13 ส.ค. เวลา 01:56 • ความคิดเห็น
อยากให้ลองคิดตามนี้บ้าง
ถ้าเราอยู่ในสถานะเหมือนแม่
- อายุ 85
- ทำงานหนักมาตลอดชีวิต ทั้ง ๆ ที่จบแค่ ป.4
- ส่งลูก ๆ เรียนจบ เป็นเจ้าคน นายคนอย่างที่หวัง ถึงมันจะขลุกขลักบ้าง
- ตอนนี้ ช่วยตัวเองไม่ค่อยได้
- มีปัญหาสุขภาพหลายอย่าง กินยาวันละ 30 เม็ด
- มีแผลกดทับที่สะโพก และเป็นมาแล้ว ปีกว่า ๆ
- รอยแผลผ่าตัดทั่วตัว
- เวลาขับถ่าย ก็แสนลำบากเพราะสายสวนปัสสาวะที่ติดอยู่ตลอดเวลา
- จะอาบน้ำแต่ละที ต้องรอว่าจะว่างมีคนทำให้เมื่อไหร่
- มื้ออาหารแต่ละมื้อ ก็เป็นของแช่แข็ง เลือกกินอะไรก็แล้วแต่จะจัดให้ แม่ไม่เคยบ่น
- ทุกวันต้องดิ้นรนเพื่อให้ชีวิตอยู่รอด ด้วยตัวคนเดียว คนเดียวจริง ๆ
- วาระประจำปี ที่พอจะทำให้มีค่าในตัวเอง คือ วันตรุษฯ วันสาร์ทฯ ที่ยังคงนั่งพับกระดาษไหว้เจ้า มาพอ ๆ กับอายุตัวเอง
- คนรอบข้างมองว่า ไร้ค่า เพราะ ถ้ามองว่ามีค่า คงจะได้เวลามากกว่านี้
- คอยจะมีแต่คนว่า คนตำหนิ ทุกครั้งที่อ้าปากจะพูดอะไร เพราะคิดว่าเลอะเลือน ไร้สาระ ไร้คนรับฟัง
- แม่ที่มีแต่เสียงบ่น ที่คงจะน้อยลงทุกที ตามเวลาที่่เหลืออยู่ และ คนรอบข้างที่ค่อย ๆ หายไป
- ไม่เคยเอ่ยปากร้องขออะไร แค่ความใส่ใจบ้าง ถ้าพอมีให้
- คิดมากไหม ไม่รู้ ถ้าเป็นเราจะรู้สึกอย่างไร พูดแต่ว่าจะคิดมากไปทำไม ก็เพราะทุกคน ก็คนใกล้ชิดทั้งนั้น
- แม่คงเป็นแม่ที่รักลูกมาทั้งชีวิต และคงจะรักไปจนวันสุดท้าย
1
ความหวังว่า ถ้ามีเวลามานั่งฟังแม่บ่นเฉย ๆ หรือเล่าเรื่องราวเก่า ๆ เมื่อในอดีตที่พอทำให้ใจชื้น มีคุณค่ากับอดีตในความทรงจำ
ลองเทียบกับสิ่งที่แม่เจออยู่ทุกเสี้ยววินาทีขณะนี้ คงจะไม่ยากเกินไป คงไม่อยากรอให้ไปเจอกันปีละหน ตอนงานเช็งเม้ง ที่ทุกคนสละเวลาไปได้ทุกปี แต่ตอนนี้ จะรวมตัวกันอยู่กับแม่ สักครั้ง แค่สักครั้งในตอนที่ยังมีลมหายใจอยู่มันยากกว่า
โฆษณา