Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Rimping Supermarket
•
ติดตาม
8 ก.พ. เวลา 12:00 • ประวัติศาสตร์
Rimping Supermarket NimCity Branch
ย้อนรอยประวัติศาสตร์ “Bénédictine” ลิเคียวสมุนไพรจากประเทศฝรั่งเศส ที่มีอายุยาวนานกว่า 500 ปี
น้ำสีเหลืองอำพันเคล้าไปกับกลิ่นหอมของสมุนไพรหลากหลายชนิดเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ “Bénédictine” (เบนเนดิกทีน) ลิเคียวชั้นเลิศจากประเทศฝรั่งเศสที่มีอายุยาวนานกว่า 500 ปี
.
เรื่องราวของ Bénédictine เริ่มต้นขึ้นที่อาราม Fécamp ในแคว้นนอร์ม็องดีประเทศฝรั่งเศส กล่าวกันว่าบาทหลวงชื่อ Dom Bernardo Vincelli นิกาย Benedictine เป็นผู้คิดค้นลิเคียวชนิดนี้ขึ้นมาในปี ค.ศ. 1510 โดยใช้สมุนไพร เครื่องเทศ และรากผักหายากที่พบตามชายฝั่งนอร์ม็องดีในการผลิต โดยถูกนำมาใช้เพื่อเป็นยาและเป็นเครื่องดื่มช่วยย่อยอาหาร (Digestive Drink)
.
ตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา Bénédictine ได้รับความนิยมในอาราม Fécamp จนกระทั่งในช่วงการปฏิวัติฝรั่งเศส (1789-1792) อารามถูกทำลาย นักบวชต้องหนีเอาชีวิตรอด แต่ด้วยความตระหนักว่าสูตรจะหายไป บาทหลวงจึงมอบสูตร Benedictine ของ Dom Bernardo Vincelli ที่เขียนเอาไว้ในตำราให้แก่ Prosper Couillard ผู้ดูแลอาราม
.
อย่างไรก็ตามตำราเล่มนี้ถูกซ่อนเอาไว้และถูกลืมไปเกือบศตวรรษ จนกระทั่งในปี 1863 Alexandre Le Grand หลานชายของ Prosper Couillard นักสะสมงานศิลปะทางศาสนาค้นพบตำราที่สูญหายไปเล่มนี้ เขาจึงนำสูตรมาปรับปรุง โดยดัดแปลงจากสูตรดั้งเดิมจนได้มาเป็นลิเคียวสมุนไพรที่เรียกว่า Bénédictine (สาเหตุที่ต้องปรับปรุงสูตรใหม่เนื่องจากสูตรดั้งเดิมมีรสชาติที่เหมาะจะใช้เป็นยามากกว่า) ซึ่งปัจจุบันสูตรดั้งเดิมนี้ถูกเก็บรักษาเอาไว้ในห้องนิรภัยในเจนีวา (Geneva)
.
Alexandre Le Grand สั่งทำขวดแก้วสุดพิเศษที่มีลักษณะคล้ายขวดโบราณที่พบในอารามจากอธิการคณะบาทหลวง Bénédictine ในกรุงโรม และขออนุญาตใช้ชื่อ และตราสัญลักษณ์ของอาราม Bénédictine ใน Fécamp เพื่อเป็นการยกย่อง Dom Bernardo Vincelli จากนั้นเขาจึงตั้งชื่อลิเคียวนี้ว่า “Bénédictine” และปั๊มตราสัญลักษณ์ของ Bénédictine ด้วยขี้ผึ้งสีแดงติดอยู่บนขวด
.
ในปี 1864 Alexandre Le Grand ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าสำหรับ Bénédictine โดยใช้คำขวัญของบาทหลวง Bénédictine ผ่านตัวย่อ D.O.M. ซึ่งย่อมาจากคำว่า Dom Optimo Maximo แปลว่า “แด่พระผู้เป็นเจ้าผู้ประเสริฐและยิ่งใหญ่” ดังนั้นเราจึงเห็นอักษรย่อ D.O.M. ปรากฏอยู่บนขวด Bénédictine นั่นเอง
.
เนื่องจากครอบครัวของ Alexandre Le Grand ทำธุรกิจค้าขายไวน์อยู่แล้ว ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงนำ Bénédictine ส่งไปขายทั่วยุโรปและอเมริกา จนทำให้ชื่อเสียงแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ไม่เพียงเท่านี้เขายังนำกลยุทธ์ทางการตลาดสมัยใหม่มาใช้ในแบรนด์ของเขาด้วย โดยนำป้ายโฆษณาที่มีสีสันสะดุดตาไปตั้งไว้ตามจุดที่มีคนพลุกพล่าน เช่น ทางขึ้นเรือ และทางขึ้นรถไฟ จนในที่สุดแบรนด์ของเขาก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
.
ในภายหลัง Alexandre Le Grand จึงสร้างสำนักงานและโรงกลั่นอยู่บนที่ตั้งของอารามเก่าที่ถูกทำลาย และตกแต่งสถาปัตยกรรมให้คล้ายกับอารามดั้งเดิม แต่แล้วเรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชาวเมืองท้องถิ่น 2 คนที่เขาจ้างมาทำงาน ซึ่งเป็นคนขี้เมาไม่พอใจที่ Alexandre Le Grand จะไล่ออก ในคืนวันที่ 11 มกราคมปี 1892 ชายทั้งสองคนนี้จึงจุดไฟเผาสำนักงานและโรงกลั่นจนเสียหายทั้งหมด รวมถึงเอกสารต่าง ๆ ของบริษัทก็ถูกเผาไปด้วยเช่นกัน (ซึ่งภายหลังถูกจับได้และส่งเข้าเรือนจำเรียบร้อย)
.
ถึงแม้จะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน แต่ครอบครัว Le Grand ก็ยังคงไม่หยุดพัฒนา พวกเขาตัดสินใจสร้าง Palasis Bénédictine ขึ้นมาใหม่ โดยทำให้ใหญ่และมีความหรูหรามากขึ้นกว่าเดิม ออกแบบด้วยการผสานสไตล์บาโรกและกอทิกอย่างหรูหรา โดยสถาปนิกที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในสมัยนั้น นอกจากห้องโถงของโรงกลั่นขนาดใหญ่แล้ว ห้องต่าง ๆ รวมถึงห้องสวดมนต์ก็ถูกประดับประดาด้วยงานแกะสลักและสิ่งประดิษฐ์ของนักบวช โดยอาคารแห่งนี้สร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1900 ปัจจุบันก็ยังเป็นคงเป็นที่ตั้งของสำนักงาน Bénédictine
.
ความนิยมของ Bénédictine นำไปสู่การสร้างสรรค์ในรูปแบบใหม่ระหว่างการห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสหรัฐอเมริกาในปี 1930 โดยบาร์เทนเดอร์คนหนึ่งที่ Club 21 ในแมนฮัตตันเกิดแนวคิดที่จะผสมบรั่นดีคอนญัค Bénédictine และน้ำผึ้ง เข้าด้วยกัน จนได้มาเป็น Bénédictine รสชาติใหม่ที่มีความหอมหวานมากขึ้น
.
ต่อมาในปี ค.ศ. 1937 บริษัทของ Alexandre Le Grand จึงตัดสินใจผลิต Bénédictine B&B สำเร็จรูปพร้อมดื่มในเชิงพานิชย์ขึ้นมา โดย B ตัวแรกมาจาก Benedictine D.O.M. และ B ตัวที่สองมาก Brandy โดยใช้ Bénédictine 60 % และบรั่นดีชั้นเลิศของฝรั่งเศส 40 %
อาหาร
ประวัติศาสตร์
เรื่องเล่า
บันทึก
3
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย