เมื่อวาน เวลา 12:00 • ประวัติศาสตร์
Rimping Supermarket NimCity Branch

ย้อนรอยประวัติศาสตร์ “Trick or Treat” กิจกรรมยอดนิยมที่ขาดไม่ได้ในเทศกาลฮาโลวีน

เมื่อใบไม้เปลี่ยนเป็นสีทองและกลางคืนยาวนานขึ้น นั่นเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเทศกาลแห่งความสนุกสุดหลอนอย่างวันฮาโลวีน (Halloween) กำลังจะกลับมาอีกครั้ง โดยเหล่าผีและปีศาจหลากหลายจะโผล่ออกมาจากเงามืดท่ามกลางกลิ่นหอมหวานของลูกกวาดที่ตลบอบอวล ในกิจกรรมสำคัญของเทศกาลฮาโลวีนอย่าง Trick or Treat
.
ในเทศกาลฮาโลวีน Trick or Treat เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ขาดไม่ได้ เพราะกิจกรรมนี้คือการมอบความสนุกให้กับเด็ก ๆ ในค่ำคืนสุดหลอน โดยเด็ก ๆ จะแต่งกายเป็นภูตผี แล้วออกไปเคาะประตูตามบ้านเพื่อขอขนม ดังนั้นในช่วงค่ำคืนวันฮาโลวีนผู้ใหญ่ก็จะซื้อขนมเตรียมไว้ให้กับเด็ก ๆ นั่นเอง
.
แต่ก่อนจะเกิดกิจกรรม Trick or Treat แน่นอนว่าจะต้องมีเทศกาลฮาโลวีนเกิดขึ้นมาก่อน โดยกล่าวกันว่าเทศกาลฮาโลวีนนั้นมีต้นกำเนิดมาจากประเพณีของชาวเคลต์(Celt) ชนเผ่าพื้นเมืองกลุ่มหนึ่งของประเทศไอร์แลนด์
ชาวเคลต์เชื่อว่าวันที่ 31 ตุลาคมเป็นวันที่ประตูมิติของคนตายและคนเป็นถูกเชื่อมเข้าด้วยกัน โดยวิญญาณของคนตายจะหาร่างสิงสู่เพื่อฟื้นคืนชีพอีกครั้ง พวกเขาจึงต้องแก้เคล็ดโดยการปิดไฟทุกดวงในบ้าน ไม่จุดเตาผิง ทำให้อากาศหนาว เพื่อไม่ให้เป็นที่ต้องการของวิญญาน รวมไปถึงต้องแต่งตัวเลียนแบบภูตผีปีศาจ เพื่อทำให้ผีร้ายคิดว่าเป็นพวกเดียวกันอีกด้วย ด้วยเหตุนี้เองเทศกาลฮาโลวีนจึงถือกำเนิดขึ้น ซึ่งในช่วงแรกนี้ยังไม่ถือเป็นเทศกาลรื่นเริง
.
หลังจากประเพณีนี้เกิดขึ้นไม่นานก็ได้รับความนิยมในหลายประเทศ โดยในช่วงแรกนี้นิยมจัดในหมู่เกาะบริเตน เช่น อังกฤษ สกอตแลนด์ รวมไปถึงประเทศรอบข้างเพียงเท่านั้น แต่เมื่อเวลาผ่านไป ชาวไอริชและชาวสกอตที่อพยพถิ่นฐานไปยังประเทศอื่น ๆ เช่น สหรัฐอเมริกา ในช่วงปี 1840 ก็ได้นำเอาประเพณีนี้ไปปฏิบัติด้วย ส่งผลให้ประเพณีนี้กลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติในสหรัฐอเมริกาติดต่อกันมาตั้งแต่กลางศตวรรษที่ 19
.
กิจกรรมที่ได้รับความนิยมในเทศกาลฮาโลวีน นอกจากจะแต่งกายเลียนแบบภูตผีปีศาจแล้ว ยังมีกิจกรรม Trick or Treat ให้เหล่าเด็ก ๆ ได้ร่วมสนุกกันอีกด้วย โดยกิจกรรมนี้เกิดขึ้นราวศตวรรษที่ 9 ซึ่งเป็นการเดินขอขนม “Soul Cake” หรือ เค้กสำหรับวิญญาณจากคนในหมู่บ้าน เนื่องจากเชื่อกันว่ายิ่งให้ขนมเค้กมากเท่าใดวิญญานบรรพบุรุษของผู้บริจาคก็จะได้รับผลบุญมากขึ้นเท่านั้น แต่ปัจจุบันได้เปลี่ยนมาเป็นขนมที่เด็ก ๆ ชื่นชอบอย่างเช่น ช็อกโกแลต คุกกี้ เยลลี่ และลูกกวาด
.
วิธีการเล่น Trick or Treat
การเล่น Trick or Treat เด็ก ๆ จะแต่งตัวเป็นภูตผีหรือปีศาจที่ชอบ แล้วเดินไปเคาะตามประตูบ้าน พร้อมพูดคำว่า “Trick or Treat” ถ้าหากเจ้าของบ้านตอบกลับมาว่า “Treat” แปลว่า พวกเขานั้นยอมแพ้ และจะมอบขนมหวานให้ ถ้าหากเจ้าของบ้านตอบกลับมาว่า “Trick” แปลว่า จะต้องหลอกพวกเขาด้วยการแลบลิ้นปลิ้นตาจนพวกเขากลัวและยอมมอบขนมหวานให้
โฆษณา