7 ส.ค. เวลา 03:46 • ธุรกิจ

สรุป 9 คำศัพท์ AI ที่ได้ยินกันบ่อย ๆ แต่หลายคนยังไม่เข้าใจความหมาย สำหรับคนทำธุรกิจสมัยนี้

1.Artificial Intelligence (AI) = เทคโนโลยีที่ทำให้คอมพิวเตอร์หรือเครื่องจักร มีความคิดและสามารถทำงานได้เหมือนมนุษย์ เช่น การเรียนรู้ การวางแผน และการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ
3
รวมทั้งเป็นตัวช่วยมนุษย์ในการคิด ซึ่งเน้นไปในเรื่องของการประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูล
1
ตัวอย่างเช่น
- ระบบช่วยนำทาง และแสดงผลการจราจรแบบเรียลไทม์ ของ Google Map
- ระบบช่วยขับขี่อัตโนมัต Autopilot ของ Tesla
2
2. Machine learning (ML) = การทำให้คอมพิวเตอร์หรือเครื่องจักรสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง จากการใช้ข้อมูล โดยที่มนุษย์ไม่ต้องคอยมานั่งเขียนโปรแกรมหรือคำสั่งใด ๆ
ตัวอย่างเช่น
- ระบบการแนะนำซีรีส์หรือภาพยนตร์ใน Netflix ที่ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลและสร้างคำแนะนำ ที่ตรงกับความชอบของผู้ใช้ เพื่อให้ผู้ใช้ค้นพบหนังและซีรีส์ที่น่าสนใจได้ง่ายขึ้น
- ผู้ช่วยดิจิทัลอย่าง Siri หรือ Google Assistant ที่สามารถเรียนรู้และเข้าใจคำพูดของผู้ใช้และตอบสนองตามคำสั่งได้
3.Deep Learning (DL) = หน่วยย่อยของ Machine learning ที่มีโดยมีพื้นฐานการทำงานเลียนแบบสมองมนุษย์ ในการรับข้อมูลและเรียนรู้ผ่านประสบการณ์สำหรับงานที่ซับซ้อนมากขึ้น
1
ตัวอย่างเช่น
- AlphaGo ของ DeepMind ใช้โครงข่ายประสาทเทียมเชิงลึก เพื่อเล่นเกมโกะ (Go) และสามารถเอาชนะผู้เล่นมืออาชีพระดับโลกได้
- ระบบการจำแนกภาพของ Google Photos ที่สามารถระบุและจัดกลุ่มภาพตามประเภทของวัตถุ เช่น สุนัข, แมว, และคน โดยใช้โครงข่ายประสาทเทียมเชิงลึก
4.Generative AI (Gen-AI) = AI ประเภทหนึ่งที่ถูกออกแบบให้มีความสามารถในการ Generate หรือก็คือสร้างสรรค์เนื้อหาใหม่ ๆ
ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบข้อความ รูปภาพ เสียง วิดีโอ หรืออื่น ๆ โดยอาศัยชุดข้อมูลที่ถูกป้อนเข้ามาในระบบ
1
ตัวอย่างเช่น
- ChatGPT ที่พัฒนาโดย OpenAI
- Gemini ที่พัฒนาโดย Google
- Claude ที่พัฒนาโดย Anthropic
5. Prompt = ชุดคำสั่งในรูปของข้อความหรือประโยค เพื่ออธิบายสิ่งที่เราต้องการให้กับ AI และให้ AI สร้างสิ่งนั้นขึ้นมา ยิ่งเขียนละเอียดเท่าไร ยิ่งได้ผลลัพธ์ดีขึ้นเท่านั้น
ตัวอย่างเช่น
เราส่ง Promt ให้ ChatGPT ว่า “อธิบายความแตกต่าง ระหว่างมนุษย์กับ AI สั้น ๆ 3 ข้อ”
แล้ว ChatGPT ตอบกลับว่า
1
“ความคิดสร้างสรรค์: มนุษย์มีความสามารถในการคิดสร้างสรรค์และสร้างผลงานใหม่ ๆ จากประสบการณ์และอารมณ์ ขณะที่ AI สามารถสร้างสรรค์ได้ แต่จะถูกจำกัดโดยข้อมูลและอัลกอริธึมที่มีอยู่
อารมณ์และความรู้สึก: มนุษย์มีอารมณ์และความรู้สึกที่ซับซ้อน เช่น ความรัก ความโกรธ และความเศร้า ในขณะที่ AI ไม่มีอารมณ์หรือความรู้สึก แต่สามารถประมวลผลข้อมูลและตอบสนองได้ตามอัลกอริธึม
ความสามารถในการเรียนรู้: มนุษย์มีความสามารถในการเรียนรู้จากประสบการณ์และการปรับตัวตามสภาพแวดล้อม ขณะที่ AI เรียนรู้จากข้อมูลที่ถูกป้อนเข้าไปและอาจไม่สามารถปรับตัวได้โดยไม่ได้รับข้อมูลใหม่”
6. Natural language processing (NLP) = เทคโนโลยีที่ทำให้คอมพิวเตอร์เข้าใจ สื่อสาร และวิเคราะห์ภาษา ได้เหมือนกับมนุษย์
ตัวอย่างเช่น
- Google Translate ที่แปลข้อความจากภาษาหนึ่งไปยังอีกภาษาหนึ่ง
- ฟีเชอร์ตรวจสอบการสะกดในโปรแกรม Microsoft Word ที่สามารถแก้ไขคำผิดโดยอัตโนมัติ
7. Artificial Narrow Intelligence (ANI) = AI ที่ถูกออกแบบให้ทำงานในขอบเขตหรือแอปพลิเคชันที่เฉพาะเจาะจง และไม่สามารถทำงานอื่น ๆ ได้
ตัวอย่างเช่น
- Netflix ใช้ ANI เพื่อแนะนำหนังที่แต่ละคนอาจสนใจตามประวัติการดูของแต่ละผู้ใช้งาน
- ระบบ Face ID ใน iPhone ใช้ ANI เพื่อปลดล็อกโทรศัพท์โดยการจดจำใบหน้า
1
8. Artificial General Intelligence (AGI) = AI ที่มีสติปัญญาเทียบเท่ามนุษย์​ ในด้านการเรียนรู้, การคิดวิเคราะห์, และการทำงานหลากหลาย
2
โดย AGI ยังไม่เกิดขึ้นจริงในปัจจุบัน และเป็นเป้าหมายระยะยาวของการวิจัย AI
แต่เนื่องจาก AGI ยังเป็นแนวคิดในอนาคต และไม่มีตัวอย่างในชีวิตประจำวันที่เกิดขึ้นจริงในปัจจุบัน การพูดถึง AGI ส่วนใหญ่จะเป็นการพูดถึงศักยภาพและเป้าหมายที่มีความซับซ้อนและครอบคลุมหลายด้าน
1
ดังนั้นตัวอย่างที่เกี่ยวข้องจึงเป็นเพียงการคาดการณ์หรือทฤษฎีเท่านั้น ซึ่งตัวอย่าง AGI ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เช่น
2
- หุ่นยนต์ช่วยเหลือในบ้าน ที่ทำงานบ้านได้หลากหลาย เช่น การทำความสะอาด, การทำอาหาร และการจัดการงานที่ไม่คุ้นเคย โดยไม่ต้องมีการตั้งโปรแกรมเฉพาะสำหรับแต่ละงาน
- นักวิจัยอัจฉริยะ ที่สามารถทำงานวิจัยและพัฒนาในหลายสาขา ตั้งแต่การค้นคว้า, การแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ และการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ
9. Artificial Superintelligence (ASI) = AI ที่มีสติปัญญา “เหนือกว่ามนุษย์ในทุกด้าน” โดยเฉพาะทักษะด้านการคิดต่าง ๆ เช่น การคิดวิเคราะห์, การตัดสินใจ, ความคิดสร้างสรรค์, การคิดแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน
เช่นเดียวกับ ANI ปัจจุบัน ASI ยังถือว่าเป็นแนวคิดที่มนุษย์ยังพัฒนาไปไม่ถึงและมีข้อกังวลต่าง ๆ เกี่ยวกับ ASI มากมาย
ทั้งเรื่องจริยธรรม AI รวมถึงแนวคิดที่ว่า AI จะมาแทนมนุษย์และครองโลกได้ในที่สุด
ตัวอย่าง ASI ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เช่น
- การจัดการและควบคุมระบบเศรษฐกิจ
- การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- การให้คำแนะนำ และตัดสินใจในด้านการเมือง, การทหาร, หรือการลงทุน
1
โฆษณา