13 ส.ค. เวลา 02:51 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
Iconsiam

การวางจิตปรารถนาพระนิพพาน(Awakening) ควรวางอย่างไรให้ถูกต้อง เพื่อไปสู่นิพพานได้จริง

ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า สภาวะนิพพานในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ จะเรียกว่าวิมุตติญาณทัศนะ เป็นทัศนะที่ไม่ปรุงสุข ไม่ปรุงเฉยเมย ไม่ปรุงทุกข์ อยู่เหนือระบบสมมติธรรม เป็นวิมุตติธรรม หรือ วิราคะ คือไร้ราคะกิเลส ไร้ซึ่งจิตปรุงแต่ง เป็นอุเบกขา คือรู้แล้ววาง มีสภาวะรู้กายในกาย เปี่ยมด้วยปัญญาอุเบกขา ไม่มีการส่งจิตออกนอกอีก
#นิพพาน #นิโรธ
ทดสอบอารมณ์เมื่อเห็นข่าวนี้ จิตปรุงแต่งไปไกลไหม อยากรู้ไหม? เพ่งโทษที่เขารู้ไม่เท่าทันมิจฉาชีพไหม? หรือเพ่งโทษมิจฉาชีพไหม? ถ้าจิตยังปรุงดีปรุงชั่วแล้วไม่วาง แสดงว่าคุณยังต้องเดินมรรคอีกไกลและไม่ต้องท้อครับ เป็นเรื่องปรกติ
ส่วนสภาวะนิพพานหลังจากสิ้นชีวิต คือสภาวะที่ไม่มีขันธ์ห้าอีกต่อไป จึงเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ เพราะไม่มีการเกิดขึ้นของจิต เปรียบเสมือนพลังงานแห่งความว่าง มีอีกชื่อคือ สุญตาและนิโรธะ หรือ อสังขตธรรม คือธรรมชาติที่ไม่ถูกปรุงแต่งอีกแล้ว และแน่นอน มีสภาวะเป็นอนัตตา เป็นเนตังมามะ เป็นเนโสมัสมิ แปลว่า ไม่มีตัวตน ไม่มีตัวเรา ไม่ใช่ของเรา ไม่เป็นของเรา คือความว่าง เป็นสุขที่สุดเพราะไม่มีจิตอีกแล้ว สภาวะความเป็นสัตว์หรือสัตตานังจึงสูญ ดังนั้นนิพพานจึงมีอีกความหมายหนึ่งคือสูญ
ทดสอบจิตใจดูครับ เห็นรูปอาร์ตทอยพระพุทธหลากอิริยาบถ แล้วจิตคุณคิดไปในทางใด มีอกุศลที่ชื่อว่าราคะโทสะโมหะหรือไม่(นำไปสู่ทุคติ) ปรุงพอใจปรุงไม่พอใจมั้ย? หรือว่าวางใจเป็นกลางได้หรือยัง?
การที่คนเรามีความทุกข์ได้ก็เพราะมีจิต(มโน,วิญญาณก็เรียก) เมื่อจิตไปรับรู้สิ่งที่สัมผัสได้จากตาหูจมูกลิ้นกายและใจ สมองก็แปลงผลให้เกิดเวทนา คือความพอใจ ไม่พอใจ เฉยๆ ไม่ใส่ใจ เป็นต้น สภาวะทั้งหมดข้างต้นนั้น พระตถาคตสมณโคดมของเราทรงค้นพบว่ามันล้วนเป็นความทุกข์ทั้งสิ้น เพราะมีสรรพสิ่ง และมีวิญญาณเป็นผู้รับรู้ในสรรพสิ่ง แล้วไปนิยามความหมายให้ค่าว่าดี ว่าเลว ว่าไม่มีค่า ว่ามีค่า เป็นต้น ทำให้พวกเราไม่อาจจะหนีความจริงได้ว่าความทุกข์มันเกิดขึ้นเพราะจิตเราไปให้ค่ามันนั่นเอง
เชื่อไหมครับ บางคนรู้ตัวแล้วว่าโดนจิตตัวเองสร้างสมมติมาหลอนลวงจิตอีกที แต่ก็ไม่ยอมหนีสมมติ รู้ทั้งรู้ก็ยังคงยึดต่อไป เพราะชอบบ้าง เพราะไม่ชอบบ้าง ก็เลยทำให้หลุดพ้นระบบสังขตธรรมไม่ได้ยังไงล่ะครับ
ซึ่งสภาวะสูญนี้ ถึงจะใช้คำว่าสูญที่แปลว่าหมดสิ้น แต่สภาวะนี้ก็เป็นสภาวะที่มีอยู่จริง คือสภาวะว่าง เป็นสภาวะที่ไม่มีตื้นลึกหนาบางสูงดำต่ำขาวดีเลวสวยไม่สวยทุกข์สุข ไม่มีอะไรเลยที่จะสามารถเอามานิยามคำว่าสูญได้ นอกจากคำว่านิพพานเท่านั้น
ดังนั้นการนิพพาน จึงไม่ใช่ของมีไว้ให้เราไปปรารถนา แต่มีไว้เพื่อให้เราสละละทิ้ง การที่จิตจะไต่ระดับไปให้ถึงนิพพานจะต้องผ่านพ้นการละทิ้งทุกสิ่งที่ตรงข้ามกับอสังขตธรรมให้หมด คือทิ้งสังขตธรรมทั้งหมดนั่นเอง เช่น สภาวะนามต่างๆ อาทิ ความจำได้หมายรู้ ความคิดปรุงแต่ง ความรับรู้ในสัมผัสทั้งหก และความพอใจไม่พอใจหรือเฉยๆ จะต้องสามารถใช้ปัญญาในการพิเคราะห์พิจารณาจนแทงตลอดถ่องแท้ถึงความไม่มีตัวตนที่แท้จริง จะต้องรู้ให้ได้ก่อนว่านามและรูป(กาย)ไม่ใช่ของเรา ไม่ได้มีไว้เพื่อให้สัตว์คือเราไปยึดติด
เมื่อรู้แจ้งแทงตลอดด้วยปัญญาก็จะเกิดวิปัสสนาญาณ คือญาณรู้แจ้ง หรือญาณตื่นรู้ เมื่อตื่นรู้แล้วเราจะหลุดไปจากระบบสังขตธรรมหรือสมมติบัญญัติของมนุษย์ทั้งมวลได้ วิธีการรู้แจ้งแทงตลอดจนมีวิปัสสนาญาณทำได้ด้วยการดึงจิตกลับมาอยู่ที่ฐานจิต หรือวิหาร คือกายของเรา หนึ่งในกายของเราคือลมหายใจ การดึงจิตกลับมารู้ลมหายใจบ่อยๆ เมื่อมีความคิดก็ดึงจิตตัวรู้กลับมารับรู้การไหลผ่านเข้าออกของลมหายใจ ทำบ่อยเข้าๆ ก็จะเกิดสมาธิ เกิดฌาน(หมายถึงการจดจ่อ)
เมื่อจิตใจของเราสามารถจดจ่อแนบแน่นเป็นหนึ่งเดียวกับลมหายใจได้แล้ว ก็ให้ทราบรู้ถึงสภาวะสงบนิ่งนั้น ก่อนจะพิจารณากายคตาสติต่อไป กล่าวคือพิจารณาให้เห็นว่าภายใต้ความสงบนิ่งนั้น ก็ยังมีกิเลสอยู่ มีเวทนาอยู่ มีอึดอัด มีการดำเนินไปของสภาวะทางกาย แต่อาการเหล่านั้นมีเกิดก็มีตั้งอยู่ จะนานหรือไม่นาน แต่การตั้งอยู่นั้นย่อมจางคลายดับไป เป็นเช่นนี้ตลอดเวลา เมื่อรู้แจ้งเช่นนี้แล้วจิตจะเริ่มรู้ทันสมมติ และเบื่อหน่ายคลายกำหนัดจากระบบสมมติจนจิตไม่อยากจะเกิดดับอีกต่อไปแล้วเพราะรู้ทันและหน่ายในการเกิดดับ
จะเห็นได้ว่าสภาวะไปสู่นิโรธหรือการดับหรือการจะไปวิมุตติหรือสุญตาหรือนิพพาน หรืออสังขตธรรมฯลฯ จะเรียกว่าอะไรก็ตาม ไม่อาจจะไปได้ด้วยความอยากหรือความปรารถนาต้องการ แต่จะต้องเลื่อนระดับไปเองด้วยปัญญาญาณที่รู้ทันความไม่มีตัวตน ไม่ใช่ของที่เราจะไปสำคัญหมายควบคุมให้เป็นไปดั่งใจสัตว์ได้ จากนั้นสัตว์ก็จะสลัดทิ้งการยึดติดในอุปาทานไปได้ มีความสุขแบบวิมุตติได้ทันทีในขณะยังมีชีวิตอยู่ วิธีการไปนิโรธไม่ได้ยากเกินไป ทุกคนทำได้ ถ้าจิตตั้งใจตั้งมั่นที่จะไม่ถูกสมมติมาหลอก ยังไงๆก็รอดพ้นวัฏสงสาร ปรินิพพานได้แน่นอน
แอดมินอนัตตา แห่งเพจเฟ๊ซบุ๊คธรรมะแฟนตาซี
โฆษณา