..เราเคยจับมันหงายขึ้นมาดูมั้ย ..ไอ้อารมณ์นึกคิดในตัวตนของตัวเอง ….เรารู้จักอารมณ์..นึกคิดของเรามันมาจากไหน ..อารมณ์นึกคิดมันอยู่ในตัวตนของเรา เป็นเหมือนวัตถุสิ่งของ..มันดีหรือชั่วอย่างไร ..มันไม่ได้เกิดที่ใครที่ไหน มันเกิดขึ้นในกายที่จิตอาศัย .รู้จักอารมณ์นึกคิดได้มั้ย.. มันมีพิษสงอย่างไรบ้าง ..อารมณ์ดีอารมณ์ร้าย หากมันมีแต่วัตถุร้ายเป็นพิษในตัวตน มันจะดีมั้ย
..นั้นจึงเป็นเรื่องสติปัญญาของจิตที่อาศัยอยู่ภายในกายนั้น ..จะเรียนรู้ขึ้นมา ..แล้วจะเรียนรู้ขึ้นมาอย่างไร ..ในคำว่ากาย อารมณ์ จิต ..ไปจนถึง ในคำว่าปัญญาธรรม ..ที่จะใช้กายนี้ ไปในลักษณะให้การเกิดตายๆ นี้มันน้อยลงไป .คือลดละกรรมให้มันน้อยลงไปๆ แต่คนเรามันชอบสร้างกรรม .แต่ก็ไม่รู้จักว่า กายวาจาใจที่ตนใช้ นั้นทำให้ตนเองมีกรรม
เรื่องปัญญาที่จะดูแลตัวเอง ..เราก็ดูคนจน นี่มันแปลก กินอาหารก็ธรรมดา แต่มีแรงทำงานอดทน ไปดูคนมีเงินทอง กินดีๆ อยู่ดีๆ ทำงานออกแรงหน่อย เหนื่อยหอบไม่ไหวแล้ว พอแก่หน่อย..โรคนั้นโรคนี้ ก็เบียดเบียน คนจนป่วยก็เจ็บป่วยตาย เศรษฐีป่วยก็เจ็บป่วยตาย เหมือนกัน ความตายมันไม่เลือกฐานรวยจน มีสิทธิ์ตายทุกคน ไม่เลือกวันเวลา ถึงเวลาจะตาย เค้าก็ทำให้กายนี้ใช้งานไม่ได้อีกต่อไป ..ต้องทิ้งทั้งปัญญาทรัพย์สินเงินทอง..ทิ้งทั้งหมด .ไม่มีอะไรเป็นแก่นสารเลย
โฆษณา