กรุ่นกลิ่นดอกไม้ ตอนที่ 53 สุคนธบำบัด
“อาบน้ำก่อนดีกว่า”
ออกมาจากห้องทำงานหญิงสาวก็ตรงเข้าห้องนอนตระเตรียมอาบน้ำ เพื่อจะนอนหลับพักผ่อนให้คลายความเหนื่อยล้าหลังจากที่นั่งทํางานหลังขดหลังแข็งมาเป็นเวลาหลายชั่วโมง
“หอมดีจัง”
หลังจากล้างหน้าแปรงฟันเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอก็เดินตรงไปที่ตู้อาบน้ำก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบฝักบัว หญิงสาวชอบอาบน้ำอุ่น ๆ เธอเปิดน้ำแล้วชโลมไปทั่วร่างกายก่อนที่จะกดครีมอาบน้ำกลิ่นกุหลาบมอญที่หอมละมุนออกจากขวดใส่ลงบนใยบวบขัดผิวแล้วนำมาถูตามลำตัวเบา ๆ เพื่อขจัดสิ่งสกปรกและเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วให้หลุดไป หญิงสาวใช้เวลาอยู่ในตู้อาบน้ำนานเกือบครึ่งชั่วโมงก่อนที่จะพาร่างระหงออกมาหยุดอยู่ตรงหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง
"ห๊อมหอม"
เธอกดเซรั่มจากขวดใส่ฝ่ามือแล้วนำมาตบเบา ๆ จนทั่วใบหน้า เสร็จแล้วก็หยิบหลอดครีมบำรุงผิวมารีดเนื้อครีมลงในฝ่ามือก่อนที่จะนำมาลูบไล้ตามร่างกาย
“สดชื่นดีจัง”
หลังจากประทินผิวจนเสร็จสิ้นกระบวนการแล้วเธอก็ตรงไปที่ตู้เสื้อผ้าเพื่อหยิบชุดนอนมาสวมใส่ ก่อนที่จะเดินไปเปิดลิ้นชักเพื่อหยิบกล่องไม้ขีดไฟมาจุดเทียนหอมอย่างเคย
“กลิ่นนี้ก็หอมดี”
เธอพึมพำกับตัวเองเมื่อได้กลิ่นของกระดังงาซึ่งเป็นดอกไม้หอมในเขตร้อน ที่มีคุณสมบัติช่วยให้ใจเย็น รู้สึกผ่อนคลาย ลดความกระวนกระวาย ช่วยให้นอนหลับสบาย และกลิ่นหอมเข้มข้นของกระดังงายังช่วยสร้างบรรยากาศแห่งความรักรัญจวนใจได้อีกด้วย
“นอนก่อนดีกว่าไว้พรุ่งนี้ตอนเช้าค่อยปรึกษาเรื่องโปรดักส์ตัวใหม่กับคุณพ่อ”
พึมพำกับตัวเองแล้วหญิงสาวก็ทิ้งร่างระหงลงบนฟูกหนา
“กี่โมงกี่ยามแล้วเนี่ย”
เธอตั้งคำถามพร้อมกับเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ตรงโต๊ะหัวเตียงเพื่อจะดูเวลา
“อ้าว คุณหมอพิธานโทรมาตอนไหน"
หญิงสาวดูเวลาจึงรู้ว่าหมอพิธานโทรมาเมื่อ 30 นาทีก่อนตอนที่เธอกำลังอาบน้ำ
“มีเรื่องอะไรหรือเปล่าเขาถึงได้โทรมาตอนจะ 4 ทุ่ม” หญิงสาวพึมพำอยู่กับตัวเอง
“หรือเราจะโทรกลับไปดี” เธอสองจิตสองใจก่อนที่จะกดกลับไป
“เงียบ ไม่รับสาย น่าจะกำลังยุ่ง”
หญิงสาวกดตัดสาย แล้ววางโทรศัพท์ไว้ที่โต๊ะหัวเตียงอย่างเดิม ก่อนที่จะดึงผ้าห่มมาห่มแล้วกดสวิตช์ตรงหัวเตียงเพื่อปิดไฟ
“นอนก่อนดีกว่า ไม่ไหวแล้ว ง่วง”
เธอพึมพำพร้อมหลับตา หญิงสาวนอนกระสับกระส่ายพลิกไปพลิกมาอยู่ครู่เดียวก็หลับผล็อย
“อ้าว คุณนัสรินโทรกลับมาเหรอเนี่ย?”
ออกมาจากห้องผ่าตัดหมอพิธานก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อดูเวลาจนได้เห็นว่าหญิงสาวโทรกลับมา
“ไว้คืนพรุ่งนี้ค่อยโทรไปคุย นี่มันจะตีหนึ่งแล้ว ง่วงก็ง่วง เหงาก็เหงา เมื่อตอนกลางวันอุตส่าห์ไปก็ไม่ได้คุย"
หมอหนุ่มได้แต่บ่นพึมพำอยู่กับตัวเอง
คืนนี้เขาต้องอยู่เวรจนถึงเช้าและทำงานต่อจนถึงสี่โมงเย็น
"หวังว่าจะไม่มีอุบัติเหตุหนัก ๆ เหมือนเคสเมื่อสักครู่อีกนะคืนนี้"
หมอพิธานกังวลเพราะเมื่อสักครู่เขาเพิ่งทำการผ่าตัดรักษาคนเจ็บจากกรณีอุบัติเหตุรถมอเตอร์ไซค์ล้มเนื่องจากเมาแล้วขับ ซึ่งกรณีแบบนี้มักจะเกิดขึ้นเป็นประจำทุกค่ำคืน บ้างบาดเจ็บเล็กน้อย บ้างอาการหนักปางตาย และนี่ก็เป็นเรื่องที่น่าหนักใจเพราะดูเหมือนว่าจะไม่สามารถแก้ไขให้เหตุการณ์แบบนี้ลดลงไปได้ หมอหนุ่มนั่งครุ่นคิดจนเผลอหลับคาเก้าอี้
……….
“อากาศยามเช้าดี๊ดีนะคะคุณพ่อ” หญิงสาวชวนคุณพ่อของเธอคุยด้วยน้ำเสียงสดใส
“ใช่ลูก” พ่อเลี้ยงอนันต์ตอบรับบุตรสาวคนเดียวของเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
วันนี้หญิงสาวตื่นมาตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อตามคุณพ่อของเธอเข้ามาในแปลงดอกไม้ที่ตอนนี้ชวนพากันชูช่อไสวอวดความงามในยามเช้า
“อีกไม่นานฝนก็คงจะเริ่มโปรยลงมาบ้างแล้วล่ะพ่อว่า”
“ฝนโปรยลงมาบ้างก็ดีซิคะ ต้นไม้จะได้ชุ่มฉ่ำดอกผลจะได้โต ๆ”
“ใช่ ไปลูก…เรากลับไปกินมื้อเช้ากันก่อนดีกว่าป่านนี้คุณแม่เขาคงเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว”
“ค่ะคุณพ่อ”
สองคนพ่อลูกพากันเดินดูคนงานเขาตัดดอกไม้ชนิดต่าง ๆ ชวนกันคุยเรื่องดินฟ้าอากาศจนเริ่มมีแสงแดดจึงได้พากันเดินกลับมาที่คาเฟ่
“กลับมากันแล้วเหรอจ๊ะคุณพ่อคุณลูก”
“ค่ะคุณแม่”
"วันนี้มีอะไรกินบ้างครับคุณ"
พ่อเลี้ยงอนันต์ถามภรรยาของเขาพร้อมกับขยับเก้าอี้ลงนั่ง
"วันนี้มีโดซ่ากับซาโมซ่าค่ะคุณ"
"หน้าตาน่าจะอร่อยนะครับคุณ"
"อร่อยสิคะ" นฤมลตอบกลับด้วยมั่นใจในฝีมือของตัวเอง
เมนูของเช้าวันนี้มีโดซ่าที่ทำมาจากข้าวและถั่วหมักที่มีลักษณะคล้าย ๆ กับเครป เป็นแป้งทอดแผ่นบางกรอบสอดไส้ด้วยเครื่องเทศ และซาโมซ่าที่มีลักษณะเป็นแป้งทอดรูปสามเหลี่ยมที่มีไส้อยู่ข้างใน กินคู่กับ “ชัทนีย์” น้ำจิ้มสีเขียวที่มีส่วนผสมของใบสะระแหน่ ผักชี หัวหอม พริกเขียว เกลือ น้ำมะนาว และน้ำเปล่า และที่ขาดไม่ได้บนโต๊ะอาหารจะต้องมีคือชาดอกไม้กับน้ำกุหลาบ
“กอลอยากจะปรึกษาคุณพ่อเรื่องโปรดักส์ตัวใหม่ของเราค่ะ คือว่า กอลอยากจะผลิตน้ำมันหอมระเหยค่ะคุณพ่อ กอลอยากทำในรูปแบบน้ำมันสกัดร้อยเปอร์เซ็นต์ แบบธูป แบบเทียนหอม และแบบสเปรย์ค่ะ”
“ได้ซิลูก กอลอยากได้กลิ่นอะไรบ้าง บอกพ่อมาได้เลย เดี๋ยวพ่อจะจัดเตรียมวัตถุดิบไว้ให้ เรามีโรงผลิตมีเครื่องสกัดอยู่พร้อมแล้วไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”
"ขอบคุณค่ะคุณพ่อ"
ระหว่างมื้ออาหารหญิงสาวได้ปรึกษาหารือกับคุณพ่อของเธอเกี่ยวกับการผลิตโปรดักส์ตัวใหม่เพื่อให้ครอบคลุมกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าและสมาชิกที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เธอตั้งใจจะผลิตน้ำมันหอมระเหยที่สกัดจากวัตถุดิบที่ได้จากฟาร์มของตนเองหรือของลูกไร่ เพื่อความมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าจะได้วัตถุดิบที่ดี มีกระบวนการเพาะปลูกที่มั่นใจได้ว่าปลอดภัยและมีคุณภาพสูง อีกทั้งเธอยังพยายามศึกษาหาข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อประโยชน์สูงสุดของลูกค้าที่ซื้อน้ำมันหอมระเหยของเธอไปใช้…
เธอศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับศาสตร์ในการใช้น้ำมันหอมระเหยที่ได้จากการสกัดพืชหอมเพื่อการบำบัดรักษา หรือเรียกอีกชื่อว่า สุคนธบำบัด ซึ่งน้ำมันหอมระเหยแต่ละชนิดมีสรรพคุณที่แตกต่างกัน เช่น
น้ำมันหอมระเหยจากดอกกล้วยไม้ช่วยบำบัดรักษาอารมณ์ให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียด บรรเทาอาการปวดศีรษะ และความอ่อนล้าทางจิตใจ
กลิ่นเข้มข้นของกานพลูช่วยลดอาการนอนไม่หลับ ลดความเครียด กระตุ้นอารมณ์ ขับไล่ความอ่อนล้า
กลิ่นกำยานมีพลังปลุกให้จิตใจชื่นบาน เกิดความกระตือรือร้นในการทำงาน ทำให้อารมณ์ดี
กลิ่นหอมหวนของกุหลาบ ช่วยให้อารมณ์สงบนิ่ง ช่วยสร้างบรรยากาศที่โรแมนติก กระตุ้นความรักความปรารถนา
กลิ่นหอมหวานและเข้มข้นของดอกจำปาช่วยสร้างความอบอุ่น สร้างเสริมอารมณ์และความรัก
กลิ่นชาเขียวก่อให้ร่างกาย และจิตวิญญาณเข้าสู่ความสงบ มีความสุข ช่วยสร้างอารมณ์ที่สมดุล
กลิ่นดอกบัวที่เข้มข้น ช่วยสร้างสรรค์บรรยากาศรอบ ๆ ให้สดชื่น ทำให้จิตใจผ่อนคลาย
กลิ่นดอกพุดเป็นกลิ่นที่เข้มข้น ช่วยชูใจให้เบิกบาน เกิดความสงบขึ้นในจิตใจ
ตะไคร้มีกลิ่นสดชื่น ทำให้เกิดความเบิกบานและมีพลังใจ
กลิ่นมะกรูดช่วยลดความเครียด กระตุ้นให้สดชื่นเบิกบาน มีพลังงานต้านความซึมเศร้า
กลิ่นมะพร้าวเป็นกลิ่นสบาย ๆ ช่วยขจัดความเครียดและลดความอ่อนล้าทางอารมณ์ ให้ความสดชื่น
ดอกมะลิเป็นราชินีของดอกไม้หอม เป็นกลิ่นที่ช่วยสร้างความสุข คลายความเครียดกังวล ช่วยให้หลับสบาย
ลีลาวดีเป็นกลิ่นที่เข้มข้นหอมหวานของดอกไม้เขตร้อน ช่วยให้อารมณ์ผ่อนคลาย ช่วยให้คิดบวก และมีความโรแมนติก
กลิ่นสะระแหน่ช่วยลดความเครียด ลดอาการปวดศีรษะ กระวนกระวายใจ นอนไม่หลับ
กลิ่นจากโหระพา ช่วยลดอาการปวดศีรษะ สร้างความสมดุล ลดความเครียด และความเหนื่อยล้าทางอารมณ์
กลิ่นอบเชยช่วยไล่ความเครียด ช่วยเรื่องความจำ กระตุ้นให้เกิดความสมดุล...
โมเลกุลเล็ก ๆ หลาย ๆ โมเลกุลในน้ำมันหอมระเหยจะเข้าสู่สมองของคนผ่านประสาทรับกลิ่นที่อยู่ในโพรงจมูกด้านบน ซึ่งส่วนนี้ใกล้สมองมากจนทำให้เกิดปฏิกิริยาตอบสนองทางเภสัชวิทยาของร่างกายมนุษย์
ในน้ำมันหอมระเหยมีโมเลกุลเล็ก ๆ นับร้อยโมเลกุล และทุก ๆ โมเลกุลล้วนมีผลต่อการบำบัดรักษา
ผลต่อร่างกายของน้ำมันหอมระเหยเกิดเมื่อโมเลกุลเล็ก ๆ นับร้อยเหล่านี้ไปถึงสมองส่วนลิมบิค ซึ่งควบคุมอารมณ์และความรู้สึกโดยจะมีความสัมพันธ์กับประสบการณ์และความจำ เนื่องจากสมองส่วนนี้เชื่อมต่อโดยตรงกับสมองที่ควบคุมการเต้นของหัวใจ ความดัน การหายใจ ความจำ ระดับความเครียด สมดุลฮอร์โมน การสูดดมน้ำมันหอมระเหยจึงเป็นวิธีที่ให้ผลทางร่างกายและระบบประสาทที่เร็วที่สุดทางหนึ่ง เพราะหลังจากการสูดดมน้ำมันหอมระเหยจะเข้าสู่กระแสเลือดโดยทางเนื้อเยื่อของปอด และจากระบบประสาทรับกลิ่นไปมีผลต่อสมองส่วนต่าง ๆ
และสิ่งที่สำคัญที่สุดนอกเหนือจากกลิ่นหอมที่สัมผัสได้แล้ว น้ำมันหอมระเหยยังบริสุทธิ์ปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายต่อเนื้อเยื่อระบบทางเดินหายใจของผู้ใช้ในระยะยาวอีกด้วย
หญิงสาวได้ค้นหาข้อมูลและพบว่ามีการวิจัยกันอย่างกว้างขวางทั่วโลกในทุก ๆ ด้าน เธอพบข้อมูลว่ามีการใช้น้ำมันหอมระเหยในยุโรปมากว่าร้อยปี มีการใช้ในการแพทย์ตะวันออกมานานนับพันปี และในประเทศฝรั่งเศสมีการใช้สุคนธบำบัดทางการแพทย์อย่างเป็นระบบ ส่วนสหรัฐอเมริกานิยมใช้สุคนธบำบัดร่วมกับการแพทย์ทางเลือกอื่น ๆ
👉🏻 ตามกันต่อในตอนที่ 54 นะคะ
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
