ตู้เต่าบิน บินสมชื่อ (แต่ไม่รู้ว่าบินขึ้น หรือบินลง)
.
คุณเคยสงสัยมั้ยครับว่าตู้เต่าบินจะไปรอดมั้ย ? ยอดขายต่อตู้ลดลง กระแสที่เคยมีในโซเชียลตอนเปิดตู้ใหม่ๆ ก็หายไปแล้ว เรื่องนี้คือวิกฤตหรือโอกาสครับ ?
.
สำหรับผม ด้วยความสงสัย อาทิตย์ที่ผ่านมาผมเลยไปใช้บริการตู้เต่าบินเกือบทุกวัน ซื้อเครื่องดื่ม สะสมกระดอง รอชิงโชค ยืนดูหน้าตู้ว่ามีคนซื้อมั้ยและมีใครซื้อบ้าง จนได้ข้อสังเกตุมา 5 ข้อ เลยขอเอามาแชร์ในบทความนี้ครับ
.
1. ยอดขายช่วงนี้ดีกว่าที่คิด
ต้องบอกก่อนครับว่า ตัวเลขยอดขาย 12 เดือนที่ผ่านมาของเต่าบินไม่ดีเลย ทำให้ผมมีตัวเลขในใจที่ค่อนข้างต่ำก่อนจะไปยืนดูที่ตู้
Q2 ปีที่แล้ว 217,333 แก้วต่อวัน
Q2 ปีนี้ 182,222 แก้วต่อวัน (ลดลง 16%)
แต่ช่วง 7-10 วันที่ผ่านมา ยอดขายที่เต่าบินทำได้คือ 210,000 แก้วต่อวัน ! อาจจะยังไม่มากเท่าปีที่แล้ว แต่มันก็มากพอที่จะทำให้ผมประหลาดใจ เพราะผมคิดว่ายอดขายเต่าบินอาจจะลดลงต่อเนื่อง โดยเฉพาะตอนนี้ ที่คนไม่ได้ตื่นเต้นกับการกดตู้เต่าบินอีกแล้ว
ปล. ยอดขายทั้งประเทศมีรายงาน Real time นะครับ ไม่ใช่ข้อมูล inside :)
.
.
.
2. คนซื้อส่วนใหญ่เป็นเด็กรุ่นใหม่ อายุไม่เกิน 15 รองลงมาเป็นคนวัยทำงานอายุประมาณ 25-35 ปี
.
ระหว่างที่ผมยืนดูอยู่หน้าตู้ มีเด็กคนหนึ่งเดินมา อายุประมาณ ป.2 พอเดินมาผมก็แอบคิดในใจว่า “เด็กจะกดตู้เป็นมั้ย เพราะมันมีหลายขั้นตอน ตั้งแต่สั่งเครื่องดื่ม จ่ายเงิน และใส่เบอร์สะสมแต้ม”
.
ปรากฏว่า โอ้โห น้องเค้ากดคล่องมากครับ ไม่เกิน 3 วินาทีสั่งเสร็จ กดจ่ายเงินด้วยเงินสดเรียบร้อย จากนั้นใช้เวลาอีกประมาณ 5 วินาทีใส่เงิน 40 บาทเข้าไปในตู้… แต่น้องเค้าก็เจอปัญหาถัดมา “เครื่องไม่มีเงินทอน เลยถามว่าจะดำเนินการต่อมั้ย แต่เงินทอนจะถูกเก็บเป็นเงินสะสมในไอดีแทน”
.
น้องเค้ากด “ยกเลิก” ผมก็แอบคิดในใจ “สงสัยเริ่มซับซ้อนไป เด็กเลยงง”... จากนั้นอีก 2 วินาที น้องยกมือถือขึ้นมาอย่างคล่องแคล่ว แล้วกดที่ตู้ว่าจ่ายเงินผ่าน True Money พร้อมแสกนน์เรียบร้อย แล้วก็มายืนรอเครื่องดื่มแบบชิวๆ
.
เรื่องนี้ตอกย้ำให้ผมเห็นว่า
- เด็กสมัยนี้ใช้ Digital tool เก่งกว่าพวกเราตอนอายุเท่ากันมาก
- เต่าบินดูมีอนาคตถ้าบริษัทสามารถทำการตลาดให้คนรุ่นใหม่กินอย่างต่อเนื่องได้
- คนรุ่น 50+ ไม่น่าใช่กลุ่มเป้าหมายของตู้เต่าบิน กดยาก (สำหรับคนที่ไม่ถนัด Digital tool) แถมเมนูหลากหลายดูแปลกๆ ไม่ใช่สิ่งที่คนวัยเก๋ามองหา
.
.
.
3. ทำเลสำคัญมากๆ
.
ลูกค้าเต่าบินส่วนใหญ่ ไม่ได้เดินมาเพื่อซื้อเต่าบินโดยเฉพาะ แต่พวกเค้าเดินผ่านแล้วเกิดอยากกิน เลยกดสั่ง โดยเฉพาะเด็กๆ พวกเค้าไม่คิดมากเลยครับ เดินมาเห็นตู้น่ารัก มีเด็กคนอื่นกดสั่งอยู่ ก็เลยอยากมาสั่งบ้าง
.
เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่า ตำแหน่งวางตู้สำคัญมากๆ ถ้าไปวางอยู่ในบริเวณที่คนไม่เดินผ่าน หรือเดินผ่านแล้วไม่อยากหยุด (เช่นที่ร้อนๆ กลิ่นควันรถแรงๆ) ตู้จะเหงามา… เราต้องไม่ลืมครับ ว่าตู้นี้ยังไงก็ต้องใช้เวลาชง 2-3 นาที ซึ่งถ้าลูกค้าร้อนมากๆ ระหว่างยืนรอ ลูกค้าจะไม่กลับมากินซ้ำอีก
.
.
.
4. การตลาดเริ่มมา
.
ลูกค้าส่วนใหญ่เลือกเมนูที่บริษัทกำลังโฆษณา ออกใหม่ หรือสีสันน่ากิน อย่างผมเอง โดยส่วนตัวไม่ชอบมิ้น แต่พอเห็นเมนูช๊อคมิ้นเย็นสีสันน่ากิน ยังอยากกดมากินเลย
.
อีกอย่างหนึ่งคือ โปรโมชั่นชิงโชคทำให้ลูกค้าอยากใส่เบอร์โทรศัพท์ (เปิดไอดีเต่าบิน) มากกว่าสมัยก่อนเยอะมาก ผมแทบไม่เห็นลูกค้าคนไหนไม่ใส่เบอร์โทรศัพท์เลย คนไทยนักเสี่ยงโชคอยู่แล้วครับ 🙂
.
.
.
5. หนทางอีกยาวไกล
.
เรื่องนี้ผมว่าเป็นหนังยาวครับ ถึงแม้ผมจะสงเกตุเห็นข้อดีหลายอย่างตลอดเวลาที่ยืน Scuttlebut ตู้เต่าบิน แต่ต้องยอมรับว่า ผลงานที่ผ่านมาของเต่าบินน่ากังวลอย่างมาก จากที่เคยขายได้ 40+ แก้ว/ตู้/วัน ในช่วงที่เป็นกระแส เหลืออยู่แค่ 28 แก้ว/ตู้/วัน ใน Q2 ปีนี้
.
กำไรของเต่าบินที่เคยทำได้ที่ 64 ล้านบาทเมื่อ Q2 ปีที่แล้ว เหลืออยู่เพียง 24 ล้านบาทใน Q2 ปีนี้ ตกลงมาตามจำนวนแก้วที่ขายได้น้อยลง
.
ถ้ามองจากผลงานใน 2 ปีที่ผ่านมา เต่าบินถือเป็นบริษัทที่ยังเหมือนวนอยู่ในถ้ำ ยังไม่เห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์เลย แต่นักลงทุนควรมองไปข้างหน้าเสมอ คำถามสำคัญไม่ได้อยู่ในอดีต แต่อยู่ในอนาคต
.
.
.
คิดว่าตู้เต่าบินจะไปรอดมั้ย ? เต่าตัวนี้จะบินขึ้นหรือบินลง ?
.
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคุณนะครับ
#Salarymanติดปีก #มาลงทุนหุ้นแข็งแกร่งกันครับ
▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃
หากคุณเป็นนักลงทุน ที่ทำควบคู่งานประจำ
หรือชอบเนื้อหาของ Salaryman ติดปีก
ฝากกดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม
เพื่อเป็นกำลังใจให้กับเรา
และจะได้ไม่พลาดเนื้อหาใหม่ๆ ของเรา ด้วยนะครับ
▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
