6 ส.ค. เวลา 06:49 • หุ้น & เศรษฐกิจ

จับตาหุ้นไทยร่วงหนัก LH ดำดิ่งแตะ5.00 หุ้นไหนควรเก็บ มาดูกัน!!!!

หุ้นของบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) ร่วงเนื่องจากหลายปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการและความเชื่อมั่นของนักลงทุน
1.รายได้และกำไรลดลง ในไตรมาส 1 ปี 2566 รายได้จากการขายของ LH ลดลงประมาณ 30.63% จากปีก่อนหน้า ส่งผลให้กำไรสุทธิไตรมาส 1/66 ลดลงเหลือเพียง 1,400 ล้านบาท ซึ่งเป็นเพียง 17.5% ของประมาณการทั้งปี ทำให้นักวิเคราะห์หลายรายปรับลดคาดการณ์กำไรปี 2566 ลง
2.การโอนกรรมสิทธิ์ ในไตรมาสแรกยังต่ำและคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในไตรมาสที่ 2 แต่ยังต่ำกว่า ค่าเฉลี่ยรายไตรมาสของปี 2564-2565 อยู่มาก
3. แนวโน้มการเปิดตัวโครงการใหม่: การเปิดตัวโครงการใหม่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 3 ซึ่งอาจช่วยปรับปรุงยอด แต่ในขณะเดียวกัน อัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะยังทรงตัวในระดับต่ำในช่วงไตรมาส 3/66
4. ความผันผวนในตลาดอสังหาริมทรัพย์: ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีความผันผวน และนักลงทุนปรับพอร์ตการลงทุนตามน้ำหนักกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้ราคาหุ้น ร่วงตั้งแต่ต้นปี
จากปัจจัยเหล่านี้ ราคาหุ้น LH ปรับตัวลงแรง แต่ยังมีความคาดหวังว่ากำไรปกติในปี 2566 จะเติบโตมากกว่า 10% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และยังมีโอกาสในการลงทุนเนื่องจากการประเมินค่าใหม่ที่มี Upside gain สูงถึง 9 บาทต่อหุ้น
ในวันนี้ตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มที่ดีขึ้น หลังจากการประกาศดัชนีภาคบริการของสหรัฐ (ISM) ที่ขยายตัวเกินคาด ทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจมากขึ้น ดัชนี SET อยู่ที่ประมาณ 1,280-1,290 จุด โดยมีแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นกลุ่ม Domestic Play
1. BDMS (Bangkok Dusit Medical Service)
เหตุผล: BDMS มีศักยภาพในการเติบโตสูง เนื่องจากความต้องการบริการด้านการแพทย์ที่เพิ่มขึ้นในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ การขยายตัวของโครงสร้างพื้นฐานด้านการแพทย์ยังเป็นปัจจัยหนุนให้หุ้นนี้มีแนวโน้มดีในระยะยาว
2. HANA (Hana Microelectronics):
เหตุผล: HANA มีการดำเนินธุรกิจที่ครอบคลุมทั้ง ซึ่งได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะในภาคเทคโนโลยีและอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้มีแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่ง
 
3. MINT (Minor International):
เหตุผล: MINT เป็นบริษัทที่มีการดำเนินธุรกิจหลายประเภท ทั้งโรงแรม อาหาร และการค้าปลีก ทำให้มี บสภาวะตลาดต่าง ๆ นอกจากนี้ การขยายธุรกิจในต่างประเทศยังเป็นปัจจัยที่ช่วยเพิ่มรายได้และความมั่นคงให้กับบริษัทในระยะยาว
หุ้นทั้งสามตัวนี้ได้รับการแนะนำจากนักวิเคราะห์หลายราย เนื่องจากมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีในอนาคต อย่างไรก็ตาม การลงทุนควรพิจารณาปัจจัยเสี่ยงและข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมก่อนการตัดสินใจลง
โฆษณา