11 ส.ค. เวลา 02:28 • หนังสือ

ความทรงจำไร้ขีดจำกัด : เทคนิคจาก Ryan Holiday กับวิธีจดจำหนังสือทุกเล่มที่คุณอ่าน

ลองจินตนาการดูสิครับ หากคุณหยิบหนังสือเล่มใดก็ได้ขึ้นมา อ่านจบ แล้วจำได้แทบทุกอย่าง มันฟังดูเหมือนเรื่องในนิยายวิทยาศาสตร์ใช่ไหมล่ะ? แต่เชื่อหรือไม่ว่า มีคนที่มีพรสวรรค์พิเศษในการจดจำข้อมูลได้อย่างน่าทึ่งจริงๆ
2
เป็นข้อมูลที่น่าสนใจจาก Ryan Holiday นักเขียนหนังสือขายดีระดับโลก ผู้เขียนหนังสือดีๆ อย่าง “The Obstacle Is the Way” และ “Ego Is the Enemy” Ryan เขาอ่านหนังสือมาแล้วกว่า 3,000 เล่ม และมีความสามารถในการจดจำเนื้อหาได้อย่างแม่นยำ
6
Ryan ก็เคยคิดว่าตัวเองไม่มีทางจดจำหนังสือได้มากมายขนาดนั้น เขาอ่านหนังสือมาแล้วหลายพันเล่ม ทั้งหนังสือ บล็อก และ Newsletter แต่ความสามารถในการจำเนื้อหาเหล่านั้นของเขานั้นแย่เอามาก ๆ จนในที่สุดเขาได้ตัดสินใจที่จะศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพื่อเรียนรู้วิธีการจดจำข้อมูลของคนที่ฉลาดที่สุดในโลก และค้นหาระบบเพื่อนำมาใช้กับตัวเอง
1
Ryan เล่าให้ฟังว่า “ผมเริ่มต้นในวงการสิ่งพิมพ์ในฐานะผู้ช่วยวิจัย ผมทำงานให้กับนักเขียนที่ยอดเยี่ยมคนหนึ่งชื่อ Robert Greene เขาสอนวิธีการอ่านที่ผมยังคงปฏิบัติมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งผมคิดว่าอาจเป็นประโยชน์”
2
Ryan อธิบายระบบการอ่านของเขา ซึ่งประกอบด้วย 3 ขั้นตอนหลัก:
1. จดบันทึกขณะที่อ่าน
2. ทบทวนและแก้ไขบันทึกเมื่ออ่านจบ
3. จัดหมวดหมู่และเก็บบันทึก
ฟังดูง่าย แต่ทำไมระบบนี้ถึงมีประสิทธิภาพในการช่วยให้เราจดจำสิ่งที่อ่านได้มากขึ้น? คำตอบอยู่ที่วิธีการทำงานของสมองเรานั่นเอง
สมองของเรามีกระบวนการคัดกรองที่ช่วยกำหนดว่าข้อมูลใดควรเก็บไว้ในความทรงจำระยะยาว กระบวนการนี้เรียกว่า “การประมวลผลความจำแบบฮิวริสติก (heuristic memory processing)” ซึ่งจะให้ความสำคัญกับข้อมูลที่ใช้บ่อย ใช้เมื่อเร็วๆ นี้ หรือมีแนวโน้มที่จะต้องใช้ในการตัดสินใจ
3
ดังนั้น การเป็นผู้เรียนรู้ที่ดีขึ้นจึงเป็นเรื่องของการลงมือทำ อ่าน จดบันทึก ศึกษา และใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่คุณได้รับ ซึ่งก็คือสิ่งที่ระบบของ Ryan ช่วยให้เราทำได้นั่นเอง
2
Ryan ตัดสินใจทดลองใช้ระบบของเขา โดยเริ่มจากหนังสือเล่มล่าสุดของเขา “Courage Is Calling” โดยเขาได้ตั้งใจอ่านและจดบันทึกอย่างละเอียดตลอดทั้งเล่ม แม้ว่าจะทำให้เขาอ่านช้าลงไปอีกประมาณ 30-40% แต่เขาก็หวังว่าวิธีนี้จะช่วยให้ความทรงจำและความคิดเหล่านี้ดีขึ้น
2
หลังจากอ่านจบ เขาก็เริ่มขั้นตอนที่สอง นั่นคือการทบทวนและแก้ไขบันทึก โดยการไล่อ่านหนังสือทั้งเล่มอีกครั้ง และนำบันทึกที่ดีที่สุดทั้งหมดมาเขียนลงในกระดาษสำหรับบันทึก
1
ขั้นตอนสุดท้ายคือการจัดหมวดหมู่และเก็บบันทึก ซึ่งเป็นส่วนที่ท้าทายที่สุด เพราะเขาต้องจัดระบบและจัดระเบียบบันทึกทั้งหมดให้เป็นหมวดหมู่ ประเภท และหัวข้อต่างๆ
ตลอดกระบวนการนี้ เขาได้เรียนรู้บทเรียนสำคัญ นั่นคือ คุณไม่สามารถจดจำทุกสิ่งที่คุณต้องการได้จริงๆ แต่คุณสามารถเก็บมันไว้นอกสมองของคุณได้ ด้วยการใช้ระบบที่เป็นระเบียบและมีประสิทธิภาพ
1
Ryan เองก็ยืนยันความสำคัญของการมีระบบ เขาบอกว่า “ผมมีกล่องใส่กระดาษสำหรับบันทึกอย่างน้อยหนึ่งกล่องสำหรับทุกเล่มที่ผมเขียน ตอนนี้ผมมีเจ็ดกล่องในออฟฟิศ ระบบของผมเป็นการผสมผสานระหว่างของ Rob Greene กับของตัวผมเอง และของคุณก็สามารถเป็นเวอร์ชันที่คุณสร้างเองได้”
3
แม้ว่าการใช้ระบบแบบนี้อาจดูเป็นงานที่ยุ่งยากและใช้เวลามาก แต่ Ryan เน้นย้ำว่า “การเริ่มต้นแบบนี้ยังดีกว่าการอ่านหนังสือไปเรื่อย ๆ แบบไร้จุดหมาย ระบบของผมพัฒนามาตลอดหลายปี และจะยังคงพัฒนาต่อไป อาจจะมีเวอร์ชันในอนาคตที่เป็นดิจิทัล แต่ตอนนี้นี่คือสิ่งที่ใช้ได้ผลสำหรับผม และสิ่งสำคัญคือผมทำมันอย่างสม่ำเสมอและพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ”
1
นอกจากนี้ Ryan ยังแบ่งปันมุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับการอ่านว่า “การอ่านเป็นกิจกรรมที่น่าเพลิดเพลิน ผมชอบทำมัน ในขณะที่ผมอ่านหนังสือ มันเหมือนกับว่าผมกำลังสนทนากับ Ernest Hemingway หรือ Marcus Aurelius หรือ Doris Kearns Goodwin ซึ่งพวกเขาเป็นคนที่เก่งที่สุดในโลกในสิ่งที่พวกเขาทำ ผมอยากเพลิดเพลินกับมัน ผมจะใช้เวลากับมัน”
1
การผจญภัยของ Ryan ในโลกแห่งการจดจำและการเรียนรู้เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น แม้ว่าอาจจะเร็วเกินไปที่จะบอกว่าระบบนี้จะช่วยพัฒนาความจำของเขาได้ในระยะยาวได้มากน้อยแค่ไหน แต่สิ่งที่เขาได้เรียนรู้แน่ๆ ก็คือ การพัฒนาความสามารถในการจดจำไม่ใช่เรื่องของการเป็นอัจฉริยะหรือมีพรสวรรค์พิเศษ แต่เป็นเรื่องของการมีระบบที่ดีและการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ
1
ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้ระบบแบบดั้งเดิมอย่างของ Ryan หรือจดบันทึกในระบบดิจิทัล สิ่งสำคัญที่สุดคือการเริ่มต้นและทำอย่างต่อเนื่อง เพราะเมื่อคุณเริ่มจัดระบบความคิดและสิ่งที่คุณเรียนรู้ คุณจะพบว่าตัวเองสามารถจดจำและนำความรู้มาใช้ได้มากขึ้นกว่าที่คิด
ท้ายที่สุดแล้ว การพัฒนาความจำและการเรียนรู้ไม่ใช่เรื่องของการแข่งขันว่าใครจะจำได้มากกว่าหรือเร็วกว่า แต่เป็นเรื่องของการเพลิดเพลินไปกับกระบวนการเรียนรู้ และการนำสิ่งที่เราเรียนรู้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตจริง เพราะในท้ายที่สุด ความรู้ที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่ปริมาณข้อมูลที่เราจดจำได้ แต่อยู่ที่วิธีการที่เรานำความรู้นั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตัวเองและผู้อื่นได้ในท้ายที่สุดนั่นเองครับผม
9
References :
I learned a system for remembering everything
◤━━━━━━━━━━━━━━━◥
หากคุณชอบคอนเทนต์นี้อย่าลืม 'กดไลก์'
หากคอนเทนต์นี้โดนใจอย่าลืม 'กดแชร์'
คิดเห็นอย่างไรคอมเม้นต์กันได้เลยครับผม
◣━━━━━━━━━━━━━━━◢
ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA ด.ดล Blog
คลิกเลย --> https://lin.ee/aMEkyNA
รวม Blog Post ที่มีผู้อ่านมากที่สุด
——————————————–
ติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่
=========================
โฆษณา