13 ส.ค. เวลา 04:49 • ครอบครัว & เด็ก
ออกตัวก่อนว่า เราเป็นคุณอาสาวโสด ที่ต้องรับหน้าที่ช่วยเหลือพี่ชายพี่สะใภ้เลี้ยงหลานๆ มาตั้งแต่พวกเขาเพิ่งลืมตาดูโลก จนตอนนี้จบป.ตรีกันหมดแล้ว บางคนอยู่ระหว่างศึกษาต่อ บางคนก็ทำงานแล้ว คนที่มีแฟนมีปัญหาหัวใจ ต้องมาปรึกษาเราประจำ ไม่กล้าปรึกษาพ่อแม่
1
สำหรับหลานชาย ตอนที่พวกเขายังแบเบาะ เราก็แอบสังเกตว่าเขาจับกระจู๋เล่นแล้ว แต่หากเราทำตาโต แสร้งเงื้อมือจะตี เขากลับจะหัวเราะเอิ๊กอ๊ากเล่นต่อไม่หยุด พิสูจน์ได้ว่า Sex Drive นั้น ฝังลึกอยู่ในจิตใต้สำนึกตั้งแต่เกิดแล้ว โดยเฉพาะเพศชาย เราจึงใช้เทคนิค "เบี่ยงเบนความสนใจ" เราอุ้มเขาขึ้นมา หอมแก้มเบาๆ แล้วก็พาไปดูโน่นนี่ คุณจะสังเกตว่า เราหอมแก้มเขาเบาๆ แต่เขาไม่รู้สึกว่านี้คือการถูกกระตุ้นด้วยกามารมณ์แบบเพศชายวัยเจริญพันธุ์ เรายังเคยแอบเห็นหลานชายวัยรุ่น masterbate ในห้องนอนมาแล้ว!
1
เราเป็นคนรักเด็กๆมาก หนังสือความรู้เกี่ยวกับเด็ก พี่สะใภ้ซื้อมาแต่ไม่มีเวลาอ่าน กลับเป็นเราที่หยิบมานั่งอ่าน มันทำให้เราได้ข้อสรุปว่า วัฒนธรรมปกปิดเรื่องเกี่ยวกับเพศ มีผลเสียต่อการเรียนรู้ร่างกายและจิตใจของเด็ก เด็กๆควรจะต้องสามารถแยกแยะ "ความต้องการทางกาย" และ "ความต้องการทางใจ" และการที่เราหอมแก้มเขา ก็คือการสร้างสมดุลในการเรียนรู้ความต้องการทางใจ และความต้องการทางกาย (หิว, เซ็กส์, ร้อน, หนาว) เด็กๆจะเรียนรู้ว่า คนที่อุ้มเขา หอมแก้มเขา คือคนที่คอยให้ความ secure ด้านจิตใจเท่าน้ันเอง
1
สำหรับหลานสาว เรากลับไม่เคยพบพฤติกรรมการเล่นอวัยวะเพศตอนแบเบาะ เมื่อถึงวัย toddler เตาะแตะ เราจับมาอาบน้ำพร้อมเรา ค่อยๆสอนให้ล้างของสงวนด้วยตัวเอง แล้วบอกว่า "ตรงนี้ต้องล้างให้สะอาด อย่าให้มีอะไรเข้าไป เพราะมันจะทำให้หนูมีเลือดออก เราอาบน้ำเสร็จแล้ว เราก็ต้องใส่เสื้อผ้าปิดเอาไว้ด้วยนะ"
1
กลับมาที่คำถามของคุณ สิ่งที่เราสาธยายมา ก็เพื่อจะให้คุณเริ่มที่ตัวเองก่อน หมายถึงว่า มีทัศนคติเรื่องเพศที่ถูกต้องเสียก่อน เรื่องเพศไม่ควรจะเป็นเรื่องที่ต้องปกปิดกันอีกต่อไป เวลาลูกๆ ถามคุณเรื่องเพศ คุณต้องวางมือถือลง ให้ความสนใจ นั่งระดับเดียวกับเขา แล้วตอบเขาให้ชัดเจนที่สุด หากเป็นเรา เราจะตอบว่า "หนูเป็นผู้หญิงค่ะลูก และพี่เค้าก็เป็นผู้ชาย หนูมีเหมือนคุณแม่ พี่เค้าก็มีเหมือนคุณพ่อ" แต่เราจะถามเขาต่อไปว่า "แล้วหนูรู้ได้ยังไง ว่าตรงนั้นของพี่เค้าไม่เหมือนของหนู พี่เค้าเปิดให้หนูดูเหรอคะ?"
1
ถึงตรงนี้ มันเป็นท่อนคำถามสำคัญมาก คุณต้องใจเย็น เพื่อจับสังเกตการตอบคำถาม หากลูกสาวคุณแสดงท่าทีเขินอายหรือตกใจ แสดงว่าน้องรู้สึกได้ว่ามันเป็นเรื่องผิดปกติ อย่างนี้น้องพอจะมี sense แต่คุณต้องแสดงท่าทีปกติยิ้มใจเย็น แล้วรุกต่อเพื่อสรุปบทเรียนให้ลูกสาวว่า "หนูเห็นไหมว่า เราทุกคนต้องสวมใส่เสื้อผ้าตลอดเวลา เพื่อปิดบังอวัยวะสำคัญค่ะลูก เปิดให้ใครดูไม่ได้นะ พี่เค้าเป็นเด็กไม่ดีนะ"
1
กลับกัน หากลูกสาวคุณแสดงสีหน้าเรียบเฉย นั่นแปลว่าน้องยังขาด sense ยังเข้าใจไม่ได้ หรือไม่ก็เป็นน้องนั่นเอง ที่เป็นฝ่ายไปขอดูของพี่เค้า เด็กสาวหลายคนมีอุปนิสัยที่เกิดจากการ spoiled จึงกล้าแสดงความต้องการของตัวเองอย่างชัดเจน ตรงนี้คุณต้องบอกน้องว่า "หนูเป็นผู้หญิง และหนูก็เป็นเด็กดีใช่ไหมคะลูก เด็กดีจะต้องไม่ไปขอให้คนอื่นทำอะไรแบบนั้น เพราะมันเป็นอวัยวะสำคัญของเขา"
1
ผู้มีชื่อเสียงท่านหนึ่ง อยากได้ลูกชายมาก
ถึงขั้นไปนั่งปฏิบัติสมาธิเพียงเพื่อจะขอลูกชาย
สุดท้าย ท่านก็ได้ลูกชายสมใจ ท่านเล่าว่า
ท่านอาบน้ำกับลูกชายตั้งแต่ลูกยังเล็ก
สอนเรื่องอวัยวะต่างๆ รวมทั้งอวัยวะเพศด้วย
และยังสอนด้วยว่า ถ้ามีความต้องการ
มันจะมีอยู่แค่ 3 ทาง คือ เบี่ยงเบนความสนใจ
ปลดปล่อยกับตัวเอง หรือปลดปล่อยกับสาวๆ
แต่วิธีสุดท้าย มันจะสร้างภาระและก่อกรรมเวรไม่จบสิ้น
คือเราฟังแล้ว...อึ้ง!!
(ผู้หญิงคนไหนได้สามีที่มีทัศนคติแบบนี้คือวาสนาดีมากๆ)
1
โฆษณา