5 ส.ค. เวลา 08:34 • คริปโทเคอร์เรนซี

แชร์ NAV% ของผมหลัง BTC รูดทะลุ 50k ในวันเดียว

พอดีเห็นคนมาเม้นแซะว่า ทำตามระบบ เทรด 10 แพ้ 7 จนเสียความมั่นใจไปแล้วครับ ก็เลยแวะเอา data ของพอร์ตจริงของผมมาให้ดูกันครับว่า การทำตามระบบมันดีอย่างไร ตามรูปเลย
โดย ณ เวลาที่เขียนบทความนี้ ก็จะมียอด NAV% ตามด้านล่าง
BTC NAV% = 15%
BTC DCA NAV% = (-9.31%)
inwCoin NAV% = 30%
จะเห็นว่า
- การทำตามระบบ ทำให้พอร์ตเรานิ่งหรือลดลงไปบ้างนิดหน่อย ตอนกราฟ sideway แต่จะช่วยให้พอร์ตเราไม่เสียหายหนัก ตอนที่ BTC drop ลงไปแรงๆ วันเดียวมากกว่า 10k เหมือนวันนี้ ( การทำตามระบบช่วยให้เราไม่ติดดอย )
- การทำตามระบบ ทำให้พอร์ตเราโตขึ้น ตามราคา BTC ที่เพิ่มขึ้น ถ้าเทรนมาก็จะเก็บกำไรกันได้อิ่มๆ เลยครับ ( การทำตามระบบช่วยให้เราไม่ตกรถ )
- เมื่อราคาลงแรง การไปถือ BTC แบบ all-in ถึงแม้มันจะดูเหมือนได้กำไรเยอะมากในช่วงแรกๆ ที่กราฟทำ ATH ( +71% ) แต่กลายเป็นว่า พอตลาดลง เราก็จะคืนกำไรตรงนั้นไปจนหมด ทำให้เหลือกำไรจริงแค่ราวๆ +15% เท่านั้นเอง หรือคืนกำไรไปถึง -78%
- การ DCA เหมือนจะเป็นการลงทุนที่เหมือนจะปลอดภัย แต่สุดท้าย ถ้าราคาลงแรง หรือตลาดออกข้าง พอร์ตนี้ก็ไม่ไปไหนอยู่ดี แถมขาดทุนด้วย ซึ่งตอนนี้ก็ขาดทุนกันไปถึง -9% แต่ก็นั่นแหละ ส่วนตัวมองว่า การ DCA ต้องตีว่าเป็นการออม อย่ามามองกำไร-ขาดทุน ไม่งั้นจะทำมันไม่สำเร็จ แต่ที่ใส่มาด้วยเพราะอยากเก็บไว้เป็น benchmark ครับ
 
สรุป
- การทำตามระบบ มันจะดูเหมือนไอ้โง่ ในช่วงที่ตลาด sideway เพราะเข้าแล้วก็คัท เข้าแล้วก็คัท กากแทร่... แต่ถ้าเราใช้มันมานานพอ เราก็จะรู้ดีว่า มันช่วยให้เราทั้งไม่ติดดอย และ ไม่ตกรถ เพราะถึงแม้ว่า มันจะเจอ false sig ถึง 7 ครั้ง แต่ถ้าเราคุมความเสี่ยงดีๆ เราเจอ real sig แค่ 3 ครั้ง เราก็จะได้กำไรมา cover ที่เราเสียไปทั้งหมดได้เองครับ
- และสิ่งที่สำคัญคือ ในวันที่มันรูดแรงๆ แบบวันนี้ การทำตามระบบ มันทำให้เรามือว่างมาตั้งนานแล้ว และเราก็จะสามารถนั่งจิบชาถือเงินสด ดูความหายนะของตลาด ได้อย่างชิวๆ กันเลยครับ 5555
โฆษณา