ยิ่งเราปกปิดตัวตนไว้ลึกแค่ไหน เราก็ยิ่งค้นพบ “กลุ่มคนที่ใช่” ยากขึ้นมากเท่านั้น
ไม่ง่ายเลย ที่เราจะสามารถเป็นตัวตนที่แท้จริง ได้ในทุกสถานการณ์ เพราะในความเป็นจริง ชีวิตของเราไม่ได้พบแค่กลุ่มคนที่จะประสานกลมกลืนไปกับเราได้ แน่นอนมีความไม่ลงรอย และขัดแย้งกันเกิดขึ้น
.
คนหนึ่งไม่ชอบความขัดแย้งจึงผ่อนปรน มิเอาความ คนหนึ่งกลับได้ใจ ตีความคิดเข้าข้างตนนานา แลกระทำซ้ำ มิได้เรียนรู้ถึงสิ่งที่ตนกระทำนั้น ได้ส่งผลด้านลบให้คนอื่นรู้สึกไม่ดี ซ้ำกลับมองเป็นเรื่องปกติ เพราะมีคนยอมโอนอ่อนผ่อนตาม
ข้อความข้างต้นนี้ กำลังบ่งบอกเราว่า
หากเรามิกล้าเผยสิ่งที่อยู่ภายใน อันเป็นสิ่งที่เรารู้สึกที่แท้จริง ย่อมมิมีใครเข้าใจความจริงแท้ของหัวใจของเรา
แลไม่มีทางที่พวกเขาจะรู้ได้ จากการคาดเดาไปต่าง ๆ นานาเช่นนี้ หลากคนหลากความคิด หลากเรื่องราวหลากประสบการณ์ แต่ละผู้คนล้วนเผชิญสถานการณ์ที่แตกต่าง ย่อมตีความ แสดงออกได้หมื่นพันรูปแบบ ในความหมายเพียงหนึ่ง
.
หากต้องการสิ่งใดจงบอก รู้สึกเช่นไรจงเล่า ความจริงเช่นใดก็คือความจริง หากเจ้าประสงค์ให้ผู้อื่นรับรู้ถึงความจริงในตัวเจ้า เจ้าจงเป็นตัวตนรูปแบบนั้นโดยไม่กลัวเกรง
กลัวเกรงสิ่งใดน่ะหรือ ก็กลัวว่าคนอื่นจะชอบเจ้าหรือไม่ ใครจะวิพากษ์วิจารณ์เช่นไร หากเราไม่ทำความเดือดร้อน หรือทำร้ายใคร เพียงแค่ เรายึดมั่นในการ เคารพตัวตนที่แท้จริงของตนเองอย่างบริสุทธิ์ได้ ก็มิมีสิ่งใดต้องเกรงกลัว
.
ที่รัก การยอมรับในตัวตนของตนเองได้อย่างเปิดอก รู้จริงแท้ในลักษณะนิสัยดั้งเดิมของตน และยอมรับมันได้ เป็นคุณสมบัติที่หาได้ยากยิ่ง เพราะไม่เพียงเราจะไม่เข้าข้างตนเองแล้ว เรายังมองเห็นจุดบกพร่องที่เราตระหนักถึงแนวทางแก้ไขอีกด้วย
.
เจ้าว่า คนที่ยอมรับในข้อดี และข้อเสียของตนเองได้ ยอมรับผิดและให้อภัยตนเองได้เสมอ หากเจ้าเป็นเช่นนั้นได้ เจ้าจะรู้สึกเช่นไร จะคิด จะกระทำ หรือจะแสดงออกแตกต่างจากที่เป็นอยู่ตอนนี้หรือไม่
เจ้าว่าคนที่เป็นเช่นนั้นจะรู้สึกอิสระมากน้อยแค่ไหน พวกเขาจะปลดปล่อยพลังงานดี ๆ อะไรออกมาบ้าง แน่นอนไม่มีใครที่จะส่งพลังงานด้านบวกออกมาได้ตลอดเวลา หรือทุก ๆ วัน แต่สิ่งที่พิเศษและไม่เหมือนใคร
.
คือ พวกเขาจะไม่ทอดทิ้งตัวตนของตนเองไป พวกเขาจะไม่ถูกกลืนไปกับคำพูดของใคร พวกเขาจะไม่ตามกระแส หรือ อยากเป็นเหมือนใคร พวกเขา “เปล่งประกายแสงแห่งความนับถือในตนเอง” ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
พวกเขาไม่จำเป็นต้องเอาอกเอาใจใครเพื่อหวังผลประโยชน์ หรือ ร้องขอเข้าร่วมกลุ่มใดใด แต่พวกเขากลับดึงดูดกลุ่มคนมากมายที่สนใจในตัวเขาเข้ามาทดแทน
.
ใช่แล้วที่รัก เมื่อเราแสดงความเป็นตัวของตัวเองไป อย่างไม่กลัว และ เคารพในความเป็นตัวเอง เคารพในสิ่งที่เราทำ เห็นคุณค่าในสิ่งที่เราให้คุณค่า เมื่อนั้นผู้คนอีกมากมายที่ให้คุณค่าในเรื่องเดียวกันกับเรา ก็จะได้มาเจอกันอย่างไม่บังเอิญ
กลุ่มคน และ ทุก ๆ ความสัมพันธ์ล้วนเป็นหน้าที่ของเราในการคัดกรอง และเลือกสรรให้เข้ามาอยู่ในชีวิตของเรา ไม่ใช่ทุกคนที่จะพอดีกับรูปแบบชีวิตของเรา กับสิ่งที่เราให้คุณค่า แต่เขากลับด้อยคุณค่า
.
สำหรับการอยู่ร่วมกันแล้ว เรายังคงต้องการการประสานกันทางความคิด ความรัก และพลังงานมากมายเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข หากผู้ใดมิอาจเดินบนเส้นทางเดียวกันกับเราได้ เราก็จำเป็นที่จะต้องปล่อยวาง
เราไม่สามารถสร้างโลกที่สวยงาม เพื่อตอบโจทย์มุมมองความชอบของผู้คนได้ทุกคน แต่สิ่งที่เราสามารถทำได้ หากอยากเป็นส่วนหนึ่งที่มอบสิ่งดี ๆ ให้กับโลกใบนี้ ก็จงเริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ เริ่มจากสิ่งที่อยู่ไม่ไกล
.
มันไม่บังเอิญที่เราได้มาเกิดมาเป็นเราในวันนี้ เป็นคนละแวกนี้ ในครอบครัวนี้ กลุ่มคนทำงาน กลุ่มเพื่อนแบบนี้ ทุกสิ่งจัดวางไว้เหมาะสมสำหรับการพัฒนาสำหรับตัวเราในทุกด้าน
หากเราเป็นตัวตนที่ใช่ ทำสิ่งที่ใช่ตามที่หัวใจบอก ทำทุกสิ่งในชีวิตด้วยความรักที่จะทำ ไปอย่างธรรมชาติ Go with the flow “ไม่ฝืน” กฎของธรรมชาติก็จะสะท้อนพลังงานเหล่านี้ ออกไปได้กว้างไกลมหาศาล
และแน่นอน จักรวาลจักนำพาสิ่งที่คู่ควรและเหมาะสมมาหาเราอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นผู้คน กลุ่มคน หรือสิ่งใดล้วน เป็นสิ่งที่ใช่ ไม่ต้องเป็นห่วง หากเราเริ่มต้นจากตัวเราที่ใช่เสียก่อน นั่นก็คือ ตัวตนที่เราไม่ปกปิดความจริงแท้
.
สิ่งสำคัญ คือการค่อย ๆ กระเทาะเปลือกที่เราหุ้มตัวเองไว้ภายใน หรือ กำแพงสูงที่อยู่ภายในใจลงให้ได้มากที่สุด โดยไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะมีใครชอบเราหรือไม่
เพียงเพื่อให้เราได้สัมผัสกับความจริงแท้ของตน ไม่ปฏิเสธความจริงแห่งตน และยอมรับในตนเองได้ นั่นคือ จุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยม
.
อาจมีทั้งด้านที่ชอบ และไม่ชอบในตนเอง นั่น “ไม่ใช่เรื่องที่ผิดแปลก” แต่อย่างใด เป็นเรื่องธรรมดาของโลกใบนี้ ที่ไม่มีใครจะดีพร้อม หรือแย่ไปเสียหมดทุกด้าน มนุษย์ทุกคนล้วนมีข้อดีแลข้อบกพร่องเป็นสัจธรรมธรรมดา
หากจะให้เรานิยาม ว่า ตัวตนที่ใช่ หรือ ตัวตนที่แท้จริง มีหน้าตาเป็นเช่นไร เราไม่สามารถอธิบายเป็นคำตอบเชิงประจักษ์ได้ แต่สิ่งที่อยู่ข้างในใจของเรานั้นเองต่างหาก ที่จะบอกเราว่าสิ่งไหนจริง สิ่งไหนใช่ เฉพาะสำหรับเรา
เพราะ สิ่งที่ใช่ สิ่งที่จริง สำหรับคนอื่น ๆ บางครั้งมันอาจ “มิใช่” สิ่งที่จริงและสิ่งใช่ สำหรับเราเสมอไปก็ย่อมเป็นได้
ยืดหยุ่นให้กับตนเองเข้าไว้ ไม่มีสิ่งใดคงรูปตายตัว หากรู้สึกว่านี่ไม่ใช่ตัวตนของเรา ก็ให้ค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ปล่อยให้ตัวเองได้ค่อย ๆ ค้นพบกับความจริงแท้ที่สวยงามในรูปแบบของตัวมันเองเถิด ไม่ต้องรีบร้อน
เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม กลุ่มคน ผู้คน และสถานการณ์ ทุก ๆ สิ่งที่ใช่จะค่อย ๆ เข้ามาทดแทนสิ่งที่เราได้สูญเสียไป นำพาเราไปยังจุดมุ่งหมายที่ใช่ในตัวมันเอง :)
.
ปล.ไม่ได้เขียนบทความเสียนาน^^” หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังต้องการข้อความนี้อยู่นะคะ ด้วยรัก 💛💞🌟
Alienaire 🕯️
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
