12 ส.ค. เวลา 03:10 • หุ้น & เศรษฐกิจ

จีนเปลี่ยนเกม: การผงาดขึ้นในตลาดร้านกาแฟโลก

ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ตลาดร้านกาแฟระดับโลกได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่ง จีนได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนี้ ซึ่งเคยถูกครอบครองโดยแบรนด์จากสหรัฐอเมริกา เช่น Starbucks การขยายตัวอย่างรวดเร็วของร้านกาแฟจากจีนสะท้อนให้เห็นถึงการปรับตัวต่อพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในธุรกิจ และการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจของประเทศจีน บทความนี้จะสำรวจถึงการเติบโตของตลาดร้านกาแฟในระดับโลก มูลค่าตลาดในปี 2024 และกลยุทธ์ที่ทำให้ร้านกาแฟจากจีนสามารถครองตลาดและโค่น Starbucks ได้
มูลค่าตลาด Coffee Shops โลกในปี 2024
ในปี 2024 มูลค่าตลาดร้านกาแฟทั่วโลกคาดว่าจะสูงถึงประมาณ 500 พันล้านดอลลาร์ โดยในจำนวนนี้ จีนถือเป็นประเทศที่มีการเติบโตของจำนวนร้านกาแฟที่รวดเร็วที่สุด จีนมีสัดส่วนสาขาร้านกาแฟประมาณ 30% ของทั้งหมดทั่วโลก ซึ่งแซงหน้าสหรัฐอเมริกาไปอย่างชัดเจน สหรัฐอเมริกามีสัดส่วนอยู่ที่ประมาณ 25% ซึ่งลดลงจากเดิมเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ส่วนประเทศอื่นๆ ทั่วโลก (รวมกัน) ครองสัดส่วนที่เหลืออีก 45% ของจำนวนสาขาร้านกาแฟ
การเติมโตของธุรกิจ Coffee Shops จากจีน
ระหว่างปี 2020 ถึง 2024 ธุรกิจร้านกาแฟจากจีนได้แสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ในปี 2020 ยอดขายของร้านกาแฟจากจีนอยู่ที่ประมาณ 30 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเติบโตจนถึง 50 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 ขณะที่กำไรสุทธิของธุรกิจนี้เพิ่มขึ้นจาก 10% ในปี 2020 เป็น 20% ในปี 2024 นอกจากนี้ จำนวนแก้วกาแฟที่ขายได้ต่อปีเพิ่มขึ้นจาก 1.5 พันล้านแก้วในปี 2020 เป็น 3.0 พันล้านแก้วในปี 2024
ในขณะเดียวกัน ร้านกาแฟจากอเมริกามียอดขายลดลงเล็กน้อย จาก 40 พันล้านดอลลาร์ในปี 2020 เหลือ 35 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 กำไรสุทธิก็ลดลงจาก 15% เป็น 12% ในช่วงเวลาเดียวกัน จำนวนแก้วกาแฟที่ขายได้ก็ลดลงเล็กน้อยจาก 2.0 พันล้านแก้วในปี 2020 เหลือ 1.8 พันล้านแก้วในปี 2024
กลยุทธ์ของจีนในการโค่น Starbucks
จีนได้ใช้กลยุทธ์ที่แข็งแกร่งและหลากหลายในการเจาะตลาดร้านกาแฟระดับโลก ซึ่งสามารถโค่น Starbucks ได้สำเร็จ โดยกลยุทธ์ที่สำคัญประกอบด้วย:
  • การตั้งราคาที่แข่งขันได้: ร้านกาแฟจากจีนเสนอราคาที่ต่ำกว่า Starbucks ซึ่งสามารถดึงดูดผู้บริโภคจำนวนมาก โดยเฉพาะในตลาดที่อ่อนไหวต่อราคา
  • การขยายสาขาอย่างรวดเร็ว: จีนได้ขยายสาขาร้านกาแฟอย่างรวดเร็วในหลายประเทศ โดยเฉพาะในตลาดเกิดใหม่ ทำให้สามารถสร้างฐานลูกค้าได้ในวงกว้าง
  • นวัตกรรมทางธุรกิจ: การใช้เทคโนโลยีในธุรกิจอย่างกว้างขวาง เช่น แอปพลิเคชันสำหรับสั่งซื้อและการจัดการสต็อก ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและสร้างความสะดวกสบายให้กับลูกค้า
  • สร้างแบรนด์ที่เป็นท้องถิ่น: ร้านกาแฟจากจีนมุ่งเน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เข้ากับวัฒนธรรมท้องถิ่น ทำให้ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคในแต่ละภูมิภาค
  • กลยุทธ์การตลาดเชิงรุก: การใช้โซเชียลมีเดียและการตลาดดิจิทัลทำให้ร้านกาแฟจากจีนสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
บทสรุป
การที่จีนสามารถขึ้นมาเป็นผู้นำในตลาดร้านกาแฟระดับโลกไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นผลมาจากกลยุทธ์ที่รอบคอบและมีประสิทธิภาพ จีนได้ใช้การตั้งราคาที่แข่งขันได้ การขยายสาขาอย่างรวดเร็ว นวัตกรรมทางธุรกิจ การสร้างแบรนด์ที่เข้าถึงผู้บริโภคในแต่ละประเทศ และการตลาดเชิงรุก จนสามารถเอาชนะ Starbucks ในหลายตลาดทั่วโลกได้ การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นภาพสะท้อนของความแข็งแกร่งและศักยภาพทางเศรษฐกิจของจีนที่สามารถขยายอิทธิพลในอุตสาหกรรมที่เคยถูกครอบครองโดยแบรนด์จากตะวันตก
บทความอ้างอิง
  • Global Coffee Market Report, 2024.
  • International Coffee Organization (ICO) Data, 2020-2024.
  • China Coffee Market Analysis, 2024.
  • Financial Reports of Starbucks, 2020-2024.
  • "How China Overtook Starbucks to Lead the Global Coffee Market," China Retail News, 2024.
  • "Digital Transformation in Chinese Coffee Chains," TechAsia Journal, 2024.
  • "The Rise of Chinese Coffee Brands and Their Global Expansion," Global Business Review, 2024.
โฆษณา