การเมืองประเทศเรามันมีปัญหาเยอะมาก
ทั้งหมดล้วนเกิดมาจากพฤติกรรมของความหย่อนยานของนักการเมืองทั้งสิ้น ที่ไม่ได้ตั้งใจเข้ามาแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน แต่ตั้งใจเข้ามาแสวงหาแต่อำนาจของพวกพ้องตนเอง
เช่น การประชุมวุฒิสภาในหัวข้อการเลือกตัวแทน กธม. เพื่อสรรหา ออส .
ผลก็คือ มีแต่ สว.สายสีน้ำเงินที่ถูกเสนอชื่อขึ้นมาบังคับให้สมาชิก สว.ในที่ประชุมต้องเลือกเอา 15 คน จาก สว.สายสีน้ำเงิน 30 คน โดยไม่เปิดโอกาสสรรหาสมาชิก สว.ที่มีความรู้ความสามารถจริงๆ ในแต่ละสายอาชีพ ให้มีโอกาสไปทำงานในหน้าที่ตรงนี้ มันก็เป็นไปตามที่ผมได้เขียนวิเคราะห์เอาไว้ทั้งหมดว่า นี่คือขบวนการที่เลวร้ายที่สุดของวุฒิสภาที่มาจากใบสั่งของพรรคภูมิใจไทย ที่ในอนาคต ทักษิณ จะต้อง เรียกใช้บริการ สว .กลุ่มพวกนี้ เพื่อประโยชน์ทางการเมืองของตนเอง
ส่วนคดียุบพรรคก้าวไกล ก็ไม่ได้เกินความคาดหมายอยู่แล้ว เพราะมีพฤติกรรมชัดเจนที่จะทำผิดกฏหมายรัฐธรรมนูญตั้งแต่แรก และพรรคก็ไม่ได้มีเป้าหมายเข้ามาเล่นการเมืองในเรื่องแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชนตั้งแต่แรก แต่มีเป้าหมายแค่เพียงต้องการลดทอนอำนาจของพระมหากษัตริย์ลงเท่านั้น
ส่วนปัญหาใหญ่ที่นักการเมืองในประเทศชาติ โดยเฉพาะ ครม.ชุดนี้ บริหารประเทศแค่ 6 เดือน ทำให้ไทยต้องขาดดุลการค้าให้กับจีนมากถึงกว่า 6.7แสนล้านบาท และทำให้โรงงานต่างๆภายในประเทศต้องปิดตัวลงมากถึงเดือนละ 111 โรงงาน จากการปล่อยปะละเลยให้สินค้าจีนคุณภาพต่ำ ทะลักเข้ามาเต็มแผ่นดินไทย และรัฐต้องมาสูญเสียรายได้ทางภาษีมากถึงกว่า 4.67 หมื่นล้านบาท จากเวปเถื่อนของประเทศจีน ที่นำสินค้าจีนมาขายโดยไม่มีการเสียภาษีให้กับรัฐ
ส่วนเรื่องใหญ่มากที่สุดที่รัฐบาลจะต้องเร่งจัดการกรวดล้างให้สิ้นซ่กทั้งหมดอย่างเร่งด่วนก็คือ กลุ่มแกนนำชาวเมียนมาร์ ที่บังอาจยื่นข้อเสนอเรียกร้องสิทธิความเท่าเทียมกันของพลเมืองในประเทศไทย โดยใช้ข้ออ้างว่า หากไทยขาดแรงงานชาวเมียนมาร์แล้ว จะทำให้เศรษฐกิจของไทยเดินหน้าไม่ได้ แถมยังอ้างสิทธิ์ให้ประเทศไทยยอมรับนักการเมืองที่ลี้ภัยทางการเมืองให้พวกตนอีก แถมยังขอให้พวกตนสามารถสร้างกองทุนในประเทศไทย เพื่อนำไปใช้สนับสนุนพรรคการเมืองในประเทศของตนเองได้ด้วย
สรุปก็คือขอเรียกร้องทั้ง 10 ข้อ ก็คือ ต้องการใช้ประเทศไทยให้รองรับเป็นฐานการต่อสู้ทางการเมืองของประเทศเมียนมาร์ และให้สิทธิเสรีภาพแรงงานเมียนมาร์ โดยใช้บัตรแรงงานใบเดียว ให้มีสิทธิและสรีภาพทัดเทียมคนไทยทุกอย่างและให้แรงงานเมียนมาร์ทุกคนสามารถอาศัยอยู่ในประเทศไทยไปตลอดชีวิต และออกลูกออกหลานได้เต็มประเทศไทยอย่างเสรี แถมรัฐบาลไทยต้องให้ความเท่าเทียมกันกับคนไทยในเรื่องการศึกษาด้วย
แกนนำแรงงานชาวเมียนมาร์ ยังเคยชูสัญลักษณ์สามนิ้ว ที่ส่งไปถึงสถาบันของไทยอย่างไม่เกรงกลัวอะไรเลย เพราะมั่นใจว่า พรรคสีส้มคงจะได้จัดตั้งรัฐบาลในตอนนั้น และเจ้าของบริษัทใหญ่ๆที่รับแรงงานชาวเมียนมาร์จำนวนมากเข้ามาทำงาน ก็ล้วนสนับสนุนแนวคิดของพรรคสีส้ม ที่รัฐบาลในปัจจุบันต้องกรวดล้างบริษัทเหล่านี้ให้หมดไปจากประเทศไทยด้วย
ผมเคยเขียนคำทำนายเอาไว้เมื่อต้นปีที่แล้วว่า ประเทศเมียนมาร์จะต้องแตกออกเป็นเสี่ยงๆในอนาคตไม่นาน แม้กลุ่มชาติพันธุ์จะสามารถยึดอำนาจจาก หมิน อ่อง หล่าย ได้ก็ตาม แต่ความขัดแย้ง ที่จะแย่งกันขึ้นมามีอำนาจในประเทศของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ จะคร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ไปอีกจำนวนมากในประเทศ ไปอีกหลายสิบปี และภายในเดือนหน้ากรมแรงงานก็แจ้งว่า อาจจะมีแรงงานชาวเมียนมาร์ทะลักเข้ามาในประเทศไทยมากถึงกว่า 2 ล้านคน
นี่คือปัญหาใหญ่ที่รัฐบาลไทยจะต้องรีบผลักดันแรงงานเมียนมาร์กลุ่มเรียกร้องเหล่านี้ที้งหมด กลับคืนสู่ประเทศเมียนมาร์โดยเร็ว ให้รับแต่แรงงานเมียนมาร์ที่เข้ามาอย่างถูกต้องตามกฏหมายเท่านัน รัฐต้องผลักดันแรงงานเถื่อนชาวเมียนมาร์ทั้งหมด ให้ออกไปพ้นราชอาณาจักรไทยในทันที และต้องจัดการลงโทษให้หนัก ต่อบริษัทหรือโรงงานต่างๆที่ลักลอบนำแรงงานเถื่อนชาวเมียนมาร์เข้ามาทำงานในประเทศอย่างผิดกฏหมาย
ควรเริ่มจากจังหวัดระนองก่อนเลย ที่ตอนนี้แรงงานเถื่อนชาวเมียนมาร์จำนวนมากมายมหาศาล ได้ยึดจังหวัดนี้ไปเรียบร้อยแล้ว และรัฐต้องเร่งจัดการแรงงานเถื่อนพวกนี้ให้คลอบคลุมทั่วประเทศโดยเร็ว
อย่าให้กลุ่มคนพวกนี้มาใช้ประเทศไทย เป็นฐานอำนาจใช้ต่อสู้ทางการเมืองของพวกเขาโดยเด็ดขาด เพราะในอนาคตไม่รู้ว่า ประเทศเมียนมาร์ที่จะต้องแตกออกเป็นเสี่ยงๆนั้น ยังจะคงมีสถานะเป็นพันธรัฐเมียนมาร์อยู่หรือไม่.
เดชา นฤนารท .
8/8/67 18.34 น.
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
