พรรคการเมือง เป็นเพียงสมมติบัญญัติทางนามธรรม ในความเป็นจริงไม่มีใครลบจิตวิญญาณของความเที่ยงธรรมไปได้
ผู้เขียนสนใจวลีหนึ่ง นั่นคือคำว่า "สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง" ผู้เขียนคิดว่ามันเป็นความจริง มันเกิดขึ้นในประเทศของเราแล้วครับตอนนี้ และมันตรงกับหลักโลกธรรมแปด ตรงกับหลักไตรลักษณ์ ตรงกับระบบสังสารวัฏ ตรงกับกลไกอิทัปปัจจยตาเสียด้วยซ้ำ ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงความเป็นจริงของระบบธรรมชาติและโลกใบนี้ได้
#การเมือง #โลกธรรม8
หลายครั้ง การให้คำนิยามและการตั้งกฎตั้งเกณฑ์ต่างๆของมนุษย์ ก็นำมาซึ่งความขัดแย้งกันโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การยึดถือโอนเอียงไปในสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นหลักเดียว มันนำมาซึ่งความหายนะมานักต่อนักแล้ว โดยเฉพาะการตั้งสมมติบัญญัติขึ้นมาให้สิ่งใดก็ตามเป็นที่แตะต้องไม่ได้ ใครมาแตะมาต้องจะต้องถูกกำจัดขัดขวางให้ราพณาสูรไป แบบนี้เป็นอวิชชาอย่างหนึ่ง หมายถึงความไม่รู้ที่นำไปสู่ทางเสื่อมถอยอุบาทว์
ส่วนใหญ่ การที่คนเรายึดถือโอนเอียงในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ก็ไม่ใช่เพื่ออะไร แต่เป็นไปเพื่อตัวเอง(อัตตา)ทั้งสิ้น เป็นไปเพื่อตอบสนองต่อรูปและนาม สนองต่อสฬายตนะผัสสะเวทนาตัณหาและอุปาทานของตัวเอง ไม่ได้เป็นไปเพื่อใครอื่นใด ถึงกระนั้น การยึดถือโอนเอียงไปในสิ่งที่ดีงามตามอรรถตามธรรม การยึดมั่นในอุดมการณ์ที่เที่ยงธรรม ก็ยังมีประโยชน์ต่อโลกมากกว่าการยึดมั่นในอุดมการณ์ที่ไม่เที่ยงธรรม
จริงอยู่ที่พระตถาคตทรงมุ่งเน้นให้มนุษย์เดินสวนกระแสโลกธรรมเพื่อที่จะได้หลุดพ้นจากระบบสมมติหรือความทุกข์ แต่พระตถาคตก็ยังทรงสนับสนุนให้มนุษย์ทั้งปุถุชนและอริยบุคคลอยู่ร่วมกันในระบบโลกธรรมได้อย่างเสมอเหมือนโดยไม่เบียดเบียนกัน หรือเป็นประโยชน์ต่อกันได้ก็ยิ่งดี เพราะการเดินไปตามกระแสมรรค สามารถดำเนินไปควบคู่กับกระแสโลกได้
การยึดถือกระทำในความเที่ยงธรรม แม้จะไม่ได้ช่วยให้หลุดพ้นจากระบบสมมติ แต่ก็ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยเอื้อช่วยเหลือให้คนสามารถพ้นไปจากระบบสมมติบัญญัติได้ เพราะจะเป็นเหตุปัจจัยให้สังคมเกิดความเท่าเทียม ลดการก่อกรรมทำเข็ญเพราะผู้คนสามารถเข้าถึงความสำเร็จในชีวิตได้ง่าย ลดความเหลื่อมล้ำ ทำให้คนเป็นโจรน้อยลง เมื่อไม่ต้องดิ้นรนไขว่คว้าอะไรด้วยความเหนื่อยยากจนเกินไป ก็ทำให้สามารถมองเห็นธรรมชาติรอบตัวได้มากขึ้น เพราะเข้าถึงความสุขทางโลกได้ง่าย จึงทำให้มองเห็นความเสื่อมถอยของความสุขนั้นได้ง่ายเช่นกัน
ภาษาพระเรียกว่า "ธุลีในตาเบาบางลง" ด้วยเหตุปัจจัยแห่งธรรมชาติ ทั้งนี้ ปรกติความสุขทางโลก ถ้ายิ่งเข้าถึงยากมากก็จะยิ่งทุกข์มากเสียจนจิตใจมืดบอด มืดบอดคือไม่สามารถใคร่ครวญธรรมจนเกิดดวงตาเห็นธรรมได้ ดังนั้นจึงควรมีชีวิตที่สามารถเข้าถึงความสุขทางโลกให้ง่าย ในขณะเดียวกันก็ต้องเข้าถึงความตั้งอยู่และค่อยๆจางคลายดับไปของความสุขนั้นๆ แต่เมื่อกลับมามองดูสภาพความเป็นจริงของประเทศไทยเรา การเข้าถึงความสุขทางโลกของประชาชนชั้นกลางถึงรากหญ้านั้นเริ่มยากขึ้นเรื่อยๆ ทุกวัน..
หากเป็นคนที่มีสติ ก็โชคดีไป เพราะสติที่เจริญแล้วจะนำให้คนนั้นใช้โอกาสที่โลกเสื่อมถอยนี้ในการประพฤติภาวนาเจริญในธรรมะได้ แต่น้อยคนนักที่จะมีสติเพียงพอถึงขั้นนั้น ส่วนใหญ่ร้อยละเกือบร้อย ก็ล้วนแล้วแต่ปรารถนาแต่ความสุขทางโลกทั้งหลายทั้งปวงกันแทบทุกคน ถ้าไม่ใช่พระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ยังไงๆก็หนีไม่พ้นความปรารถนาในโลกธรรมด้านบวกกันทั้งนั้น หรือคุณจะเถียง?
แต่คำว่า “What happened that is always good” หรือ "ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วย่อมดีเสมอ" ก็ยังคงใช้ได้จริงไม่ว่ายุคสมัยไหน เราสามารถสังเกตได้ชัดเจนถึงปฏิกิริยาของนานาอารยประเทศที่มีต่อเหตุการอันไม่เที่ยงธรรม คือการยุบพรรคการเมืองที่ชนะการเลือกตั้ง (ที่โดนกลั่นแกล้งสารพัดจากผู้มีธุลีในตามาก ไม่ให้ได้รับความเป็นธรรม) แรงกระเพื่อมจากความโง่เขลาของบรรดาผู้มีอำนาจครั้งนี้ ส่งผลกระทบอันใหญ่หลวง สะเทือนไปยังอารยประเทศที่ไม่อาจยอมรับในการตัดสินที่อยุติธรรม ไม่แน่ว่า คนโง่พวกนั้นอาจจะเริ่มสงสัยกันแล้วว่า
"หรือนี่จะเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดของพวกเรา เอ.. ไม่หรอกมั้ง มันน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เราคิดมาแล้วต่างหากเล่า?"
แม้นี่จะเป็นเพียงการคาดเดาของผู้เขียน แต่มันก็มีความเป็นไปได้สูง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทุกวันนี้เราจะเห็นได้เลยว่าประเทศไทยพึ่งพานานาอารยประเทศเพื่อให้ไทยมีสภาพคล่องทางเศรษฐกิจและการถูกยอมรับจากนานาอารยประเทศ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าไทย จะกำลังอยากสลัดทิ้งไมตรีจิตเหล่านั้น โดยการแสดงให้นานาอารยประเทศเห็นว่า "ประเทศไทยไม่มีพรหมวิหารธรรม" หรืออีกนัยหนึ่งคือ "อภิสิทธิ์ชนโง่เขลาเกินกว่าที่จะรู้เท่าทันว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่แล้วคิดว่าดีเยี่ยมนั้น จะก่อเกิดหายนะให้ย้อนกลับมาเข้าตัวอย่างมหันต์"
การสำแดงให้โลกามหาชนเห็นว่า "ดินแดนของเราผิดศีลข้อ4โดยการหลอกลวงประชาคมโลกว่าเป็นแดนประชาธิปไตยมาโดยตลอด" จึงเป็นสิ่งที่ดีแล้ว ตามภาษิตที่ว่า “What happened that is always good” เพราะแรงกระเพื่อมที่ตีกลับมายังกลุ่มผู้มีอำนาจแต่โง่เขลาเบาสติ นั้นมีอำนาจรุนแรงเกินกว่าที่พวกเขาจะจินตนาการไปถึง
หลังจากนี้ประเทศไทยจะเข้าสู่สมรภูมิแห่งการเปลี่ยนแปลงอย่างถาวร ความไว้เนื้อเชื่อใจในระบบตุลาการจะมีเหลืออยู่เพียงแต่กับคนที่ยังไม่ตื่นรู้เท่านั้น แต่มวลมหาประชาชนที่ตื่นรู้ซึ่งมีจำนวนมากกว่า จะไม่มีวันหันหลังหนีความเปลี่ยนแปลงอีกแล้ว มีแต่จะยอมรับและเดินตามสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง ที่พัดมารุนแรงเกินกว่าที่ใครจะต้านทานได้อีกแล้ว
ช้างใหญ่ เมื่อมันพลาดพลั้งเดินสะดุดล้ม กลิ้งตกเหวลึกแล้ว ร่างที่ใหญ่โตและหนักมากของมัน จะโหม่งพื้นโลกแรงมาก ทำให้สภาพศพของช้างใหญ่นั้นแหลกเหลวไม่มีชิ้นดี เหมือนถุงแกงตกตึก ฉันใดก็ฉันเดียวกับสภาพของผู้มีอำนาจที่แสนโง่งมทั้งหลาย ที่กำลังจะเข้าถึงความวินาศสันตะโรในอีกไม่นานนี้ เพราะ "กฎแห่งกรรม ยุติธรรมเสมอ"
แอดมินนาโครัตนะ แห่งเพจเฟ๊ซบุ๊คธรรมะแฟนตาซี
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
