12 ส.ค. เวลา 12:40 • การศึกษา

วันนี้ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๗ เป็นวันพระเล็ก ตรงกับขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๙ ปีมะโรง

พอดีวันนี้ก็สมมติว่าเป็นวันแม่ด้วย
ญาติโยมก็ออกมารอใส่บาตรกันเยอะกว่าปกติ
ก็ทำบุญอุทิศให้พ่อให้แม่ไปพร้อมกัน เพราะทุกคนต่างก็มีพ่อมีแม่ด้วยกันทั้งนั้น ใครโชคดีที่พ่อแม่ยังมีชีวิตอยู่ ก็ให้รู้จักอุปถัมภ์บำรุงเอาใจใส่ดูแลท่านให้ดี บุตรธิดาที่อุปถัมภ์บำรุงพ่อแม่ด้วยดีแล้ว ย่อมประสบความเจริญรุ่งเรืองเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตไปตลอดกาลนาน
.
เพราะพ่อแม่เป็นผู้มีพระคุณอันยิ่งใหญ่ต่อลูก ๆ ในธรรมท่านอุปมาเปรียบเป็นพระอรหันต์ของลูก ๆ เลยทีเดียว เพราะทุกอย่างที่พ่อแม่มอบให้แก่ลูก ๆ ในลักษณะของการให้เปล่า ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงดู การอบรมสั่งสอนให้ลูกเป็นคนดี ให้การศึกษาเพื่อประกอบอาชีพการงาน จนสามารถดำรงชีวิตอยู่รอดได้
.
สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ ถ้าคิดเป็นมูลค่าก็ไม่อาจประมาณค่าได้ ยากที่จะมีบุคคลอื่นใดที่สามารถมอบทรัพย์อันมากมายเช่นนี้ให้แก่ลูก ๆ ในลักษณะให้เปล่า พอที่จะพูดได้ว่า ผู้นั้นมีบุญคุณต่อลูก ๆ มากยิ่งกว่าบิดามารดาบังเกิดเกล้า ย่อมไม่มีแล้ว
.
เว้นไว้แต่บางรายที่พ่อแม่ไม่ได้เลี้ยงดูบุตรธิดามาแต่กำเนิด หรือพ่อแม่กระทำการไม่ดีต่อบุตรธิดา ก็อาจมีได้เป็นบางราย อันนี้ก็ต้องยกให้เป็นเรื่องของกรรมของแต่ละคนที่อาจเคยทำเกี่ยวเนื่องกันมา ซึ่งมีทั้งกรรมดีและกรรมไม่ดี
.
ธรรมท่านพูดไว้เป็นกลาง ๆ ไม่อาจครอบคลุมได้ทุกกรณี แต่ควรยึดหลักว่า พ่อแม่เป็นผู้ให้กำเนิด ให้ชีวิตแก่เรา บุตรธิดาอาจได้รับการเลี้ยงดูที่ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง หรืออาจไม่ได้รับการเลี้ยงดูเลย ก็เป็นไปตามกรรมของตัวเองที่เคยทำมาทั้งนั้น อาจเป็นกรรมไม่ดีในอดีตชาติที่ส่งผลมา ก็เลยทำให้ต้องมารับผลที่ไม่ดีในชาตินี้
.
ควรรู้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดกับเรา ย่อมมีเหตุพาให้เกิดทั้งนั้น ไม่มีสิ่งใดเกิดโดยไม่มีเหตุ เหตุก็คือกรรมดี กรรมชั่วที่เราเคยทำไว้นั่นแล เมื่อทำกรรมดีย่อมได้รับผลดี เมื่อทำกรรมชั่วก็ต้องได้รับผลชั่ว ธรรมท่านจึงสอนให้เราละชั่ว แล้วทำแต่กรรมดี จนถึงทำใจให้สงบผ่องใสและบริสุทธิ์ อันเป็นความดีขั้นสุดยอด
.
ให้จำไว้ว่า ถึงแม้จะมีใครมาทำไม่ดีแก่เรา อย่าว่าแต่พ่อแม่เลย ต่อให้เป็นคนอื่นก็ตาม ก็ไม่มีความจำเป็นใด ๆ ที่เราจะเอาการทำไม่ดีของคนอื่น มาเป็นเหตุผลเพื่อให้ตัวเองทำไม่ดีเหมือนเขา ไปตอบโต้เขาด้วยการทำไม่ดี ทำให้เราพลอยกลายเป็นคนไม่ดีไปด้วย
.
ใครทำไม่ดีก็ยกให้เป็นเรื่องของเขาเสีย เรื่องของเรา คือ เราต้องทำตัวเองให้เป็นคนดีเท่านั้น เพราะถ้าเราไม่หยุดทำชั่ว ผลแห่งกรรมชั่วนั้น ก็จะตามรังควานเราตลอดไปทุกภพทุกชาติ เราก็จะต้องได้รับทุกข์ทรมานเพราะผลแห่งกรรมชั่วนั้นไป ตราบเท่าที่เรายังไม่หยุดทำกรรมชั่ว
.
ในธรรมท่านสอนว่า “นิมิตตัง สาธุรูปานัง กะตัญญูกะตะเวทิตา” แปลความว่า “ความกตัญญูกตเวที เป็นเครื่องหมายของคนดี”
.
กตัญญูคือรู้คุณท่าน กะตะเวทีคือกระทำการตอบแทน ไม่ใช่แต่คนเท่านั้น แม้เป็นสัตว์ หรือสิ่งของ ต้นไม้ให้ร่มให้เงา ให้ดอกให้ผล ถ้ามีคุณต่อเราคือ เราได้อาศัยความดีของสิ่งเหล่านั้น ให้เรารู้คุณและกระทำการตอบแทนตามสมควรแก่ฐานะของสิ่งต่าง ๆ
.
เช่นพ่อแม่เลี้ยงดูเรามา เราก็ตอบแทนคุณท่านด้วยการช่วยเหลือหน้าที่การงาน แบ่งเบาภาระ เชื่อฟังคำสั่งสอนในทางที่ดี ทำตัวเป็นลูกที่ดี ว่านอนสอนง่าย ไม่เป็นอันธพาล เมื่อท่านแก่ชรา ก็ดูแลเอาใจใส่ เลี้ยงท่านตอบแทน ชื่อว่า เป็นลูกกตัญญู ไม่ต้องรอให้ท่านเอ่ยปากขอร้องก็ได้
.
แม้ต้นไม้ที่เราพักอาศัยร่มเงาเพียงชั่วพักชั่วครู่ เมื่อจากไปก็ไม่ควรไปหักกิ่งรานใบทำให้ต้นไม้เสียหาย แม้ถนนหนทาง สระน้ำ สิ่งอำนวยความสะดวกในที่สาธารณะต่าง ๆ ห้องน้ำ ห้องส้วม เมื่อใช้แล้วก็ควรช่วยกันรักษาความสะอาด อย่าไปทำให้สกปรกเลอะเทอะเสียหาย
.
อย่างนี้ชื่อว่า เป็นคนมีความกตัญญู รู้คุณสิ่งต่าง ๆ และกระทำการตอบแทนตามสมควรแก่ฐานะของสิ่งนั้น ๆ ว่า อันใดมีคุณมาก อันใดมีคุณน้อย ก็ตอบแทนกันไปตามสมควร ชื่อว่า เป็นคนดี เป็นผู้มีปัญญา
.
พอกลับจากบิณฑบาต ในศาลาก็มีศรัทธาญาติโยมมาทำบุญถวายภัตตาหารเต็มศาลา ซึ่งเป็นศาลาเก่า ๆ หลังเล็ก ๆ ก็ใช้มา ๔๐ กว่าปีแล้ว ยิ่งดูเล็กลงไปอีก ในพรรษาก็จะมีศรัทธาญาติโยมมารักษาศีล ทั้งศีล ๕ ศีลอุโบสถ ๑ วัน ๑ คืน ประมาณ ๒๐ คน ทุกวันพระตลอดพรรษา
.
ตอนค่ำก็พาทำวัตรสวดมนต์ ประมาณ ชั่วโมงครึ่ง แล้วพานั่งภาวนาไปอีก ๑ ชม. ประมาณ ๕ ทุ่ม-๖ ทุ่ม ก็แยกย้ายกันไปภาวนา หรือพักผ่อนตามอัธยาศัย ก็เป็นไปอย่างนี้ตลอดพรรษา ๓ เดือน
.
#ดอยแสงธรรม_๒๕๖๗_๐๘
โฆษณา