สงครามสร้างวีรบุรุษ
อย่างไรก็ตามก่อนที่ไฟในกระถางคบเพลิงกลางกรุงปารีสในมหกรรมโอลิมปิก 2024 จะดับลง และเพื่อให้ทัพไทยทลายกำแพงก้าวไปถึงหมุดหมาย หวังว่าคอกีฬาไทยทั่วทิศคงจะได้ผนึกพลังร่วม “ร้อยแรงใจ ส่งแรงเชียร์”ให้ความหวังและความสำเร็จภายใต้การมุ่งมั่น และทุ่มเทของคณะนักกีฬาแปรเปลี่ยนมาเป็นความจริงและความสุขสู่ชาวไทยดังที่ทุกภาคส่วนคาดหวัง
ภายหลังไฟในกระถางคบเพลิงของปารีสเกมส์ 2024 ถูกจุดขึ้นอย่างเป็นทางการทัพนักกีฬาทั่วโลกต่างแสดงศักยภาพและโชว์ผลงานเพื่อความเป็นหนึ่งภายใต้การนำมาซึ่งชื่อเสียง เกียรติภูมิของตนเองและประเทศชาติ
จากวันถึงวันนี้หากพิจารณาถึงการเข้าร่วมในมหกรรมอันยิ่งใหญ่ของทัพนักกีฬาไทยภายใต้การผนึกพลังร่วมของ 51 ชีวิต ใน17 ชนิดกีฬาจะเห็นได้ว่าทุกคนที่ลงทำศึกต่างมุ่งมั่นและทุ่มเทแสดงฝีมือเพื่อประเทศชาติกันอย่างเต็มคาราเบล
เมื่อพูดถึงทัพไทยแน่นอนคงจะต้องส่องไปที่ความหวังและโอกาสกับการได้มาซึ่งความสำเร็จโดยเฉพาะการหยิบเหรียญรางวัล และเมื่อนำไปเทียบเคียงกับการที่คณะเตรียมการนักกีฬาตลอดจนสมาคมกีฬาต่างๆประเมินหรือปักหมุดไว้ที่ 6 เหรียญทองวันนี้หากบวกลบคูณหารแล้วคาดว่าโอกาสแห่งความเป็นจริงก็พอจะประเมินได้ว่าพอที่จะเอื้อมถึงได้หรือไม่
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหากเป้าหมายเหรียญรางวัลไม่เป็นดังหวังแต่ในทางกลับกันหากมองไปที่มิติหรือการที่ประเทศชาติจะได้รับโดยเฉพาะการที่นักกีฬาผนึกพลังร่วมด้วยการเผยแพร่ชื่อเสียง เกียรติภูมิรวมทั้งวัฒนธรรมของสยามเมืองยิ้มผสมผสานกับการมีสัมมาคารวะในสนามอย่างที่ “น้องเมย์” รัชนก อินทนนท์ นักหวดลูกขนไทยได้โชว์ให้คนทั้งโลกได้เห็นก็ถือว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม
ตามด้วยการลงสนามภายใต้ความนิ่งและสุขุมจนปราบนักตบจากแดนเสือเหลืองมาเลเซียทะยานเข้าชิงความเป็นหนึ่งและสร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการแบดมินตันไทยก็ถือว่านี่คือที่สุดของที่สุดสำหรับทัพไทยในศึกนี้
จากผลงานอันบรรเจิดของ 2 ฮีโร่ไทย เชื่อว่าต่อแต่นี้ไปคงต้องส่องไปที่ความหวังและโอกาสที่คอกีฬาทั่วทิศรอคอยคือการขึ้นสังเวียนของจอมเตะไทยโดยการนำของ“เทนนิส” ภาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ตามด้วย “หยู”บัลลังก์ ทับทิมแดง และ “ใบเตย”ศศิกานต์ ทองจันทร์ ที่จะขึ้นเวทีพิสูจน์ศักดาเพลงเตะระหว่างวันที่ 7-9 สิงหาคมศกนี้
การสู้ศึกของ 3 นักกีฬาเทควันโดในปารีสเกมส์ 2024 โดยเฉพาะการไล่ล่าหาความสำเร็จของ “เทนนิส” ในวันที่ 7 สิงหาคม กับสร้างประวัติศาสตร์ให้วงการกีฬาโลกและกีฬาไทยได้บันทึกและจดจำด้วยการครองเหรียญทอง 2 สมัยติดต่อกันยิ่งถือว่าวันนั้นจะเป็นหนึ่งในวันที่ชาวไทยทั่วทิศต่างรอคอยที่จะสัมผัสกับเกมอันตื่นเต้นเร้าใจภายใต้พลังการเตะสนั่นโลกของสาวนักสู้จากเมืองคนดีสุราษฎร์ธานีก่อนที่เธอจะอำลาสังเวียนกับการรับใช้ชาติ
เมื่อพูดถึงการลุ้นและรอคอยความหวังของแฟนกีฬาชาวไทยที่มีต่อ “น้องเทนนิส”ในการขึ้นเวทีเพื่อพิสูจน์พลังการเตะหากคลี่ไปดูผลโพลก่อนที่มหกรรมกีฬาอันยิ่งใหญ่อย่างโอลิมปิกครั้งที่ 33 หรือปารีสเกมส์2024 จะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ KBU SPORT POLL โดยศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิตร่วมกับสถาบันการจัดการกีฬาเพื่อองค์กรกีฬา (WISDOM) สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนด้วยการสำรวจความคิดเห็นเรื่อง “ความหวังและโอกาสทัพนักกีฬาไทยในปารีสเกมส์ 2024”
ในโพลดังกล่าวเมื่อถามถึงชนิดกีฬาที่เป็นความหวังและมีโอกาสคว้าเหรียญทอง พบว่า กลุ่มตัวอย่างหรือแฟนกีฬาส่วนใหญ่ต่างยกหรือเทไปที่ เทควันโด มาเป็นลำดับแรก ซึ่งการที่คอกีฬาหรือกองเชียร์แนวหลังคาดหวังต่อทัพเทควันโดโดยเฉพาะความเชื่อมั่นที่มีต่อจอมเตะอย่างน้องเทนนิสอาจจะเป็นเพราะว่าด้วยผลงานและความเป็นแชมป์เก่าตลอดจนการเป็นมือหนึ่งในรุ่น 49 กิโลกรัม และเมื่อผนวกกับความมุ่งมั่นทุ่มเทในการรับใช้ชาติ
และจากความหวังที่ทุกภาคส่วนหมายปองจะทำให้การความกดดันตลอดจนการแบกรับจะตกอยู่ที่เธอหรือไม่คาดว่าศึกนี้น้องเทนนิสผู้ซึ่งผ่านประสบการณ์ในเวทีเทควันโดมาอย่างยาวนานน่าจะสร้างความสุขและทำให้แฟนกีฬาได้เฮพร้อมกับร้องเพลงชาติไปด้วยกันอีกวาระหนึ่ง
อย่างไรก็ตามก่อนที่ไฟในกระถางคบเพลิงกลางกรุงปารีสในมหกรรมโอลิมปิก 2024 จะดับลง และเพื่อให้ทัพไทยทลายกำแพงก้าวไปถึงหมุดหมาย หวังว่าคอกีฬาไทยทั่วทิศคงจะได้ผนึกพลังร่วม “ร้อยแรงใจ ส่งแรงเชียร์”ให้ความหวังและความสำเร็จภายใต้การมุ่งมั่น และทุ่มเทของคณะนักกีฬาแปรเปลี่ยนมาเป็นความจริงและความสุขสู่ชาวไทยดังที่ทุกภาคส่วนคาดหวัง
รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
