5 ส.ค. เวลา 04:17 • การตลาด

ทำไม? วิดีโอสั้น และ User-Generated Content ถึงสร้างอิมแพ็คต่อวงการ Marketing

วิดีโอสั้น ๆ ที่ผู้ใช้ทั่วไปสร้างขึ้น หรือ User-Generated Content (UGC) กำลังเป็น Game Changer ของวงการ Marketing ธุรกิจต่าง ๆ จำเป็นต้องให้ความสำคัญ และวางแผนการใช้ Content ประเภทนี้ให้ดี
รายงานล่าสุดจาก Munch เผยให้เห็นว่า Video Marketing รูปแบบ Short-form หรือวิดีโอสั้นกำลังมาแรงสุดๆ ในปี 2024 ปัจจุบัน คอนเทนต์วิดีโอแทรกซึมอยู่ในทุกแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและช่องทางโฆษณาต่าง ๆ ทำให้ Video Marketing ไม่ใช่แค่กลยุทธ์เสริมอีกต่อไป แต่กลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับธุรกิจทุกขนาด
รายงานฉบับนี้ได้เจาะลึกถึงพัฒนาการของ Video Marketing รูปแบบต่าง ๆ และเน้นย้ำถึงความสำคัญของวิดีโอสั้น ที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก และพบว่าวิดีโอสั้นที่มีความยาวไม่เกิน 2-3 นาที สามารถดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้ดีกว่าวิดีโอแบบยาว
1
สำหรับธุรกิจแล้ว การปรับตัวเข้าสู่ยุคของวิดีโอสั้น ถือเป็นเรื่องจำเป็น เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่ม Engagement กับกลุ่มเป้าหมายได้ดีขึ้นแล้ว ยังสามารถสร้าง Brand Awareness และกระตุ้นยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
ทำไมวิดีโอสั้น และ UCG ถึงปังได้ขนานนี้?
1. Short Videos มาแรง:
ข้อมูลล่าสุดเผยให้เห็นเทรนด์ที่ชัดเจนว่า วิดีโอสั้นกำลังเป็นที่นิยมมากกว่าวิดีโอแบบยาว โดย 85% ของผู้ชมชอบวิดีโอที่มีความยาวไม่เกิน 15 วินาที สะท้อนให้เห็นว่าคนยุคนี้ต้องการคอนเทนต์ที่ "Bite-sized" คือสั้น กระชับ ได้ใจความ และน่าสนใจ
ไม่ใช่แค่คนดูเท่านั้นที่ชอบ แบรนด์และนักการตลาดก็ให้ความสนใจกับวิดีโอสั้นมากขึ้นเช่นกัน เพราะวิดีโอสั้นมี Engagement หรือการมีส่วนร่วมจากผู้ชมสูงกว่าวิดีโอแบบยาวถึง 2.5 เท่า จึงไม่น่าแปลกใจที่รายได้จากโฆษณาวิดีโอสั้นคาดว่าจะทะลุ 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
2. Authenticity is Key:
นอกจากนี้ User-Generated Content หรือคอนเทนต์ที่ผู้บริโภคสร้างขึ้นเอง ก็มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคในปัจจุบันอย่างมาก ทำให้หลาย ๆ แบรนด์หันมาปรับกลยุทธ์ สร้างสรรค์คอนเทนต์ที่ดูเรียล และรีเลทได้ง่ายขึ้น โดยอาจใช้เพียงแค่สมาร์ทโฟนและอุปกรณ์พื้นฐานในการถ่ายทำ
แล้วมีปัจจัยอะไรบ้าง? ที่ทำให้วิดีโอสั้น Impact ต่อวงการ Marketing มากขึ้น
1. การเพิ่มการเข้าถึงผ่าน Subtitles:
ฟีเจอร์ช่วยเหลือผู้ชมอย่างซับไตเติล (Subtitles) หรือคำบรรยายใต้ภาพ กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น เพราะช่วยให้วิดีโอเข้าถึงผู้ชมได้หลากหลายและเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ชม ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่มีปัญหาทางการได้ยิน หรือผู้ชมที่ชอบดูวิดีโอแบบปิดเสียง
2. การตื่นตัวกับผลตอบแทนจากการลงทุนและการให้ความสำคัญกับวิดีโอเป็นอันดับแรก (Video-First Approach):
นักการตลาดหลายคนเริ่มเห็นแล้วว่าการทำวิดีโอคอนเทนต์มันคุ้มค่า คืนทุน (ROI) ได้จริง หลายแบรนด์เลยใช้กลยุทธ์ Video-First โดยทำวิดีโอเป็นหลัก และปรับเปลี่ยนคอนเทนต์ให้เหมาะกับแต่ละแพลตฟอร์ม เพื่อให้เข้าถึงผู้ชมได้มากที่สุด นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับ Video SEO หรือการปรับแต่งวิดีโอให้ติดอันดับการค้นหาบน Search Engine มากขึ้นด้วย
อีกอย่างที่สำคัญ คือ การเล่าเรื่องราวที่สร้างอารมณ์ร่วมในวิดีโอเป็นสิ่งสำคัญในการสร้าง Brand Loyalty หรือความจงรักภักดีต่อแบรนด์ และ Brand Awareness หรือการรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์ ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยให้แบรนด์เติบโตได้
3. Challenges ความท้าทาย :
การทำวิดีโอ Marketing นั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ขั้นตอน Pre-Production อย่างการคิดไอเดีย คิดสคริปต์ อาจจะใช้เวลาเยอะพอสมควร แถมการถ่ายทำ ตัดต่อ ก็ต้องใช้อุปกรณ์ ใช้ซอฟต์แวร์ ซึ่งต้องลงทุนพอสมควรเลยทีเดียว
นอกจากนี้ การทำ Video Marketing ให้ประสบความสำเร็จต้องมีการวางแผนที่ดี วางงบประมาณให้เหมาะสม และที่สำคัญคือต้องทำวิดีโอให้โดนใจกลุ่มเป้าหมาย (Target Audience) และเลือกช่องทางเผยแพร่ให้เหมาะสมด้วย
4. เคล็ดลับของ Viral Video:
จากข้อมูลของ Munch บอกว่าวิดีโอไวรัลที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่มักมีองค์ประกอบคล้าย ๆ กัน เช่น พูดเร็ว (ประมาณ 150 คำต่อนาที) มีคนพูด 2-3 คน เพื่อให้ได้มุมมองที่หลากหลาย และที่สำคัญคือความยาวกำลังดี ประมาณ 40 วินาที คนดูจะไม่เบื่อและมีส่วนร่วมกับวิดีโอได้มากขึ้น
5 แพลตฟอร์มยอดฮิตและคอนเทนต์ที่ใช่ในแต่ละวงการ:
Instagram และ YouTube ยังคงเป็นแพลตฟอร์มตัวท็อปสำหรับธุรกิจและครีเอเตอร์ ส่วน TikTok ยังไม่เป็นที่นิยมเท่าไหร่สำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่อยากทำคอนเทนต์เอง
แต่ละวงการก็มีรูปแบบคอนเทนต์ที่แตกต่างกันไป อย่างเช่น วงการสื่อและการเงินจะนิยมทำคอนเทนต์แบบสัมภาษณ์ วงการสุขภาพจะชอบทำคอนเทนต์แบบ Monologue หรือพูดคนเดียวให้ความรู้ ส่วนวงการอื่น ๆ ก็นิยมทำคอนเทนต์แบบ Webinar หรือ Explainer Video เพื่อให้ความรู้หรืออธิบายเรื่องต่าง ๆ เป็นต้น
สรุปแล้ววิดีโอสั้น (Short-form Video) กำลังมาแรงแซงทุกโค้งในโลกการตลาด ในขณะที่ User-Generated Content หรือคอนเทนต์ที่ผู้ใช้สร้างขึ้นเองก็เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่น่าจับตามอง นอกจากนี้ การใส่ฟีเจอร์ช่วยเหลือผู้พิการ (Accessibility Features) อย่างซับไตเติ้ลก็สำคัญไม่แพ้กัน และที่ขาดไม่ได้เลยคือการทำวิดีโอให้มีคุณภาพอยู่เสมอ เพื่อดึงดูดคนดู ซึ่งถ้าทำดี ๆ ก็สามารถสร้าง ROI ได้อย่างคุ้มค่า
แต่การทำวิดีโอดี ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องวางแผนและบริหารจัดการทรัพยากรให้ดี อย่าลืมว่าวิดีโอที่ดีต้องกระชับ เข้าใจง่าย โดนใจกลุ่มเป้าหมาย และเหมาะกับแพลตฟอร์มที่เราจะเอาไปลงด้วยนะ ถ้าทำได้แบบนี้ รับรองวิดีโอของเราจะต้องมีคนดูเยอะแน่นอน
สุดท้ายนี้ อยากให้นักการตลาดทุกคนลองกลับไปคิดทบทวนดูว่า เป้าหมายของการทำวิดีโอคืออะไร มีทรัพยากรอะไรบ้าง และกลุ่มเป้าหมายของเราคือใคร เพื่อที่จะได้วางกลยุทธ์ Video Marketing ให้ตอบโจทย์และประสบความสำเร็จได้ค่ะ
โฆษณา