7 ส.ค. เวลา 13:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

เงินเฟ้อ (inflation) คืออะไร? ส่งผลอย่างไรต่อเงินของคุณ

เงินเฟ้อคืออะไร? เราคงเคยได้ยินคำนี้กันบ่อยๆ จากข่าวเศรษฐกิจบ้าง จากกูรูด้านการเงินบ้าง หรืออาจจะได้ยินจากคนรอบตัว แต่ว่าวันนี้ เราขอพาทุกคนไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับเงินเฟ้อ ว่าจริงๆ แล้วคืออะไร แล้วส่งผลอย่างไรต่อเงินของคุณ
3
ความหมายของคำว่า เงินเฟ้อ
เงินเฟ้อ คือ ภาวะเศรษฐกิจที่สินค้าหรือบริการ มีราคาสูงขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเวลาที่ผ่านมา หรือในอีกนัยหนึ่งหากพิจารณาจากค่าของเงิน เงินเฟ้อ คือการที่มูลค่าของเงินที่มีอยู่ลดลงจากเดิม ทำให้ต้องใช้เงินจำนวนมากขึ้นในการซื้อของ
3
ยกตัวอย่างเช่น เมื่อปี 2560 ราคาเฉลี่ยค้าปลีกของเนื้อหมูสันนอก อยู่ที่ 137.50 บาท แต่ในปีนี้ ราคาเฉลี่ย (ณ วันที่ 2 สิงหาคม 2567) อยู่ที่ 165.00 บาท เท่ากับว่าราคาเนื้อหมูสันนอกสูงขึ้น 27.50 บาท คิดเป็น +20% (ข้อมูลจาก กระทรวงพาณิชย์) และหากนำส่วนต่างของราคามาเปรียบเทียบคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ สิ่งนี้คือ “อัตราเงินเฟ้อ” ของสินค้านั่นเอง
1
สาเหตุที่ทำให้เกิด เงินเฟ้อ
สาเหตุหลัก ที่ทำให้เกิดเงินเฟ้อ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
  • 1.
    Cost-push Inflation คือการที่สินค้าราคาสูงขึ้น เนื่องจากต้นทุนที่แพงขึ้น เช่น ค่าแรง ค่าวัตถุดิบ ค่าขนส่ง เป็นต้น
  • 2.
    Demand-pull Inflation คือการที่สินค้าราคาสูงขึ้น จากความต้องการของผู้บริโภคที่มากขึ้น เช่น ความต้องการใช้น้ำมัน ความต้องการใช้หน้ากากอนามัย ที่มากขึ้น เป็นต้น
วิธีรับมือกับเงินเฟ้อ
แน่นอนว่าในการรับมือกับเงินเฟ้อ รวมถึงการแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อที่สูงเกินไป จะต้องเป็นการแก้ไขปัญหาในทุกระดับ ตั้งแต่การบริหารและนโยบายของภาครัฐ การบริหารจัดการของภาคเอกชน แต่เราในฐานะบุคคลทั่วไป ก็จำเป็นต้องวางแผนรับมือกับเงินเฟ้อด้วยเช่นกัน
เงินเฟ้อมีแต่ข้อเสียอย่างเดียวหรือไม่?
ถึงแม้ว่าเงินเฟ้อจะดูส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วน แต่ก็ยังมีข้อดีอยู่ เพราะในกรณีที่เศรษฐกิจตกอยู่ในภาวะเงินเฟ้ออ่อนๆ จะเป็นการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยไปด้วยในตัว เพราะทำให้ผู้บริโภคเกิดการคาดการณ์ว่าสินค้าหรือบริการจะมีการปรับราคาสูงขึ้นอีกในอนาคต ทำให้ตัดสินใจซื้อตั้งแต่วันนี้ ภาคธุรกิจเกิดการผลิตเพิ่ม ไปจนถึงการจ้างงานเพิ่มมากขึ้น เปรียบเสมือนการกระตุ้นเศรษฐกิจไปด้วย
3
นอกจากนี้ภาวะเงินเฟ้อแบบอ่อนๆ จะกระตุ้นให้คนนำเงินไปลงทุน หรือออมมากขึ้น เพราะต้องการให้เงินที่มีอยู่มีมูลค่ามากขึ้น หรือสร้างผลตอบแทนให้มากขึ้นเพื่อหวังในการเอาชนะเงินเฟ้อได้นั่นเอง จึงต้องมีวิธีรับมือกับเงินเฟ้อ ดังนี้
  • 1.
    สร้างรายได้เพิ่ม เพื่อมาเป็นเงินใช้จ่ายเพิ่มเติม ทดแทนมูลค่าเงินได้ที่ลดลง หรือเป็นเงินสำรองในเหตุฉุกเฉิน
  • 2.
    วางแผนการใช้จ่าย ให้ประหยัดลง เพื่อให้ต้นทุนการดำรงชีวิตเหมาะสมกับเงินที่มี หรือรายได้ที่เข้ามา
  • 3.
    วางแผนการลงทุน และการออมเงิน เพื่อให้เงินที่มี สามารถสร้างมูลค่าให้งอกเงยขึ้น และเป็นการ เก็บเงินไว้เพื่อใช้ซื้อสินค้าและบริการในอนาคต โดยไม่ต้องกู้หนี้ยืมสิน
สรุป ทำไมต้องเข้าใจเรื่อง เงินเฟ้อ
ภาวะเงินเฟ้อ ส่งผลไม่เพียงแต่มูลค่าของเงินในกระเป๋าคุณ แต่ส่งผลต่อทุกภาคส่วน ดังนั้นการเตรียมตัวรับมือตั้งแต่เนิ่นๆ ในทุกด้าน ทั้งการสร้างรายได้เพิ่ม การวางแผนการใช้จ่าย รวมถึงการวางแผนการออมและมองหาโอกาสการลงทุนที่ดี จะช่วยให้เกิดความมั่นคงของชีวิตในช่วงที่เผชิญกับภาวะเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นได้
*คำเตือน
กองทุนรวมนี้มีลักษณะเฉพาะและความเสี่ยงเฉพาะ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยงและศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนฯ ในกองทุนรวม SSF ก่อนตัดสินใจลงทุน
ทั้งนี้ ผู้ลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีหากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการลงทุนตามที่กรมสรรพากรกำหนด
1
โฆษณา