20 ธ.ค. เวลา 12:00 • ประวัติศาสตร์
Rimping Supermarket NimCity Branch

Christmas Pudding (คริสต์มาสพุดดิ้ง) เป็นสัญลักษณ์แห่งความอบอุ่นในครอบครัว

“Jingle bells, jingle bells, Jingle all the way” เป็นเพลงที่ได้ฟังกี่ครั้งก็ชวนให้นึกเทศกาลแห่งความสุขอย่างเทศกาลคริสต์มาสขึ้นมาทันที เมื่อเพลงนี้เริ่มต้นขึ้น หลายครอบครัวก็จะเริ่มเตรียมตัวสำหรับเทศกาลกันแล้ว ทั้งตกแต่งต้นคริสต์มาส บ้านเรือน หรือเตรียมวัตถุดิบสำหรับทำอาหาร ซึ่งหนึ่งในเมนูอาหารค่ำที่ครอบครัวชาวยุโรปมักจะนิยมทำด้วยกันเป็นประเพณีในวันคริสต์มาส นั่นก็คือ Christmas Pudding ค่ะ
Christmas Pudding (คริสต์มาสพุดดิ้ง) เป็นสัญลักษณ์แห่งความอบอุ่นในครอบครัว ซึ่งแต่ละบ้านก็จะมีสูตรเฉพาะที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองสืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งความพิเศษของการทำคริสต์มาสพุดดิ้งนั้น แตกต่างจากการทำอาหารเมนูอื่น ๆ เพราะมีธรรมเนียมที่ว่า สมาชิกทุกคนในครอบครัวจะต้องมาช่วยกันคนส่วนผสม และระหว่างคนก็สามารถอธิษฐานขอพรได้ 1 ข้อ แล้วจะสมหวัง โดยจะต้องผลัดกันคนส่วนผสมด้วยช้อนไม้จากทิศตะวันออกไปทิศตะวันตก
History of Christmas
Christmas Pudding มีรากฐานมาจากการทำ Porridge ในศตวรรษที่ 14 ซึ่งมีลักษณะคล้ายการทำโจ๊กในบ้านเรา เรียกว่า “frumenty” ทำจากเนื้อวัว เนื้อแกะ ลูกเกด ลูกพรุน ไวน์ และเครื่องเทศ ต่อมาในช่วงศตวรรษที่ 17 มีการเปลี่ยนแปลงสูตรอาหารจาก frumenty ให้กลายเป็นพุดดิ้ง ซึ่งทำให้ข้นด้วยการเติมไข่ เกล็ดขนมปัง ผลไม้แห้ง และเบียร์หรือสุราที่เพิ่มเข้ามา
จึงทำให้พุดดิ้งมีรสชาติหวานขึ้นเล็กน้อย โดยพุดดิ้งชนิดนี้มีเนื้อค่อนข้างหนัก เพราะมีส่วนผสมหลักเป็นผลไม้แห้ง สีจะออกคล้ำถึงดำ เนื่องจากใช้น้ำตาลทรายแดง และน้ำเชื่อมที่มีสีดำเป็นส่วนผสม เรียกว่า พุดดิ้งพลัม (Plum pudding) ซึ่งก็คือพุดดิ้งคริสต์มาสแบบดั้งเดิมที่เราเห็นกันในปัจจุบันนั่นเองค่ะ
ตามความเชื่อเกี่ยวกับศาสนาของชาวอังกฤษในยุคกลาง มีการกล่าวว่าควรทำพุดดิ้งคริสต์มาสด้วยส่วนผสม 13 อย่าง คือ ลูกเกด ผลไม้แห้ง ไขมันดิบของเนื้อวัวหรือเนื้อแกะ น้ำตาลทรายแดง เกล็ดขนมปัง มะนาว ผิวมะนาว ผิวส้ม แป้ง เครื่องเทศผสม ไข่ นม และบรั่นดี ซึ่งบรั่นดีจะนิยมราดลงไปบนพุดดิ้งแล้วจุดไฟ เป็นการเรียกเสียงปรบมือต้อนรับขนมพิเศษของคนในครอบครัว โดยว่ากันว่าบรั่นดีที่ลุกเป็นไฟเป็นตัวแทนของความรักของพระคริสต์ค่ะ
อีกหนึ่งความเชื่อเกี่ยวกับการทำพุดดิ้งคริสต์มาสก็คือประเพณีการนำเงินเหรียญ 6 เพนนีลงไปอบกับส่วนผสมด้วย ระหว่างที่ตัดแบ่งกัน หากใครได้ส่วนที่มีเหรียญก็จะถือว่าเป็นผู้โชคดี และเชื่อว่าจะเจอแต่สิ่งดีงามตลอดปีที่กำลังจะมาถึง
How to make Christmas pudding
วัตถุดิบ
ผลไม้แห้งรวม 450 กรัม, เปลือกผลไม้รวมสับละเอียด 25 กรัม, แอปเปิ้ลสับละเอียด 1 ลูก, ผิวส้ม 1 ช้อนโต๊ะ, ผิวเลมอน 1/2 ช้อนโต๊ะ, น้ำส้มคั้นสด 2 ช้อนโต๊ะ, น้ำมะนาวสด 1 ช้อนโต๊ะ, บรั่นดี 1/4 ถ้วย (หรือเติมเพิ่มได้ตามความต้องการ), แป้งสาลี 55 กรัม, เครื่องเทศผสมบด 1 ช้อนชา, อบเชยป่น 1/2 ช้อนชา, เนื้อวัวหรือเนื้อมังสวิรัติบด 110 กรัม, น้ำตาลทรายแดงเข้ม 110 กรัม, เกล็ดขนมปัง 110 กรัม, อัลมอนด์บด 25 กรัม และไข่ไก่ 2 ฟอง
วิธีการทำ
รวบรวมส่วนผสม
ใส่ผลไม้แห้ง เปลือกผลไม้ แอปเปิ้ล ผิวส้ม ผิวเลมอน น้ำส้ม และน้ำมะนาว ลงผสมในชามใบใหญ่ เพิ่มบรั่นดี และคนให้เข้ากัน คลุมชามด้วยผ้าสะอาดแล้วหมักทิ้งไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง หรือทิ้งไว้ข้ามคืนก็ได้ค่ะ
ผสมแป้ง เครื่องเทศ อบเชยเข้าด้วยกัน เติมน้ำตาล เกล็ดขนมปัง และอัลมอนด์ จากนั้นคนอีกครั้งจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี แล้วนำไปผสมรวมกับผลไม้แห้งที่เราหมักไว้
เติมไข่ลงไปแล้วตีให้เข้ากันอย่างรวดเร็ว
ทาเนยเล็กน้อยในชามที่เราจะนำไปใส่พุดดิ้งอบ
เทส่วนผสมลงในชามพุดดิ้งที่เราเตรียมไว้ กดส่วนผสมลงด้วยหลังช้อนจนแน่น จากนั้นคลุมด้วยกระดาษไขหรือแผ่นรองอบ 2 ชั้น แล้วตามแผ่นฟอยล์อีกชั้น มัดให้แน่นด้วยเชือกพันรอบชาม
ตั้งไฟจนน้ำในหม้อเดือด จากนั้นวางพุดดิ้งลงในหม้อ แล้วนึ่งพุดดิ้งเป็นเวลา 7 ชั่วโมง ระหว่างนี้ต้องคอยตรวจสอบระดับน้ำบ่อย ๆ อย่าปล่อยให้น้ำแห้ง
เมื่อสุกแล้ว ให้นำพุดดิ้งออกจากหม้อนึ่ง พักทิ้งไว้แล้วนำกระดาษออก แทงพุดดิ้งด้วยไม้เสียบในบางจุด และเทบรั่นดีเพิ่มเล็กน้อย
คลุมด้วยกระดาษไขใหม่ และมัดด้วยเชือก สามารถเก็บในที่แห้งและเย็น ได้อย่างน้อย 4 ถึง 5 สัปดาห์
“อาหารค่ำวันคริสต์มาสจะไม่สมบูรณ์หากไม่มี Christmas pudding ”
สามารถหาซื้อ Christmas pudding สำเร็จรูป หรือส่วนผสมต่าง ๆ ไปทำคริสต์มาสพุดดิ้งเองได้จากริมปิงทุกสาขานะคะ
โฆษณา