7 ส.ค. เวลา 12:00 • ข่าว

พายุหมุน หรือ ทรายดูด

พ่อค้า แม่ค้า ร้านค้ารายย่อย
ที่จะร่วมโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต พึงระวัง
ประชาชนต่างพากันเฝ้ารอ ต่อการแจกเงิน 10,000 เงินดิจิทัล
จริงอยู่ว่าสร้างประโยชน์ ผ่อนคลายความตึงทางเศรษฐกิจ
ให้กับประชาชนได้แบบเฉพาะหน้า
แต่คำว่าประชาชน มีอยู่ 2 สถานะ.
- สถานะแรก คือ ประชาชนที่สวมหมวกเป็นลูกจ้างทำงานอย่างเดียว
ใช้เงินดิจิทัลซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างเดียว
ซึ่งได้ประโยชน์จากเงินปลอมนี้
- สถานะที่2 คือ สวมหมวกเป็นผู้ประกอบการค้า หรือพ่อค้า แม่ขาย .
ไม่ได้ประโยชน์จากเงินปลอมนี้
พ่อค้า แม่ค้า และร้านค้าที่จะกล่าวถึงนี้
คือร้านค้าย่อย "มือแรก" –
หรืออาจจะเป็นร้านค้าขนาดกลางก็ได้
เป็นมือแรกที่รับเงินกับประชาชนโดยตรง
สมมติ : เป็นร้านขายปุ๋ย หรือร้านขายของชำ
ร้านขายข้าวสาร หรือร้านขายสังฆภัณฑ์
เมื่อประชาชนมาสแกนจ่ายด้วยเงินดิจิทัล 1,000 บาท .
2
ในนั้นมีสินค้าที่เป็นทุนอยู่ 900 บ. และเป็นกำไรอยู่ 100 บ.
30 คนมาสแกนซื้อ จึงเท่ากับ 30,000
แยกเป็นทุน 27,000 , เป็นกำไร 3,000
แต่ทั้งทุนและทั้งกำไร . ไม่สามารถเอาออกมาเป็นเงินสดได้ .
. ต้องไปสแกนซื้อต่อทั้ง 30,000 บาท
ผลก็คือ ร้านค้านั้นต้องใช้เงินกำไรที่ควรได้ 3,000
ลงทุนเพิ่มเข้าไปซื้อต่อในร้านค้ามือที่ 2
จากกลเกมการออกแบบเงินดิจิทัลวอลเล็ต
จึงถือเป็นขาดทุนกำไร
1
ถ้ามีคนมาซื้อสัปดาห์ละ 30 คน .
ขาดทุนในกำไร 3,000 บ.
1 เดือน = 120 คน . เท่ากับขาดทุนกำไร 12,000 บาท
กำไรไม่สามารถถูกดึงออกมาอยู่ในมือ
ยิ่งประชาชนมาซื้อมาก ร้านค้าย่อยยิ่งขาดทุนกำไรมาก
เพราะกำไรกลายเป็นทุนในดิจิทัลนั้น ขึ้นเป็นเงินสดไม่ได้
ถูกเกมบังคับให้สแกนซื้อต่อ
สุดท้ายก็คงต้องเจ๊ง ยิ่งกว่าเดิม
เชื่อเถอะ ยังมีพ่อค้าแม่ค้ารายย่อยหลายร้าน
ยังหลงอยู่กับตัวเลขที่เป็นเงิน โดยไม่รู้เรื่องกับดักนี้
ต้องรอให้มีการเริ่มสแกนใช้ไปสัก 15 วัน .
ความสับสนในการติดกับดักจะปรากฎปัญหาออกมา
ทำให้เดือนร้อนไปทั่วหล้า
พ่อค้า แม่ค้า ร้านค้า พึงระวัง !
อย่าเห็นทองที่อยู่บนผืนทราย แล้วรีบเดินเข้าไปหยิบ
ทรายดูด จะกลืนทั้งทองและเหยื่อ จมหายไป
ป้องกันทรายดูด ด้วยการเขียนป้ายหน้าร้านว่า
"รับเงิดสด งดรับดิจิทัล"
ถูกต้องแล้วครับ.....(ปัญญาไม่ได้กล่าว)
ขอเสียงพ่อค้า แม่ค้าหน่อยเร็ว
Raydy Meilie..เรื่อง
ภาพ ล้อมวงเล่า
โฆษณา