เปิดประวัติและความสำคัญของ มิชลินไกด์ "Michelin Guide" ต่อวงการอาหาร
เชื่อว่าหลายท่านคงเคยเห็นหรือเคยได้ยินเกี่ยวกับมิชลินไกด์ (Michelin Guide) มาไม่มากก็น้อย ไม่เพียงแต่เป็นรางวัลที่มอบให้แก่ร้านอาหารเพียงเท่านั้น แต่กลับมีที่มาและความสำคัญมากกว่าที่พวกเราคิด วันนี้ อนันตรา เชียงใหม่ จะพาทุกท่านไปเปิดประวัติของมิชลินไกด์กันว่า จะมีที่มาจากแหล่งใด มีความสำคัญในด้านไหน และมีอิทธิพลต่อวงการอาหารอย่างไร มาร่วมเดินทางไปพร้อมกันได้เลย 🚗💨
มิชลินไกด์ (Michelin Guide) เป็นหนังสือคู่มือที่รวบรวมรายชื่อโรงแรม สถานที่ท่องเที่ยว รวมถึงร้านอาหารที่มีชื่อเสียงและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ก่อตั้งโดยมิชลิน (Michelin) บริษัทผลิตยางรถยนต์รายใหญ่ของประเทศฝรั่งเศส โดยมีวัตถุประสงค์คือ การชักชวนให้ผู้คนออกมาใช้รถยนต์เดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ เมื่อผู้คนใช้รถยนต์มากขึ้น ความต้องการของยางก็ย่อมมากขึ้นตามเช่นเดียวกัน แน่นอนว่าบริษัทเจ้าใหญ่อย่างมิชลิน ก็สามารถเพิ่มรายได้ในจุดนี้ได้นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม แผนทางการตลาดนี้กลับกลายเครื่องมือที่กำหนดมาตรฐานของวงการร้านอาหารทั่วโลกในเวลาต่อมา
ในตอนต้น หนังสือดังกล่าวยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก โดยถูกแจกฟรีทั่วไปเป็นเวลานานกว่า 20 ปี ก่อนที่จะถูกนำมาใช้เป็นกระดาษรองแก้วน้ำตามสถานที่ต่างๆ เมื่อได้รับความนิยมมากขึ้น บริษัทจึงได้ทำการจัดจำหน่ายจนกลายเป็นหนังสือขายดีในเวลาต่อมา ปัจจุบัน มีร้านอาหารที่ถูกจัดอันดับอยู่ในมิชลินไกด์มากกว่าหมื่นแห่งในหลากหลายประเทศทั่วโลก โดยการจัดอันดับ จะมีการมอบรางวัลการันตีคุณภาพด้วยดาวมิชลิน (Michelin Star) ตั้งแต่ 1 ถึง 3 ดวง ดังต่อไปนี้
🌟 1 ดาว หมายถึง ร้านอาหารคุณภาพสูงที่ควรค่าแก่การหยุดแวะชิม
🌟 2 ดาว หมายถึง ร้านอาหารยอดเยี่ยมที่ควรค่าแก่การขับรถออก
นอกเส้นทางเพื่อแวะชิม
🌟3 ดาว หมายถึง สุดยอดร้านอาหารที่ควรค่าแก่การเดินทางไกลเพื่อไปชิมสักครั้ง
การจะได้มาซึ่งดาวมิชลิน 1 ดวงไม่ใช่เรื่องง่าย ร้านอาหารเหล่านี้ต้องผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการหลายคนจากหลายภาคส่วนอย่างเข้มงวด พวกเขาต้องใช้เวลาในการชิมและพิสูจน์มากกว่าหนึ่งปี เพื่อให้สามารถการันตีคุณภาพและมาตรฐานโดยรวมได้อย่างถ่องแท้
นอกจากนี้ ยังมีการมอบรางวัลบิบ กูร์มองด์ (Bib Gourmand) เป็นรางวัลสำหรับร้านอาหารที่นำเสนออาหารรสชาติดีในราคาที่คุ้มค่าและย่อมเยา ไม่เกินมาตรฐานของร้านระดับเดียวกัน ถึงแม้จะไม่มีการให้รางวัลด้วยดาว แต่จะใช้สัญลักษณ์บิเบนดัม (Bibendum) ตัวละครห่วงยางสีขาว มาสคอตประจำบริษัทมิชลินที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากัน รวมไปถึงรางวัล The Plate Michelin หรือที่รู้จักกันในชื่อ L' Assiette เป็นรางวัลที่มอบให้ร้านอาหารคุณภาพดี ใช้วัตถุดิบที่สดใหม่ และรังสรรค์รสชาติอย่างพิถีพิถัน ใช้สัญลักษณ์เป็นรูปจานและช้อนส้อม
รางวัลเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นการมอบรางวัลทั่วไปเพียงเท่านั้น การคัดเลือกจากคณะกรรมที่เข้มงวดและชื่อเสียงอันโด่งดังของมิชลิน รางวัลเหล่านี้จึงเปรียบเสมือนเครื่องหมายการันตีคุณภาพที่ดีของร้านอาหาร และสร้างความน่าเชื่อถือให้ลูกค้าที่มารับประทาน เราจึงสามารถสังเกตได้เลยว่า ร้านเหล่านี้จะมีลูกค้าหนาแน่นไม่ขาดสาย และถูกเผยแพร่ไปยังโซเชียลมีเดียหลากหลายช่องทางจนเป็นที่รู้จักของผู้คนทั้งในและนอกประเทศ กลายมาเป็นรางวัลที่วงการอาหารต้องการไขว่คว้าเอาไว้
หากทุกท่านต้องการรับประสบการณ์ทางด้านอาหารในระดับ Michelin Star อนันตรา เชียงใหม่ ขอเรียนเชิญทุกท่านมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม World Gourmet Festival 2024 ที่ 1921 เฮาส์ ณ อนันตรา เชียงใหม่ รีสอร์ท เป็นโอกาสอันดีที่ทุกท่านจะได้สัมผัสเมนูอาหารอิตาเลียน 6 คอร์ส รังสรรค์ด้วยวัตถุดิบท้องถิ่นชั้นเลิศผ่านฝีมือของเชฟ Enrico Marmo เชฟมืออาชีพชาวอิตาเลียนจากร้านอาหาร Ristorante Balzi Rossi การันตีคุณภาพด้วย Michelin Star ระดับ 1 ดาว
📍กิจกรรมจัดขึ้นในวันที่ 27 และ 28 กันยายน 2567 ตั้งแต่เวลา 1 ทุ่ม ถึง 4 ทุ่ม
📍จองก่อนวันที่ 31 สิงหาคม 2567 นี้ รับส่วนลด 10% สำหรับแพ็กเกจที่เลือก
🥗 ดินเนอร์ 6 คอร์ส: 4,900++ บาท ต่อท่าน
🍷 พร้อมไวน์แพริ่ง: 7,200++ บาท ต่อท่าน
แล้วมาสัมผัสประสบการณ์ความอร่อยในระดับ Michelin Star ไปด้วยกันเจ้า ✨
คุณ Enrico Marmo เชฟชาวอิตาเลียนจากร้านอาหาร Ristorante Balzi Rossi เจ้าของ Michelin Star ระดับ 1 ดาว
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
