6 ส.ค. เวลา 08:59 • ท่องเที่ยว
แกรนเดฟาร์ม Grande Farm

อะโวคาโดปลูกได้ในเมืองไทย

อะโวคาโดมีหลายสายพันธุ์ที่ปลูกได้ทั่วโลก แต่สายพันธุ์ที่ปลูกได้ดีมีหลักๆ อยู่ 3 กลุ่มใหญ่ตามต้นกำเนิดคือ
1. กลุ่มกัวเตมาลา (Guatemalan)
- มีเปลือกหนาและหยาบ ส่วนใหญ่ออกผลในช่วงฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิ
- ตัวอย่างสายพันธุ์: Hass, Pinkerton, Fuerte
2. กลุ่มแม็กซิกัน (Mexican)
- มีเปลือกบาง รสชาติคล้ายลูกนัท และมีกลิ่นหอม
- ตัวอย่างสายพันธุ์: Bacon, Zutano, Mexicola
3. กลุ่มเวสต์อินเดียน (West Indian)
- มีเปลือกหนากลางๆ ผลมีขนาดใหญ่ มักมีเนื้อที่มีความชุ่มฉ่ำ
- ตัวอย่างสายพันธุ์: Lula, Choquette, Hall
สายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเชิงพาณิชย์คือ Hass เนื่องจากรสชาติดีและมีอายุการเก็บรักษานาน
เลือกพันธุ์ชั้นดี จากเม็ดพันธุ์ เกรด A
ในพื้นที่ปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา สามารถปลูกอะโวคาโดได้หลากหลายสายพันธุ์ เนื่องจากมีสภาพอากาศและดินที่เหมาะสม โดยสายพันธุ์ที่นิยมปลูกกันมีดังนี้
1. Hass- เป็นสายพันธุ์ยอดนิยมที่สุดในเชิงพาณิชย์ เนื่องจากมีรสชาติอร่อย เนื้อเนียนและมัน เปลือกเปลี่ยนสีเข้มเมื่อสุก
2. Fuerte - มีเปลือกบาง รสชาติหวานและหอม เนื้อเนียนเป็นมัน
3. Bacon - ผลมีขนาดเล็กถึงกลาง เปลือกบาง เนื้อสีเหลืองอ่อน รสชาติหวานเล็กน้อย
4. Pinkerton - ผลมีขนาดใหญ่ เปลือกหนา เนื้อมีสีเขียวอ่อนถึงสีเหลือง
5. Lamb Hass - สายพันธุ์ที่คล้าย Hass แต่มีขนาดใหญ่กว่า ผลผลิตดีและมีความต้านทานต่อโรคสูง
การเลือกสายพันธุ์ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์การปลูก เช่น เพื่อบริโภคในครัวเรือน หรือเพื่อจำหน่าย
อะโวคาโดผลใหญ่น่ารับประทาน ปลูกได้ดีที่ปากช่อง
ที่จังหวัดกำแพงเพชรซึ่งมีอากาศค่อนข้างร้อนและมีฤดูแล้งที่ชัดเจน การเลือกสายพันธุ์อะโวคาโดควรคำนึงถึงความทนทานต่อความร้อนและสภาพดิน โดยทั่วไปสายพันธุ์ที่แนะนำคือ:
1. Hass - เป็นสายพันธุ์ที่มีความทนทานต่อสภาพอากาศที่หลากหลาย และมีอัตราการผลิตที่ดี
2. Fuerte - สายพันธุ์นี้สามารถทนทานต่อสภาพอากาศร้อนจัดได้ดี และให้ผลผลิตที่มีคุณภาพสูง
3. Bacon - สายพันธุ์ที่สามารถปรับตัวได้ดีในพื้นที่ที่มีอากาศร้อน
4. Pinkerton - มีความทนทานต่อความร้อนและให้ผลผลิตที่ดี
5. Lamb Hass - เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีอากาศร้อนและสามารถผลิตผลได้ดี
ควรทำการศึกษาสภาพดินและน้ำในพื้นที่เพิ่มเติมเพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีที่สุด นอกจากนี้ควรเลือกใช้พันธุ์ที่มีความต้านทานต่อโรคและแมลงในพื้นที่ด้วย
ระยะห่างที่เหมาะสม 6 * 8 เมตร ทางเหนือไปใต้
ราคาของอโวคาโดในประเทศไทยปัจจุบันมีความแตกต่างกันตามประเภทและคุณภาพ โดยทั่วไป ราคาขายปลีกต่อกิโลกรัมอยู่ระหว่าง 122.82 บาทถึง 180.14 บาท (ประมาณ 3.58 ถึง 5.25 ดอลลาร์สหรัฐ) [[❞]](https://www.freshelaexporters.com/avocado/prices/thailand)
[[❞]](https://www.selinawamucii.com/insights/prices/thailand/avocados/). สำหรับอโวคาโดที่นำเข้ามา ราคาจะสูงกว่าเล็กน้อย โดยมีราคาขายปลีกเฉลี่ยต่อกิโลกรัมอยู่ที่ประมาณ 180 ถึง 190 บาท (5.20 ถึง 5.49 ดอลลาร์สหรัฐ) [[❞]](https://www.freshelaexporters.com/avocado/prices/thailand).
ราคาของอโวคาโดในแต่ละสถานที่ เช่น ที่กรุงเทพฯ หรือเชียงใหม่ อาจแตกต่างกันเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับฤดูกาลและความหายากของผลผลิตในช่วงนั้นๆ ในบางสถานที่ เช่น วิลล่ามาร์เก็ตในหัวหิน ราคาของอโวคาโดอาจอยู่ที่ประมาณ 100 บาทต่อผล [[❞]](https://aseannow.com/topic/979129-how-much-do-you-pay-avocados-in-thailand-why-so-expensive/)
ขอบคุณคุณณัฐกรที่ให้เข้าชมสวนอโวคาโดที่ปลูกได้ประสบความสำเร็จพันธุ์ แฮช พันธุ์บูธ 7 พันธุ์วาเลนไทน์ และ อีกหลายๆพันธุ์มากมาย ณ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ที่ระดับความสูง 500 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล เลี้ยงดูต้นไม้ด้วยความตั้งใจ ทั้งปุ๋ย ระบบน้ำแสงแดดและการรักษาโรค ให้ต้นไม้มีคุณภาพดี จนทำให้ผลผลิตมีคุณภาพสูง คุณณฐกรให้ความรู้ จากการลองถูกลองผิดทดลองจริงเจ็บจริงและให้ความรู้โดยไม่มีการปิดกั้นพยายามถ่ายทอดและ ตอบคำถามให้สามารถนำไปใช้ได้จริงใครสนใจเชิญแวะไปเยี่ยมชมได้ที่สวนของคุณณฐกร ครับ
คุณณฐกร เจ้าของไร่อโวคาโด ปากช่อง โคราช(ขวาสุด)
และขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจากแชท gpt ครับ
แกรนเดฟาร์ม Grande Farm
090 987 5765
โฆษณา