7 ส.ค. เวลา 07:08 • ดนตรี เพลง

ชวนส่อง MV สุดจัดจ้านเซอเรียล ในเพลง ‘หมาคาบเกิบ’ โดย โจอี้ ภูวศิษฐ์

หนึ่งในศิลปินที่มีเอกลักษณ์มากที่สุดกลับมาแล้ว ! กับอัลบั้มใหม่ ‘โพนทราย Style Sound’ ของ ‘โจอี้ ภูวศิษฐ์’ Joey Phuwasit ที่ครั้งนี้จะพาเราเดินทางไปเสพดนตรีที่บ้านเกิด อ.โพนทราย จังหวัดร้อยเอ็ด ตามชื่ออัลบั้ม
โดยเพลงใหม่ ‘หมาคาบเกิบ’ ก็ยังคงตัวตนที่ชัดเจนมากๆ ทั้งสไตล์ดนตรีอีสานร่วมสมัย ที่จังหวะโจ๊ะๆ สนุกสนาน จากเสียงพิณดวลกับเสียงกีตาร์ไฟฟ้า และดนตรีดิสโก้ ฟังครั้งแรกก็ติดหู เหมาะกับเอาไปเปิดในทุกเทศกาลแบบสุดๆ นอกจากนี้ยังมีการนำส่วนท่อนฮุคมาจากเพลงในอดีตอย่าง ‘ผู้บ่าวคาบเกิบ’ โดย จินตหรา พูนลาบ รุ่นพี่ร่วมค่ายมาใส่ในเพลงอีกด้วย
ส่วน Music Video ก็ได้ รัศมีแข กับ ติช่า - กันติชา มาช่วยเพิ่มความปั่น ซึ่งหลังจากได้ดู MV นี้ ก็ต้องบอกว่ามีองค์ประกอบศิลป์ (Art Direction) ที่สไตล์จัดจ้าน บ้าบิ่น แต่ก็ลงตัวเป็นเอกลักษณ์เช่นเคย และยังช่วยสะท้อนสไตล์เพลงของศิลปินได้เป็นอย่างดี เป็นอีกผลงาน MV ที่แสดงถึงศักยภาพของทีมงานเบื้องหลังคนไทยอย่างน่าชื่นชม
Art of จึงขอมาเล่าถึงว่าอะไรทำให้ผลงานนี้ดูสวยงามลงตัว และส่งเสริมเพลงได้ขนาดนี้ ตามไปอ่านกันได้เลย !
ความสมมาตรและมุมกล้อง ที่ทำให้เหมือนภาพถ่าย
เอกลักษณ์ของ MV เพลงของโจอี้ ภูวศิษฐ์ ที่โดดเด่นอย่างหนึ่งก็คือ การวางองค์ประกอบที่ลงตัวเหมือนภาพถ่าย ในแบบที่ไม่ว่าจะแคปฉากไหน ก็สวยไปหมดเกินกว่าจะเป็นความจริง
ซึ่งการที่ภาพสวยเกินจริงนั้นก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นเพราะมีการใช้องค์ประกอบภาพแบบเท่ากันสองด้าน (symmetry composition) ซึ่งให้ความรู้สึกที่แฟนตาซี ไม่เหมือนความจริง รวมถึงการตั้งกล้องนิ่งๆ แบบมุมกว้าง ก็ทำให้เห็นองค์ประกอบทุกอย่างชัดเจนที่ถูกคิดและจัดวางมาแล้วอย่างลงตัว
นอกจากนี้ภาพมุมกว้างยังขับให้เห็นภาพทิวทัศน์กับสถาปัตยกรรมชนบทด้านหลังชัดเจนขึ้นอีกด้วย เชื่อว่าหลังจากที่ได้ดู MV นี้ หลายๆ คนคงจะอยากไปตามรอยกันอย่างแน่นอน
การใช้สกีมสีแบบ Triadic Color Scheme
นอกจากจะเลือกใช้สีสดใสฟีลวินเทจเบาๆ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งที่ใน MV เพลงของโจอี้มีการใช้มาหลายครั้ง ก็ยังมีอีกหลายฉากที่ทีมงานตั้งใจเลือกสีมาแบบ 3 สีสดๆ เช่น แดง - เหลือง - น้ำเงิน
สี 3 มุมแบบสามเหลี่ยมแบบนี้เรียกว่า Triadic Color Scheme เป็นการหยิบเอาสี 3 มุมมาจากวงล้อสี แต่เพิ่มลูกเล่นเข้าไปหน่อย โดยการเอาทั้ง 3 สีมาปรับเพิ่มลดความสด-ทึม และความสว่าง-มืด
.
ถึงจะมาจากแม่สีเดียวกัน แต่จะเห็นว่า แดง - เหลือง - น้ำเงิน ในแต่ละซีนก็แตกต่างกันออกไป เป็นความสนุกอีกอย่างหนึ่งของการใช้สีในเพลงนี้
คอสตูม ผสมผสานคันทรี่ไทย-ฝรั่ง
ด้วยแนวเพลง ‘อีสานร็อค’ ที่เป็นแนวดนตรีร็อคสมัยใหม่ ผสมผสานกับเนื้อเพลงและดนตรีอีสานพื้นบ้าน จึงมีการใช้องค์ประกอบลูกทุ่งชนบทหลายอย่าง ผสมกับความเป็นสากล ทำให้ดูโดดเด่นและฉีกออกจากกรอบมากขึ้น
โดยเฉพาะเสื้อผ้าของเหล่าตัวละครที่มีลวดลายสีสันสดใสแบบลูกทุ่งๆ แต่ก็มีการใส่เครื่องแต่งกายตะวันตกเช่น หมวกเบเรต์สไตล์ฝรั่งเศส หมวกคาวบอย หมวกปีกกว้างเม็กซิกัน เครื่องหัวดอกไม้ และผ้าโพกหัววินเทจ หรือกระทั่งชุดและเครื่องประดับที่ดูฮิปฮอปหน่อยๆ เมื่อทั้งหมดมาอยู่กับฉากหลังชนบทแบบไทยๆ ก็ออกมาดูลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ
สร้างความโดดเด้งด้วยลวดลายพื้นผิว (Texture)
นอกจากเรื่องกับคู่สี ยังมีการใช้ พื้นผิว (Texture) ลวดลายเพื่อทำให้องค์ประกอบที่ต้องการเน้นออกมาโดดเด่นขึ้น เช่น หากด้านหลังใช้สีพื้นเรียบๆ อย่าง ท้องฟ้า, ลำโพงสีเหลือง, กำแพงสังกะสี ก็จะเลือกใช้ลวดลายของเสื้อผ้าด้านหน้าให้ตัวละครดูโดดเด่นขึ้นมา
หรือหากตัวละครด้านหน้าใส่ชุดสีเรียบ พื้นหลังก็จะเน้นมีลวดลาย Texture ต่างๆ ขึ้นมา เช่น ผ้าปูที่นอนที่ตากไว้, ผ้าม่านลูกปัดที่เน้นให้รัศมีแขในเสื้อสีเหลืองป๊อปขึ้น การสลับเทคนิคทั้งสองแบบไปมา ทำให้ทุกฉากดูไม่น่าเบื่อ และน่าติดตามมากขึ้น
ดึงเสน่ห์พื้นบ้าน มาผสมผสานกับความ Surreal
อีกสิ่งหนึ่งที่โดดเด่นมากๆ ใน MV คือการจับเอาองค์ประกอบพื้นบ้าน มาทำให้มีความ Surreal มากขึ้น นอกจากจะช่วยดึงดูดความสนใจ ยังเป็นการต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ลงบนพื้นฐานวัฒนธรรมอีสาน
เทคนิคหนึ่งที่ใช้คือการเลือกเทสีสดเกินจริงสีเดียวลงบนองค์ประกอบบางอย่าง ซึ่งในที่นี้มักจะเป็นสิ่งของพื้นบ้านที่แสดงถึงความเป็นอีสาน เช่น พิณสีชมพูที่เป็นเครื่องดนตรีพื้นบ้านอีสาน, แถบเส้นเสียง Equalizer ที่เหมือนปิดทองลงบนควายสีชมพู
นอกจากการใช้สีเดียว ยังมีการใช้ Texture ต่างๆ Mix and Match กันสนุกๆ เช่น รถมอเตอร์ไซค์ ตกแต่งด้วยขนเฟอร์เป็นรูปผึ้ง สะท้อนเรื่องความหลากหลายที่ผสมผสานกันจนเป็นวัฒนธรรมอีสาน
โฆษณา