19 พ.ย. เวลา 12:00 • ประวัติศาสตร์
Rimping Supermarket NimCity Branch

ทำความรู้จัก “Saganaki” (ซากานากิ) ชีสทอดอาหารยอดนิยมของชาวกรีก

การทำชีสถือเป็นทักษะอย่างหนึ่งที่ชาวกรีกเชี่ยวชาญมาอย่างยาวนาน ดังนั้นในวัฒนธรรมกรีก ชีสจึงเป็นอาหารที่มีการบริโภคกันอย่างแพร่หลายทั่วทุกชนชั้นต่าง ๆ ทางสังคม ซึ่งในอดีตชาวกรีกมักจะใช้นมแพะและนมแกะ เพื่อผลิตชีสแล้วนำมาประกอบอาหารที่หลากหลายรวมถึง Saganaki ด้วยเช่นกัน
.
Saganaki เป็นอาหารเรียกน้ำย่อยที่ทำมาจากชีสทอด โดยต้นกำเนิดของ Saganaki ก็มีประวัติย้อนกลับไปในสมัยกรีกโบราณ ว่ากันว่าชาวกรีกโบราณมักจะทานชีสทอดหรือชีสย่างในรูปแบบต่าง ๆ จนในที่สุดก็พัฒนามาเป็น Saganaki ในแบบที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน
.
การทำ Saganaki โดยปกติแล้วชาวกรีกจะใช้ชีสแบบแข็งและกึ่งแข็ง เพื่อให้ชีสสามารถทนความร้อนได้และไม่ละลายในกระทะ โดยทั่วไปแล้วมักจะใช้ชีส Graviera, Kefalograviera, Kasseri, Kefalotyri, Mastelo และ Halloumi จากนั้นจะนำมาทอดในกระทะก้นแบนโดยใช้น้ำมันมะกอก แล้วเสิร์ฟพร้อมกับขนมปังและมะนาว
.
ชื่อ Saganaki นั้นมาจากชื่อของภาชนะที่ใช้ปรุงอาหารของชาวกรีกแบบดั้งเดิมเรียกว่า “Sagani” ซึ่งเป็นกระทะขนาดเล็กที่ใช้ในครัวเรือนชาวกรีกสำหรับทำอาหารต่าง ๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไปชื่อของกระทะนี้จึงถูกปรับเปลี่ยนมาเป็นชื่อของอาหาร เพราะการทำ Saganaki ชีสจะถูกทอดในกระทะนั่นเอง
.
เมื่อเวลาผ่านไป Saganaki ก็ได้รับการพัฒนาให้มีหลากหลายรูปแบบมากขึ้น เพราะในช่วงที่ออตโตมันปกครองกรีซ อิทธิพลการทำอาหารจากตะวันออกกลางและภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียนก็ส่งผลต่อการเตรียม Saganaki มีการเติมยี่หร่า อบเชย น้ำมันมะกอก กระเทียม พริกไทย ออริกาโน และมะเขือเทศลงไป ทำให้ Saganaki มีรสชาติที่โดดเด่นและซับซ้อนมากขึ้น
.
ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา Saganaki ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างกว้างขวางทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งเริ่มปรากฏบนเมนูต่าง ๆ ในร้านอาหารกรีกทั่วโลก แต่นอกเหนือจากรูปแบบดั้งเดิมแล้ว เชฟสมัยใหม่ยังเริ่มผสมผสานชีสกับท็อปปิ้งต่าง ๆ ลงไปมีทั้งอาหารทะเล ผัก และผลไม้ เป็นต้น
.
นอกจากนี้ในช่วงปี 1968 Saganaki ยังมีวิธีการเสิร์ฟที่น่าตื่นตาตื่นใจอีกด้วย ว่ากันว่าในช่วงดังกล่าว Chris Liakouras เจ้าของร้านอาหาร Parthenon ในเมือง Greektown ของชิคาโก ได้เสิร์ฟ “Flaming Saganaki” ในร้านอาหารของเขา เพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า ซึ่งการเสิร์ฟโดยวิธีนี้คือการราดบรั่นดีลงไปแล้วจุดไฟเหมือนกับการทำ “Flambé” และหลังจากนั้นไม่นานเทคนิคการเสิร์ฟ Saganaki รูปแบบนี้ก็ได้รับความนิยมไปทั่วสหรัฐอเมริกาและพื้นที่อื่น ๆ
.
ปัจจุบัน Saganaki ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและบล็อกอาหาร โดยเชฟและผู้ที่ชอบการทำอาหารมักจะแบ่งปันภาพถ่ายและสูตรอาหารให้กับผู้คนทั่วโลก ด้วยเหตุนี้ Saganaki จึงกลายเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยยอดนิยมในบาร์และร้านอาหารต่าง ๆ
โฆษณา