เชื้อ "ลิสทีเรีย" มัจจุราชอาหารแช่แข็ง
ก่อนอื่นต้องขออภัยเป็นอย่างสูงครับที่หายไปนานถึง 2 สัปดาห์ ถ้าใครอยู่ในแวดวงราชการโดยเฉพาะโรงพยาบาลรัฐจะทราบดีว่าช่วงปลายปีงบประมาณแบบนี้(ส.ค.-ก.ย.) จะมีโครงการตรวจประเมินนั่นโน่นนี่เยอะมาก ประกอบกับบุคลากรในโรงพยาบาลเหลือน้อยลง ทำให้ต้องขึ้นเวรติดต่อกันหลายวัน แถมยังต้องเตรียมงานประเมินอีก จึงขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
แต่วันนี้กลับมาแล้ว และกลับมาพร้อมกับข่าวที่น่ากังวลจากสมาคมโรคติดต่อของอเมริกาอย่าง CDC ที่แม้ตอนนี้ทุกคนจะจับตามองไปที่การระบาดของฝีดาษลิงที่ WHO ยกระดับการเฝ้าระวัง แต่ก็มีอีกความน่ากังวลเกิดขึ้น และเกิดขึ้นในประเทศผู้นำโลกเสรีอย่างสหรัฐอเมริกา ซึ่งออกมายืนยันแล้วว่าพบผู้เสียชีวิตรายที่ 3 ในระยะเวลาเพียงเดือนเศษๆ จากการบริโภคอาหารแช่แข็งที่ปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อว่า "ลิสทีเรีย"
เชื้อ "ลิสทีเรีย" หรือ ลิสทิเรีย โมโนไซโตจีเนส (Listeria monorytogenes) เป็นเชื้อแบคทีเรียเพียงตัวเดียวในตระกูล Listeria ที่ก่อโรคในมนุษย์ ถูกค้นพบครั้งแรกในปี
1924 เชื้อดังกล่าวทำให้เกิดโรคลิสเทอริโอซีส (Listerios) ซึ่งมีอาการโลหิตเป็นพิษ
โดยเชื้อโรคจะไปที่เม็ดเลือดขาว เชื้อสามารถเจริญทำให้เม็ดเลือดขาวแตกและเกิดโรคโลหิตเป็นพิษ
โดยหากเชื้อนี้เจริญในเซลล์ของผู้ป่วยและกระจายไปสู่สมองและไขสันหลัง จะทำทำให้เกิดโรคเยื่อหุ้มสมองและไขสันหลังอักเสบ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงนี้อาจเกิดภาวะ shock และเสียชีวิตได้ ในหญิงตั้งตั้งครรภ์เชื้อนี้จะแพร่ผ่านทางรกไปสู่ตัวอ่อน ทำให้เกิดการเสียชีวิตของทารกในครรภ์
เชื้อดังกล่าวสามารถเจริญเติบโตได้ที่อุณหภูมิตั้งแต่ 0-37 องศาเซลเซียส โดยต้องใช้ความเย็นถึง -18 องศาเซลเซียส เพื่อหยุดการเพิ่มจำนวนของลิสทีเรีย และต้องใช้ความร้อนถึง 70 องศาเซลเซียส ถึงจะฆ่าเชื้อดังกล่าวได้ มีรายงานว่าลิสทีเรียสามารถอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานถึง 12 วัน และในสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม เช่น ในนมผง สามารถอยู่ได้นานถึง 16 สัปดาห์เลยทีเดียว โดยระยะฝักตัวหลังได้รับเชื้อมักอยู่ที่ 1-6 สัปดาห์ และนานที่สุดที่มีรายงานบันทึกไว้คือ 3 เดือน
ที่ที่ลิสทีเรียชอบอยู่มากที่สุดคือ เนื้อสัตว์ที่ปรุงไม่สุก โดยเฉพาะเนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อปลา นมผง เนยแข็ง พบได้น้อยในผักสด นอกจากนี้ยังอยู่ได้ในอุปกรณ์ที่ใช้ผลิตอาหาร เช่น เครื่องมือในการตัด แบ่ง บดอาหาร ท่อน้ำ เป็นต้น
นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา อเมริกาพบผู้ป่วยจากเชื้อลิสทีเรียแล้วมากถึง 43 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยที่พบในช่วงตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมามากถึง 9 รายและเสียชีวิตถึง 3 ราย ในขณะที่ 3 รายยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล โดยส่วนใหญ่มักเกิดจากการบริโภคอาหารที่ปรุงไม่สุกและอาหารที่เก็บไว้เป็นเวลานาน
ในไทยตอนนี้ยังไม่มีรายงานที่น่ากังวลเกี่ยวกับเชื้อดังกล่าว แต่ถ้าใครที่มีปัจจัยเสี่ยงหรือต้องเข้าไปอยู่ในบริเวณที่มีการระบาดของเชื้อดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หญิงตั้งครรภ์ เด็กทารก ผู้สูงอายุ ควรเตรียมตัวป้องกัน ซึ่งทำได้โดยการบริโภคผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ที่ปรุงสุกด้วยความร้อน 70 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 2 นาที ไม่ดื่มนมที่ไม่ผ่านการพาสเจอไรซ์ ไม่ควรบริโภคอาหารเหลือที่เก็บไว้นาน รวมถึงล้างอุปกรณ์ประกอบอาหารให้สะอาดอยู่เสมอ
อ้างอิง
- 25
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
