5 ส.ค. เวลา 09:05 • กีฬา

คาร์ลอส ยูโล : "ไอ้เนรคุณ" ที่กลายเป็นฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิกของฟิลิปปินส์ | Main Stand

ฟิลิปปินส์ เพิ่งจะได้เหรียญทองโอลิมปิกแรกในประวัติศาสตร์ชาติ จากกีฬายกน้ำหนัก ในศึก โตเกียว 2020 และในศึก ปารีส 2024 เหรียญทองที่สองก็ตามมา
กีฬาชนิดที่ได้เหรียญทองคือ "ยิมนาสติก" และชายที่ทำได้ คือคนที่เคยถูกปรามาสว่า "อ่อนชั้น" เมื่อย้อนกลับไปเมื่อ 1 ปีที่แล้ว ที่เขาแพ้ไม่เป็นท่าในการแข่งขันยิมนาสติกชิงแชมป์โลกปี 2023
นี่คือเรื่องราวการลุกขึ้นสู้ครั้งสำคัญของ คาร์ลอส ยูโล ที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนที่กำลังคิดว่าตัวเองล้มเหลวได้เป็นอย่างดี
ติดตามไปพร้อมกับ Main Stand
คาร์ลอส ยูโล คือใคร ?
เกิดเป็นนักกีฬาในชาติอาเซียนนั้นต้องใช้ความพยายามและความอดทนเป็นอย่างมาก นี่คือถูมิภาคที่ไม่ได้เปรียบทางกรรมพันธุ์ ยังไม่มีวิทยาการดี ๆ ระดับโลกเข้าช่วยเหลือนักกีฬามากนัก และที่สำคัญ ก็ไม่ค่อยมีงบประมาณสำหรับผลักดันความสามารถให้นักกีฬาก้าวไปให้สูงขึ้นเกินขีดจำกัดของพวกเขาให้ได้
ตัวของ คาร์ลอส ยูโล เองก็สะท้อนวิถีนักกีฬาของประเทศในอาเซียนได้เป็นอย่างดี เขาเติบโตจากชุมชนแออัดในกรุงมะนิลา เมืองหลวงของฟิลิปปินส์ และได้เริ่มเล่นยิมนาสติกตอนอายุ 12 ขวบ ซึ่งถือว่าเป็นช่วงอายุที่มากแล้ว หากเทียบกับนักยิมยาสติกจากจีน เจ้าแห่งวงการนี้ที่หลายคนเริ่มฝึกกันตั้งแต่ 4-5 ขวบเป็นต้นไป
อย่างไรก็ตาม ในกรณีของ ยูโล นั้น การเริ่มต้นช้ายังถูกทดแทนด้วยพรสวรรค์ที่มี และกลายเป็นนักกีฬาตัวตึงในระดับประเทศในระดับเยาวชน จนกระทั่งเมื่อเข้าอายุ 18 ปี การเป็นนักยิมนาสติกอาชีพของเขาก็เริ่มขึ้น
1
มาร์ค แอนดรูว์ พ่อของเขายืนยันว่า ในช่วงวัยเด็ก ยูโล เดินหน้ากวาดรางวัลในการแข่งขันระดับประเทศมาหมดทุกราย จากการเติบโตอย่างก้าวกระโดด และกลายเป็นตัวแทนทีมชาติฟิลิปปินส์ลงแข่งในระดับภูมิภาค และในระดับเอเชีย
"ปู่ของเขาเป็นคนเริ่มพาไปสนามยิมยนาสติก จากนั้นเขาก็เติบโตขึ้นมากภายใจ้การสอนของโค้ชที่ GAP (สมาคมยิมนาสติกแห่งฟิลิปปินส์) ตอนนั้นเรารู้ว่าเขาจะไปไกล เพราะในปี 2016 คณะกรรมการโอลิมปิกสากลของญี่ปุ่น ที่เตรียมความพร้อมสำหรับโตเกียวเกมส์ 2020 ได้ให้ทุนการศึกษา และทุนการเรียนด้านยิมนาสติกเฉพาะทางที่ประเทศญี่ปุ่น กับมหาวิทยาลัยเทเกียว"
หลังจากได้ไปฝึกซ้อมที่ญี่ปุ่น ยูโล ก็ขึ้นหิ้งเป็นนักยิมนาสติกเบอร์ 1 ของประเทศ กวาดรางวัลในระดับซีเกมส์ และเอเชียนเกมส์ ให้ทีมชาติฟิลิปปินส์มาเสมอ แน่นอนว่ามาถึงจุดนี้ชื่อเขาเป็นที่รู้จักของแฟนกีฬาและคนทั่วไปในฟิลิปปินส์แล้ว และการปรากฏตัวครั้งนี้เขาถือเป็นของใหม่ มีกระแสความชื่นชมเกิดขึ้นกับเขามากมาย จากความสำเร็จในระดับทวีป และการได้ไปแข่งชิงแชมป์โลกตั้งแต่อายุยังนน้อย
1
สิ่งที่เกิดขึ้นพร้อม ๆ กันคือความคาดหวัง เขากลายเป็นคนของประชาชน และในภูมิภาคอาเซียนคุณเองก็รู้ดีว่าอะไรจะเกิดขึ้น ... วันใดที่ชนะ ทุกคนจะยกย่องเป็นฮีโร่ แต่วันใดที่แพ้ คำวิจารณ์จะเกิดขึ้นมากมายเป็นเงาตามตัว และก่อนที่ ยูโล จะมาถึงเหรียญทองโอลิมปิก เขาก็มีขาลงให้ได้พิสูจน์ตัวเอง
ไอ้เนรคุณ
ช่วงเวลาที่ ยูโล ไปเก็บตัวที่ ญี่ปุ่น เป็นเวลา 4 ปี ทำให้เขาเก่งขึ้นมาก แต่มันก็กดดันและทำให้เขารู้โดดเดี่ยวมากเช่นกัน และเขาเกือบจะยอมแพ้แล้วด้วยซ้ำ
ปี 2022 ยูโล ประกาศเลิกทำงานร่วมกับ มูเนฮิโกะ คูกิมิยะ โค้ชที่สมาคมของญี่ปุ่นจัดหาไว้ให้และทำงานร่วมกับเขามานาน ซึ่งการประกาศตัดสัมพันธ์นี้ทำให้กลุ่มผู้บริหารที่ให้ทุนกับ ยูโล ไม่พอใจด้วย
เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องธรรมดาสามัญของชีวิตมนุษย์นั่นคือ "ความรัก" อย่างที่บอก ยูโล ถูกเคี่ยวจนข้นคลั่ก ใส่เรื่องระเบียบวินัยจัดเต็มมาหลายปีไม่มีวอกแวกไปสนใจเรื่องอื่น ๆ ทุกวันมีแต่ซ้อม ซ้อม ซ้อม แล้วก็ซ้อม มันทำให้เขาเก่งขึ้นจริง แต่ในขณะเดียวกัน มันก็ทำให้เขาเบื่อหน่ายและรู้สึกว่าตัวเองไม่ใช่มนุษย์ เป็นเพียงเครื่องมือในการสร้างความสำเร็จให้องค์กรเท่านั้น
2
ยูโล เริ่มแข่งแพ้มากขึ้น และในขณะเดียวกันเขาก็มีปัญหากับครอบครัวด้วย เพราะทางบ้านของเขาเชื่อว่าการที่เขาเชื่อฟังโค้ชและอยู่ที่ญี่ปุ่นต่อจะดีกับเขามากกว่า แต่สุดท้าย ยูโล เลือกที่จะกลับมาประเทศฟิลิปปินส์ ตัดสัมพันธ์กับทุกคนไม่เว้นแม้กระทั่งครอบครัว เพื่ออยู่กับคนที่เขาคิดว่าเข้าใจเขาที่สุด นั่นคือ โคลอี้ ซาน โฮเซ่ แฟนสาวของเขาเอง
ความสัมพันธ์นี้กระทบกับทุกฝ่าย ทุกคนกลัวว่า ยูโล จะทิ้งทุกอย่างที่ทุกคนร่วมสร้างกันมากับความรักครั้งนี้ ขณะที่ ยูโล ก็มองว่าเขาแค่อยากมีชีวิตในพาร์ทอื่น อยากเป็นคนธรรมดาบ้าง ไม่ใช่เป็นนักกีฬา 24 ชั่วโมงในทุก ๆ วัน
"ผมพยายามคุยกับเขา (มูเนฮิโระ) เพื่อประนีประนอมเรื่องยิมนาสติกให้ลดลงบ้าง ผมบอกเขาว่าผมจะเชื่อฟังคุณ และทำตามที่คุณอยากจะให้ผมทำ แต่ผมบอกด้วยว่า โค้ชครับ นอกเวลาเรียนหรือเวลาฝึกยิมนาสติก คุณช่วยให้ผมมีเวลาและชีวิตของตัวเองได้ไหม นี่คือเวลาเดียวที่ผมจะได้พักผ่อน และได้คิดอะไรบ้าง ผมอยู่ในประเทศญี่ปุ่น ประเทศที่ผมไม่มีเพื่อนเลย" ยูโล กล่าว
"ความสัมพันธ์ของผมกับโค้ช มูเนฮิโระ เติบโตเกินไป และสุดท้ายมันต้องจบลง ผมขอเลือกตัวเองบ้าง เลือกความสงบในจิตใจให้กับตัวเองสักครั้ง"
ยูโล กลับมาฝึกด้วยตัวเองที่ประเทศฟิลิปปินส์พร้อมกับใช้ชีวิตกินอยู่กับแฟนสาวของเขา ซึ่งในช่วงเวลานั้นมีการแข่งขันชิงแชมป์โลกที่ประเทศเบลเยี่ยมในปี 2023 ซึ่งครั้งนั้น ยูโล ที่ไม่เคยพลาดรางวัล กลับบ้านมือเปล่าเป็นครั้งแรก และชาวฟิลิปปินส์มองว่า "เขาจบแล้ว" เขาเลือกชีวิตส่วนตัว เลือกความสบาย มากกว่าการสร้างชื่อเสียงให้ประเทศ ... นั่นคือช่วงที่เขารับมือกับเสียงวิจารณ์มากที่สุด
บางข้อความหนักถึงขั้นด่าเขาว่า "ไอ้เนรคุณ" หันหลังให้กับทุกคน และเลือกกตัวเองอย่างเห็นแก่ตัว ... แต่ก็อย่างที่คุณรู้กัน การเปลี่ยนแปลงมันเกิดจากตรงนี้แหละ
ความสำเร็จบนทางสายกลาง
ขณะที่คนบอกว่าเขาติดแฟนจนอาชีพพัง ยูโล ยืนยันว่าไม่ใช่ มันคือช่วงเวลาที่เขารู้สึกเป็นตัวเองและสร้างสมดุลชีวิตได้ดีที่สุด
"ผมรักยิมนาสติก และรู้จักสิ่งนี้เพียงอย่างเดียวมาตลอดชีวิต แต่ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับ โคลอี้ ช่วยผมได้มาก เธอให้ชีวิตใหม่และทั้งหมดเชื่อมโยงถึงขั้น การมีเธอเข้ามาทำให้ผมเติบโตขึ้น ผมเจอสมดุล ตอนนี้ผมมีสุขภาพกาย สุขภาพจิตที่ดีขึ้น ทุกครั้งที่ผมลงแข่งขัน ผมคิดว่าผมพร้อมจะรับมือกับทุก ๆ อย่าง ไม่ว่าจะแพ้ หรือชนะ ผมยินดีจะเจอกับมันเสมอ"
1
"ผมเล่นยิมนาสติกมาตลอดชีวิต ผมรักมัน และผมก็รักตัวเองด้วยในตอนนี้" ยูโล กล่าว
หลังจากการพ่ายแพ้ในชิงแชมป์โลกเดือนตุลาคมปี 2023 ยูโล ดีขึ้นแบบที่เขาบอก อย่างน้อยก็ในแง่ของความสัมพันธ์กับครอบครัว เขาคุยกับพ่อจนเข้าใจ และครอบครัวกลับมาสนับสนุนเขาอีกครั้ง
ในขณะเดียวกัน ยูโล ก็ฝึกยิมนาสติกแบบแข็งขันมาโดยตลอดในฟิลิปปินส์ เพื่อโอลิมปิกครั้งนี้ที่ปารีส และอย่างที่ได้เขาบอกไป ว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขาพร้อมทุกอย่าง และจะเดินลงสู่การแข่งขันอย่างมั่นใจ เพราะซ้อมถึง สภาพร่างกายดี สภาพจิตใจดี และมีทัศนคติที่ดีในเวลาเดียวกัน
"เวลาที่ผมแข่งขันยิมนาสติก ผมเข้าใจเสมอว่ามันคือเวลา ผมคาดเดาไม่ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราจะแพ้หรือชนะ ? ใครจะรู้หละ แต่ที่ผมรู้แน่ชัดคือผมใส่เต็มที่ ทุ่มสุดตัวแล้วในทุก ๆ การแข่งขันที่ผมต้องเจอ ... เมื่อผมเริ่มแสดง ผมรู้ว่าผมจะพอใจกับทุกสิ่งที่ออกมา สิ่งเหล่านี้เกิดจากการทุ่มเททั้งหมด ... ด้วยร่างกาย และหัวใจ"
เขาเดินหน้าสู่โอลิมปิกที่ปารีส ตามทัศนคติที่บอก และสิ่งทีเกิดขึ้นจากนั้นคือสิ่งที่เราได้รับทราบ ฟิลิปปินส์ เป็นชาติแรกในอาเซียนที่คว้าเหรียญทองในโอลิมปิกครั้งนี้ จากความยอดเยี่ยมของ ยูโล ที่แสดงออกมาในการแข่งขันยิมนาสติกชายประเภทฟลอร์เอ็กเซอร์ไซส์
1
ชัยชนะครั้งนี้เปลี่ยนผิดเป็นถูก เปลี่ยนชั่วเป็นดี จากไอ้เนรคุณเป็นฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิกในสายตาของสื่อและแฟน ๆ ที่แทบจะเลิกคาดหวังเหรียญจากเขาไปแล้วตอนก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่มขึ้น
เขากลายเป็นฮีโร่ของชาติ เป็นคนที่กำลังจะทำให้รัฐบาลฟิลิปปินส์อนุมัติงบสนับสนุนกีฬายิมนาสติกในประเทศ เพื่อสร้าง ยูโล คนต่อ ๆ ไป ... นี่คือเรื่องที่เกิดขึ้นเสมอในอาเซียน ความสำเร็จไม่เกิด การสนับสนุนแบบสุดตัวก็ยากจะเริ่มขึ้น
1
ซึ่งหากมองย้อนกลับไปยังเรื่องราวทั้งหมดของเขาจะพบว่า สิ่งที่ดีที่สุดของเรื่องนี้คือการที่เขาพบสัจธรรม วันที่เขาเลิกแบกความคาดหวังของคนอื่น และกลับมารักตัวเอง และพยายามที่จะประสบความสำเร็จในอาชีพแบบที่ใส่เต็ม 100% ... สำหรับเขาเมื่อผลลัพธ์มันออกมาเป็นแบบนี้ มันคือการเลือกที่ถูกต้องที่สุดแล้ว
2
แหล่งอ้างอิง
1
โฆษณา