15 ส.ค. เวลา 07:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ก.อุตฯ ยันรู้พิกัดเรือขนสารพิษ เร่งสกัดห้ามเข้าไทย

กระทรวงอุตสาหกรรม ยืนยันรู้พิกัดเรือขนสารพิษ 2 ลำแล้ว หลังมีกระแสข่าวมุ่งหน้าเทียบท่าเรือแหลมฉบังในไทย 20 ส.ค. 67 พร้อมเกาะติดสถานการณ์สกัดเข้าไทย
กรณีมีกระแสข่าวของสื่อต่างประเทศ ระบุว่าจะมีเรือบรรทุกสารพิษ จำนวน 2 ลำ ขนสารพิษประเภทฝุ่น ที่เกิดจากกระบวนการผลิตเหล็กด้วยเตาอิเล็กทริกอาร์กเฟอร์เนซกว่า 100 ตู้ ต้นทางจากประเทศอัลบาเนีย มุ่งหน้าเข้าเทียบท่าเรือแหลมฉบังประเทศไทย ในวันที่ 20 สิงหาคม 2567 ที่จะถึงนี้ ล่าสุดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม รู้พิกัดของเรือดังกล่าวแล้ว พร้อมสกัดไม่ให้เข้าไทย
พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม
นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวถึงกรณีที่มีการแจ้งเตือนเรือบรรทุกสารพิษ ซึ่งมีการรายงานว่าขนสารพิษประเภทฝุ่นใส่ตู้คอนเทนเนอร์กว่า 100 ตู้ อาจจะมุ่งหน้ามาขึ้นฝั่งที่ท่าเรือแหลมฉบังของไทยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล กระทรวงคมนาคม กระทรวงอุตสาหกรรม เร่งตรวจสอบจนทราบพิกัดของเรือดังกล่าวแล้ว
เบื้องต้นพบว่ายังไม่ได้มุ่งหน้ามาที่ประเทศไทย แต่ก็ได้มีการตรวจสอบข้อมูลในทางลับเพื่อสกัดไม่ให้เข้ามาในประเทศ พร้อมตรวจสอบว่าต้นทางการขนส่งถูกต้องหรือไม่.....นางสาวพิมพ์ภัทรากล่าว
เข้มเกาะติดสถานการณ์ พร้อมประสานงานทุกภาคส่วนยกระดับการเฝ้าระวัง
ตัวแทนสายเรือ ยันไม่มีเส้นทางเดินเรือประจำในไทย
ขณะที่ข้อมูลจากกระทรวงคมนาคม โดยนายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ได้รับการยืนยันจากตัวแทนสายเรือว่าเรือทั้ง 2 ลำ เป็นเรือในเครือของ Maersk Campton จดทะเบียนในธงอังกฤษ ไม่ได้เป็นของ Maersk แต่เป็นเรือที่ได้รับสัญญาเช่าในนาม Maersk เพื่อขนส่งสินค้า ไม่มีเส้นทางการเดินเรือประจำในไทย จึงไม่ได้มีกำหนดเข้าไทย และพบว่าเรือที่เป็นข่าวลำแรกอยู่ในบริเวณทะเลฝั่งทวีปแอฟริกา ส่วนเรืออีกลำอยู่ระหว่างเดินทางไปสิงคโปร์
เบื้องต้นได้สั่งการให้ท่าเรือแหลมฉบังเกาะติดสถานการณ์ พร้อมประสานงานทุกภาคส่วนยกระดับการเฝ้าระวัง เพื่อความไม่ประมาท และป้องกันการลักลอบนำสารพิษเข้ามาในประเทศ โดยเป็นไปตามระเบียบ การท่าเรือฯ ว่าด้วยวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับสินค้าอันตรายของท่าเรือแหลมฉบัง พ.ศ.2559 ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบเอกสารล่วงหน้า 24 ชั่วโมง ก่อนเรือสินค้าเทียบท่า นอกจากนี้ยังประสานร่วมกับสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อเร่งตรวจสอบหากมีการนำเข้าตู้สินค้าดังกล่าว
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ : https://www.pptvhd36.com/wealth/economic/230497
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
โฆษณา