8 ชั่วโมงที่แล้ว • ประวัติศาสตร์
Rimping Supermarket NimCity Branch

ย้อนรอยประวัติ Panettone ขนมประจำเทศกาลคริสต์มาส

“คริสต์มาสจะไม่สมบูรณ์หากไม่มี Panettone” คำกล่าวนี้อาจจะไม่เกินจริงหากคุณได้รู้จักประวัติอันหวานหอมของ Panettone ขนมปังสุดคลาสสิกที่จะขาดไม่ได้เลยบนโต๊ะบนอาหารค่ำวันคริสต์มาส เมื่อถึงเวลารับประทานอาหารการเสิร์ฟ Panettone ภายใต้แสงเทียน ช่างให้บรรยากาศที่อบอุ่นจนเกินบรรยายจริง ๆ ค่ะ
Panettone (ปาเน็ตโตเน) เป็นขนมปังหวานที่ทำจากแป้งนุ่มฟูที่สอดไส้ผลไม้หวานและลูกเกด จากนั้นจะนำไปอบเป็นรูปทรงกระบอกสูงคล้ายโดม และมักโรยด้วยน้ำตาลไอซิ่งก่อนเสิร์ฟ ซึ่งหนึ่งในคุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุดของ Panettone คือรสชาติที่เข้มข้นและซับซ้อน การผสมผสานระหว่างผลไม้รสหวานและเครื่องเทศที่มีกลิ่นหอม ทำให้ Panettone มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์
Panettone มีประวัติศาสตร์อันยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 ในเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ประวัติของขนมชนิดนี้มีตำนานเล่าขานกันอยู่หลายเรื่อง บ้างก็ว่าถูกพัฒนามาจากขนมหวานดั้งเดิมของชาวโรมันที่ทำจากแป้งโด และน้ำผึ้ง บ้างก็ว่าเกิดจากพ่อครัวหนุ่มที่ชื่อ Toni นำเสนอขนมปังบริยอชที่อัดแน่นไปด้วยลูกเกด และผลไม้หวานให้กับท่านดยุคผู้ปกครองแห่งเมืองมิลาน แล้วตั้งชื่อว่า “Pane di Toni” ซึ่งแปลว่าขนมปังของ Toni ค่ะ
ตำนาน Panettone ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ยังมีอีกเรื่องเล่าที่น่าดึงดูดใจอย่างหนึ่ง คือครูฝึกนกเหยี่ยวชาวมิลานผู้มั่งคั่ง ได้ตกหลุมรัก Adalgisa ลูกสาวของคนทำขนมปังในเมืองมิลาน เขารู้สึกเจ็บปวดที่เห็นคนที่เขารักทำงานหนัก เพราะร้านเบเกอรี่กำลังประสบปัญหา เขาจึงสวมรอยเป็นชาวนา และเสนอตัวทำงานที่ร้านฟรี เพื่อที่หญิงสาวจะได้ไม่ต้องทำงานหนัก
ในเวลาต่อมาเขามีความคิดที่จะส่งเสริมธุรกิจที่ร้านเบเกอรี่ เพื่อสร้างความประทับใจให้กับ Adalgisa จึงคิดค้นขนมปังชนิดใหม่ขึ้นมา โดยการเพิ่มคุณค่าของขนมปังด้วยเนย น้ำตาล และไข่ ซึ่งเป็นของหรูหราในมิลานสมัยศตวรรษที่ 15
เขาได้ขายนกบางส่วนของเขา เพื่อซื้อวัตถุดิบ แล้วนำมาทำเป็นขนมปังคล้ายเค้กที่มีรูปทรงคล้ายโดมขนาดใหญ่สอดไส้ด้วยลูกเกด และส้มเชื่อม จนขนมปังประสบความสำเร็จอย่างมาก Adalgisa หลงใหลในการทำอาหารของเขา จนท้ายที่สุดทั้งคู่ก็ได้แต่งงานกัน และตั้งชื่อขนมปังชนิดนี้ว่า Pan del Ton ตามชื่อของ Toni พ่อของ Adalgisa ค่ะ
ถึงแม้เรื่องราวต่าง ๆ ที่เล่าสู่กันมาจากรุ่นสู่รุ่น อาจจะไม่มีที่มาแน่ชัดว่าแท้จริงแล้วขนมปังชนิดนี้มีต้นกำเนิดมาจากที่ใดกันแน่ ถ้าหากเราไปถามผู้สูงอายุชาวอาอิตาลี ก็อาจจะได้คำตอบที่ไม่เหมือนกัน แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไปขนมปังชนิดนี้ก็ได้รับความนิยมอย่างมากในมิลาน และผู้คนก็เริ่มเรียกขนมปังชนิดนี้ว่า Panettone เพราะว่าขนมปังมีชิ้นใหญ่ เนื่องจาก Panettone แปลคร่าว ๆ ว่าเค้กก้อนใหญ่มาจากภาษาอิตาลีค่ะ
หลายร้อยปีต่อมา Panettone ก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น โดยหลังจากสงครามโลกครั้ง 2 สิ้นสุดลง Panettone ก็มีราคาถูกลง และมีเพียงพอต่อความต้องการ ผู้คนต่างชื่นชอบขนมชนิดนี้กันเป็นอย่างมาก และมีความสุขทุกครั้งที่ได้ทานในวันคริสต์มาสไปพร้อมกับการดื่มโกโก้ร้อน หรือไวน์ร้อน และในไม่ช้า Panettone ก็กลายเป็นขนมคริสต์มาสชั้นนำของประเทศ จนปัจจุบันการทาน Panettone ในวันคริสต์มาส จึงกลายประเพณีหลักในอิตาลี และหลายประเทศทั่วโลกไปแล้ว
โฆษณา