ศาสนาพุทธสอนให้ทุกคนเป็นคนดี จริงเหรอ?
จริงอยู่ที่ศาสนาพุทธสอนให้คนไม่ทำชั่วแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าถามว่าศาสนาพุทธสอนให้ทุกคนเป็นคนดี จริงเหรอ? ก็ต้องขอให้ทุกคนทำความเข้าใจก่อนว่า การแบ่งว่าดีว่าชั่วนั้น เป็นการแยกธรรมออกเป็นฝักเป็นฝ่าย เพราะฉะนั้น การบายแอ็สจะเกิดขึ้น ทำให้ฝ่ายชั่วก็ไม่ยินดีในฝ่ายดี ฝั่งดีก็รังเกียจฝั่งชั่ว เมื่อรังเกียจเดียดฉันท์กันก็ย่อมนำไปสู่การวิวาทเบาะแว้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปุถุชนที่ยังมีอัตตามานะทิฏฐิสูง เพราะฉะนั้น ศาสนาพุทธจึงไม่สอนให้เป็นคนดีแต่สอนให้ไม่เบียดเบียนกัน ให้อยู่ในกรรมไม่ดำไม่ขาวครับ
#กรรม #วิสังขาร
กรรมไม่ดำไม่ขาว เป็นกรรมที่หลุดไปจากนิยามการแบ่งแยกฝ่ายดีฝ่ายชั่วไปแล้ว หลุดจากการนิยามว่าเฉยๆ หรือ ตอบโต้ ไปหมดแล้ว แม้แต่คำว่าเป็นกลางก็ไม่มี มีแต่คำว่าเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ หรือพูดง่ายๆก็คือ การไม่ก่อกรรมใดๆที่ขัดกับธรรมชาติเดิมแท้หรือ "อสังขตธรรม" เลย จะเห็นได้ว่าการเดินตามธรรมะจะช่วยให้คนหลุดพ้นจากระบบสมมติบัญญัติทั้งหมด นำไปสู่การให้โอกาสซึ่งกันและกันที่จะชวนเพื่อนร่วมสังสารวัฏหลุดพ้นไปด้วยกันได้ ไม่ว่าคนคนนั้นจะเกิดมาในสังคมแบบไหน นิสัยแบบไหน แม้แต่มหาโจรอย่างพระองคุลีมาลยังหลุดพ้นได้
สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงให้โอกาสทุกๆเวไนยสัตว์ที่จะได้เดินตามครรลองแห่งการหลุดพ้นจากวังวนบ่วงทุกข์ ทรงชี้แนะวิธีการพ้นทุกข์ที่เหมาะสมกับสัตว์โลกแต่ละประเภท เช่น หากเป็นเดรัจฉานที่มีฤทธิ์และมีจิตรู้สำนึกอย่างพญานาค ก็ให้นาคนั้นไปถืออุโบสถศีลทุกวันขึ้นสิบห้าค่ำเพื่อให้ได้ไปเกิดเป็นมนุษย์จะได้บรรลุโสดาปฏิผลได้ หากเป็นเปรตก็ให้อนุโมทนาบุญที่ญาติทำไปให้แล้วกลายเป็นเทวดาชั้นล่างไปหมั่นอนุโมทนาบุญผู้อื่นให้ตัวเองได้ไปเกิดเป็นมนุษย์แล้วบรรลุธรรม เป็นต้น
และหากสัตว์นั้นเป็นมนุษย์ เป็นฆราวาสก็ให้ถือศีลห้า ทำจาคะ และเจริญภาวนาด้วยอานาปานสติ-กายคตาสติจนแยกธาตุขันธ์ได้ด้วยปัญญา จนเท่าทันทิ้งลงซึ่งสักกายทิฏฐิจนบรรลุธรรม ถ้าเป็นบรรพชิตก็ให้ปฏิบัติตามธรรมวินัยของตถาคตเพื่อหลุดพ้นไปจากสังสารวัฏ
ดังนั้นเรื่องการวางใจโอนเอียงไปในฝั่งใดฝั่งหนึ่งแล้วจบลงด้วยการตัดสินและประณามชั่ว จึงไม่มีเลยในศาสนาพุทธ มีแต่เพียงการบอกเงื่อนไขว่าหากประพฤติเช่นนี้ๆ จะได้รับผลเช่นนี้ๆ หากไม่ประพฤติเช่นนี้ๆ ก็จะได้รับหรือไม่ได้รับผลเช่นนี้เช่นนั้น พระองค์จะทรงปล่อยให้เวไนยสัตว์เอาไปขบคิดพิจารณาเลือกเส้นทางของตัวสัตว์นั้นเอง ว่าต้องการแบบไหน หากต้องการเกิดใหม่แล้วเวียนตายซ้ำตายซากอีก ก็ให้ถือแค่ศีลห้ากับบริจาคทานก็พอ ไม่ต้องเจริญสติภาวนามัย
แต่ถ้าอยากไปสู่ที่ที่ดียิ่งขึ้นแถมพร้อมแก่การหลุดพ้นจากระบบสมมติสงสาร ก็ให้ปฏิบัติธรรมวินัยเจริญภาวนาตามสถานภาพอัตภาพของตน เมื่อบรรลุธรรมในระดับโสดาบันก็ไม่ต้องกลัวว่าจะตายไปเกิดในทุคติภูมิอีกต่อไป และถ้าได้สกิทาคามี อนาคามีก็ยิ่งลอยตัว ยิ่งถ้าได้อรหัตผลแล้ว ก็หลุดพ้น กลายเป็นอสังขตธรรมถาวร คือวิสังขาร(ไร้จิตปรุงแต่ง) หมดเพลิงกิเลสเพลิงทุกข์สิ้นเชิงอยู่ในอมตะนิพพาน ไร้ความตายชั่วนิรันดร
แอดมินสกิทาเทพ แห่งเพจเฟ๊ซบุ๊คธรรมะแฟนตาซี
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
