5 ประเด็น BCPG ที่ผมอยากบอก (หลังจากอ่านงบ Q2)
.
3
1. กำไร 1200 ล้านบาท โต 6 เท่า!!! “แต่ผมว่างบไม่ดี”
.
กำไรพิเศษจากการขายโซล่าฟาร์มที่ญี่ปุ่นก็ 2200 ล้านบาทแล้วครับ แถมยังมีกำไรพิเศษอื่นอีก 300 รวมแล้วกำไรพิเศษที่ไหลเข้ามาที่รายได้ 2500 ล้านบาท ใช่ครับ!!! … คุณคงกำลังสงสัยใช่มั้ยครับ ว่ากำไรมันหายไปไหน ? ทำไมเหลือแค่ 1200 ?
.
อย่างแรกเลย ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 1000 ล้านบาท! ส่วนใหญ่เป็นรายจ่ายพิเศษที่เกิดจากการตัดจำหน่ายอุปกรณ์เก่า ขาดทุนจากการด้อยค่าโครงการเก่าที่ไต้หวัน และการด้อยค่าของหุ้นกู้… จัดเต็ม เหมือนเห็นว่ามีกำไรพิเศษเข้ามา รายจ่ายพิเศษอะไรที่เคยชะลอไว้ก็เลยดึงเข้ามาหมด เพราะถ้าไปลงรายจ่ายพิเศษที่ไตรมาสอื่น น่าจะทำให้ BCPG ถึงกับขาดทุนได้เลย
.
นอกจากนั้น ยังโดนดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นและภาษีไปอีก ทำให้กำไรบริษัทเหลือ 1200 ล้านบาท มากกว่าปีที่แล้วแค่ 1000 ล้านบาทเท่านั้น เรียกได้ว่ากำไรโต 6 เท่าแต่งบดูไม่ดีเลยครับ
.
2. โซล่าฟาร์มที่ญี่ปุ่นขายได้ราคาไม่เลวเลย
.
บริษัทขายไปที่ราคา 10,377 ล้านบาท ตกประมาณ 90 ล้านบาทต่อ MW มีหลายคนบอกว่าขายราคาไม่ดี แต่ผมว่าราคาดีนะ
.
อันนี้นานาจิตตังจริงๆ ครับ ราคาขายดีไม่ดี คนมีความเห็นต่างกันก็ไม่แปลก แต่ถ้าลองมองมาที่ตัวเลขจะเห็นครับว่ามันไม่ได้แย่ เงินลงทุนในการสร้างโซล่าฟาร์มใหม่ที่ญี่ปุ่นในปัจจุบันตกประมาณ 50 ล้านบาทต่อ MW ในขณะที่ BCPG ขายไปในราคา 90 ล้านบาท ลูกค้าน่าจะยอมซื้อเพราะไม่อยากเสียเวลาสร้างโครงการใหม่ (แถมยังต้องหาดิลค่าไฟฟ้าดีๆ อีก) สู้ซื้อเอาเลย ได้โครงการที่สร้างเงินได้ทันทีพร้อมสัญญาซื้อไฟฟ้าจากรัฐบาลญี่ปุ่น
.
สำหรับประเด็นนี้ ผมว่า Win-Win ครับ ทั้งคนซื้อคนขาย
.
3. เงินสดทะลัก กระสุนเต็มแม็ก
.
ตอนนี้บริษัทมีเงินสด 13,000 ล้านบาท แถมยังมีหนี้น้อย (แปลได้ว่าถ้าอยากใช้เงินเกิน 13,000 ก็ย่อมได้)
.
ยิ่งไปกว่านั้น ธุรกิจโรงไฟฟ้าของ BCPG เป็นธุรกิจที่ได้เงินสดดีมาก ได้เงินสดเยอะกว่ากำไรตลอด เงินสดไหลเข้าบริษัทปีละ 3000 ล้านบาทจากการดำเนินงาน
.
บริษัทมีเงินสดตอนนี้ ผมต้องขอบอกว่า “Timing ดีมาก” เศรษฐกิจโลกกำลังง่อนแง่น มีหลายบริษัทกำลังขาดสภาพคล่อง สถานการณ์แบบนี้คนมีเงินสดได้เปรียบครับ
.
รอดูได้เลยครับ ขึ้นอยู่กับแค่เวลา ว่า BCPG จะได้โครงการใหม่เมื่อไหร่
.
4. ใครที่กลัว Adder ผมอยากบอกว่า BCPG เลือดไหลจนหมดตัวแล้วครับ
.
สังเกตมั้ยครับ BCPG กำไรไม่ไปไหนเลยมาหลายปีแล้ว หนึ่งในสาเหตุสำคัญก็คือ Adder ในไทยที่ทยอยหมดลง ทำให้โครงการใหม่ที่ BCPG ซื้อเข้ามา ทำได้แค่อุดรอยรั่วที่เกิดจาก Adder ที่หมดไป จนกำไรไม่เติบโต (บางปีลดลงด้วย)
.
แต่ตอนนี้ Adder หมดเรียบร้อยไปแล้วครับ! หลังจากนี้ BCPG จะไม่ได้รับผลจาก Adder อีกแล้ว ถ้าได้ COD โครงการใหม่ น่าจะเป็นกำไรส่วนเพิ่มได้
.
5. ปฐมบทของจุดกลับตัว
.
ณ เวลานี้ BCPG เงินสดล้นมือ และ Adder หมดแล้ว แถมยังมีโครงการใหญ่ที่ลาวและไต้หวันรอ COD ปี 2026 ที่ได้สัญญาครบแล้ว เหลือแค่สร้างให้เสร็จ ก็จะเริ่มธุรกิจได้ (ผมคิดคร่าวๆ รายได้รวมสองโครงการน่าจะประมาณ 2000 ล้านบาท คิดเป็น +40% ของรายได้ปัจจุบันของ BCPG) ถ้าใครเป็นแฟน BCPG และรอการกลับตัว ผมว่าเวลาของคุณใกล้จะมาถึงแล้วครับ
.
แถมราคาหุ้นปัจจุบันก็ลงมาจนอยู่ในระดับวิกฤต P/BV 0.5 เรียกได้ว่าลงมารุนแรงเหมือนบริษัทจะเจ๊ง… หลายคนบอกผมว่า ดอกเบี้ยขึ้น หุ้นปันผลมันก็ต้องราคาลงมาแบบนี้แหละ มุมมองนี้ผมเห็นด้วยครับถ้ามองว่าเราจะลงทุนหุ้นแค่เดือนเดียว แต่ถ้ามองจากการลงทุนระยะยาว ยังไงดอกเบี้ยก็ต้องลงมา ราคาหุ้นที่ครึ่งเดียวของมูลค่าทางบัญชี อาจจะเป็นโอกาสครับ
.
อันนี้ต้องขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคนแล้ว ถ้าใครที่อยากลงทุนในหุ้นโครงสร้างพื้นฐาน และเชื่อว่า BCPG จะสามารถ COD โครงการที่ลาว/ไต้หวัน ได้ตามแผน พร้อมทั้งเอาเงินสดที่มีไปลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผมว่าราคาหุ้นในปัจจุบัน น่าพิจารณาครับ
.
แต่ถ้าใครไม่ชอบถือยาว หรือยังไม่ชัวว่า BCPG จะสามารถทำกำไรได้ยังไง ผมแนะนำให้ข้ามไปก่อนครับ เพราะหุ้นตัวนี้ก็มีความเสี่ยงอยู่เหมือนกัน เช่นพัฒนาโครงการไม่สำเร็จจนขาดทุน หรือรัฐบาลถังแตกจนไม่สามารถจ่ายค่าไฟฟ้าให้บริษัทได้ แถมยังดูเป็นหุ้นที่น่าเบื่อ ไม่รู้ตลาดจะหันมาให้ราคาเมื่อไหร่
.
.
.
1
แล้วคุณแหละ มองว่า BCPG ตอนนี้เป็นโอกาสหรือเปล่า ? ลองแชร์ไอเดียให้ฟังในคอมเม้นหน่อยนะครับ หรือใครติดดอย BCPG อยากระบายในคอมเม้นก็ไม่ว่ากันครับ 🙂
.
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคุณนะครับ
#Salarymanติดปีก #มาลงทุนหุ้นแข็งแกร่งกันครับ
▃▃▃▃▃▃▃▃
หากคุณเป็นนักลงทุน ที่ทำควบคู่งานประจำ
หรือชอบเนื้อหาของ Salaryman ติดปีก
ฝากกดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม
เพื่อเป็นกำลังใจให้กับเรา
และจะได้ไม่พลาดเนื้อหาใหม่ๆ ของเรา ด้วยนะครับ
▃▃▃▃▃▃▃▃
โฆษณา