เมื่อวาน เวลา 12:00 • ประวัติศาสตร์
Rimping Supermarket NimCity Branch

ย้อนรอยประวัติศาสตร์ความเป็นมาของถุงซิปล็อค (Ziplock Bag)

ถุงซิปล็อค (Ziplock Bag) เป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่เปลี่ยนโลกของการถนอมอาหารไปอย่างสิ้นเชิง ด้วยความสะดวกสบายในการถนอมอาหาร ช่วยป้องกันได้ทั้งอากาศและน้ำ ด้วยเหตุนี้ถุงซิปล็อคจึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมากไม่ว่าจะใช้บรรจุเนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ ชา กาแฟ อาหารเหลว สมุนไพร และธัญพืชต่าง ๆ
.
เรื่องราวของถุงซิปล็อคเริ่มต้นขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 ด้วยความคิดอันสร้างสรรค์ของ Borge Madsen วิศวกรชาวเดนมาร์กที่ทำงานให้กับบริษัท Flexigrip ของสหรัฐอเมริกา โดย Borge Madsen เกิดไอเดียทำซิปพลาสติกสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ขึ้นมา
เขาทำซิปที่มีลักษณะเลื่อนปิดถุงพลาสติกได้ขึ้นมา ซึ่งนี่ถือเป็นซิปล็อครูปแบบแรกสุด เขากล่าวว่าวิธีการนี้สามารถปิดผนึกถุงได้อย่างปลอดภัย โดยไม่จำเป็นต้องใช้ตัวยึดเพิ่มเติม เช่น คลิปหรือสายรัด หลังจากนั้นเขาก็จดสิทธิบัตรซิปพลาสติกสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ในทันที
.
อย่างไรก็ตามการใช้งานในช่วงแรกนี้ ซิปล็อคยังเข้าไม่ถึงวงการอาหาร แต่จะนิยมใช้สำหรับปิดผนึกแฟ้มเอกสารและกล่องดินสอแบบแบนมากกว่า ซึ่งวางจำหน่ายในชื่อ “Flexigrip”
ต่อมาในปี 1954 Steven Ausnit หนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัท Flexigrip เกิดไอเดียพัฒนาซิปล็อครูปแบบใหม่ที่มีร่องที่เชื่อมต่อกันสามารถเปิดและปิดได้ง่ายขึ้น ต่างจากรุ่นก่อนที่ต้องอาศัยแถบเลื่อน โดยรูปแบบใหม่นี้ไม่เพียงแต่สะดวกในการใช้งานมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยลดต้นทุนวัสดุและการผลิตอีกด้วย
.
ต่อมาในปี 1961 พวกเขาจึงเปิดตัวซิปล็อคพลาสติกรูปแบบนี้ภายใต้ชื่อแบรนด์ “Ziploc® ” และสร้างบริษัทใหม่ขึ้นมาชื่อ Minigrip เพื่อทำการตลาดสำหรับซิปล็อครูปแบบนี้ โดยมุ่งเน้นไปที่อุตสาหกรรมการเก็บและถนอมอาหารโดยเฉพาะ
.
จากนั้นบริษัทที่ชื่อว่า Dow Chemical ซึ่งเป็นบริษัทผลิตถุงพลาสติกโพลีเอทิลีนเรซิน ได้ติดต่อเข้ามาและเสนอว่าถุงพลาสติกของเขาเหมาะสำหรับซิปล็อครูปแบบนี้ หลังจากเจรจานานหลายปีในที่สุดถุงซิปล็อคที่สมบูรณ์แบบที่เรารู้จักก็ได้เริ่มปรากฏออกสู่ท้องตลาดเป็นครั้งแรก โดยใช้ถุงพลาสติกจาก Dow Chemical และนวัตกรรมซิปล็อคของ Minigrip
.
หลังจากเปิดตัว ถุงซิปล็อคก็ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในครัวเรือนทั่วสหรัฐอเมริกา ด้วยความสะดวกสบาย เหมาะสำหรับการจัดเก็บอาหารได้หลากหลาย ตั้งแต่แซนด์วิช ของว่าง ไปจนถึงของเหลือ และของใช้ในครัวเรือนต่าง ๆ
.
เมื่อเวลาผ่านไปถุงซิปล็อคได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นด้วยลักษณะที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ซึ่งผู้ใช้สามารถล้างและนำถุงกลับมาใช้ซ้ำได้หลายครั้ง โดยคุณสมบัตินี้ดึงดูดได้ทั้งผู้บริโภคที่ประหยัดและผู้ที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
.
เนื่องจากความต้องการของถุงซิปล็อคมีเพิ่มมากขึ้น ในปี 1968 บริษัทจึงเปิดตัว “ถุงแซนด์วิชซิปล็อค” ซึ่งเป็นรุ่นที่มีขนาดเล็กและกะทัดรัดกว่ารุ่นดั้งเดิมขึ้นมา โดยรุ่นนี้ออกแบบมาสำหรับบรรจุอาหารกลางวันและของว่างโดยเฉพาะ
.
ต่อมาในปี 1986 บริษัทได้เปิดตัว “ถุงแช่แข็งซิปล็อค” ซึ่งมีฟิล์มพลาสติกที่หนาและทนทานมากขึ้น ถูกออกแบบมาเพื่อทนทานต่ออุณหภูมิที่เย็นจัด โดยนวัตกรรมนี้ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถจัดเก็บและรักษาอาหารที่เน่าเสียง่ายในช่องแช่แข็งได้อย่างปลอดภัยเป็นระยะเวลานาน
.
เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับมลภาวะของพลาสติกและความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาถุงซิปล็อคจึงต้องเผชิญกับการตรวจสอบอย่างละเอียดเกี่ยวกับการพึ่งพาวัสดุที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพ แต่อย่างไรก็ตามบริษัทได้ตอบสนองต่อข้อกังวลเหล่านี้ด้วยการนำเสนอทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่ทำจากพลาสติกรีไซเคิลและวัสดุที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ
.
นอกจากความอเนกประสงค์ในการจัดเก็บอาหาร ปัจจุบันถุงซิปล็อคถูกนำมาใช้ในการใช้งานที่หลากหลาย ตั้งแต่การจัดระเบียบสิ่งของจำเป็นในการเดินทาง และการจัดเก็บอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงการบรรจุยา และเวชภัณฑ์ ซึ่งปัจจุบันแบรนด์ Ziploc® อยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท SC Johnson
ด้วยความที่ถุงซิปล็อคได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ปัจจุบันจึงมีแบรนด์ถุงซิปล็อคเกิดขึ้นมากมายในประเทศอื่น ๆ แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้จะมีแบรนด์ใหม่ ๆ เกิดขึ้น ทุกวันนี้เราก็ยังคงเรียกถุงแบบนี้ว่าถุงซิปล็อคตามชื่อของแบรนด์แรกอยู่ดี เพราะเป็นชื่อที่พูดถึงทีไรก็จะทำให้นึกถึงถุงที่มีลักษณะแบบนี้
สามารถหาซื้อถุงซิปล็อคหลากหลายรูปแบบได้ที่ริมปิงทุกสาขานะคะ
โฆษณา