16 ส.ค. เวลา 04:51 • หนังสือ

EP1. "มรดกก้อนโต ที่ได้รับ"

ปฏิเสธได้อย่างไร พ่อแม่ให้ไว้กับเรานะ
ฉันชื่อ "ไอรี่" เป็นคนต่างจังหวัด
เป็นลูกสาวคนเล็กของพ่อแม่ และพี่ชาย
พ่อเป็นข้าราชการครู เรียนจบปริญญาตรี 2 ใบ
เป็นคนเรียนเก่ง พ่อเป็นครูใจดี เป็นคนมีเมตตา มัธยัสถ์ อดออม
แต่มักจะใช้จ่ายเต็มที่กับฝั่งทางพี่น้องของพ่อ
ในช่วงแรกของการรับราชการครู เงินเดือนน้อย
เมื่อเทียบกับความจำเป็นที่คนสร้างครอบครัวต้องพึ่งกระทำ
แม่เป็นแม่ค้า ค้าขายรถเข็น ที่หน้าตลาด
แม่ จบชั้นป.4 อ่านหนังสือออก เขียนไม่ค่อยคล่อง
แม่เป็นคนหาเงินเก่ง คล่องตัว ใจดี
แต่มีความจู้จี้ จุกจิก เอาแต่ใจตัวเอง
รายได้ของแม่มักจะมากกว่าพ่อเสมอ
เพราะอาชีพค้าขายไม่มีเพดานของรายได้
แม่มีเงินเข้าทุกวัน ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่จึงตกอยู่ที่แม่
แต่ของพ่อมีแค่วันเดียว ค่าใช้จ่ายพ่อจะจ่ายค่าบ้าน
จะเป็นเงินก้อนโตมาก เมื่อเทียบกับรายได้
ค่าใช้จ่ายแม่จะจ่ายทุกอย่าง ยกเว้นค่าบ้าน
ซึ่งค่าใช้จ่ายประเภทนี้ไม่ตายตัว จะเป็นเงินเล็กเงินน้อย
ที่ไม่สามารถบอกได้ชัดเจนเหมือนรายจ่ายพ่อ
พ่อและแม่เป็นที่น่านับถือของคนถ้วนหน้า
ทั้งคู่ได้พยายามทำหน้าที่เลี้ยงดูลูกเป็นอย่างดี
ถือได้ว่าเป็นครอบครัวที่ไม่น่ามีปัญหาใดๆ
ถ้ามองจากตัวเลขของรายได้ครอบครัวฉันจริงๆ
บอกได้เลยว่าไม่มีปัญหาทางการเงิน
แน่นอน แต่ทำไมฉันรู้สึกขัดสนมาโดยตลอด
เมื่อฉันยังเด็ก พ่อแม่มักจะมีเรื่องทะเลาะกันเป็นประจำ
"นอนอยู่ด้วยกันไม่เคยปรึกษากันเลย"
"ขายของทุกวันเงินทองไปไหนหมด"
"เชื่อแต่คนอื่น"
คำพูดของพ่อ
"ไปเรียนปริญาตรี เงินใครละ"
"เหงื่อไม่ออก เงินไม่มา"
"รู้แต่รายได้ แต่ไม่เคยรู้รายจ่าย"
คำพูดของแม่
ถึงแม้ทั้งคู่จะทำงานหนัก
ฉันก็ไม่เคยเห็นพ่อและแม่มีความสุข
ฉันมักจะมีความทรงจำทางการเงินของพ่อและแม่
กลายเป็นตัวตนของฉันไปแล้ว
ไม่มีพ่อแม่คนไหนที่จะตื่นมาแล้ว
จะหาเรื่องทะเลาะ ใครผิดใครถูกหรอก
"เงิน" หรอ ที่เป็นตัวการที่ทำให้เขาทั้งคู่ไม่เข้ากัน
ในตอนนั้น ฉันไม่เข้าใจหรอกว่าคือ "เงิน" หรือเปล่า
ฉันรู้แต่ว่า ฉันมีและเป็นอย่างที่เขาทั้งคู่เป็นและมีเช่นกัน
มีเหตุการณ์หนึ่งที่ฉันต้องทำ และรู้สึกผิดมาตลอด
เมื่อฉันอายุ 9 ปี พ่อฉันมารับที่โรงเรียน ไวกว่าปกติ
พาฉันไปธนาคารที่แม่ฉันเปิดบัญชีไว้ให้
"พ่อจะพาไปไหน" ฉันขึ้นรถไปแล้วถามด้วยความสงสัย
พ่อหันมาตอบฉัน "ไปธนาคาร" และยื่นสมุดธนาคารมาให้
สีหน้าของพ่อไม่ได้เป็นกังวลใดๆ
แต่ฉันสิกังวล
ฉันไม่เข้าใจหรอกว่า ต้องทำอะไร ฉันรู้แต่ว่า เรื่องเงิน
หน้าแม่ลอยเข้ามาผ่านหน้าฉันทันที
สีหน้าของแม่ หน้างอ ไม่พอใจอย่างมาก
เสียงของแม่แผดดังเข้าหูของฉัน แค่คิดฉันก็รู้สึกแย่แล้ว
มันเหมือนฉันตัดสินใจเองที่จะทำการนี้ แต่มันไม่ใช่
ไปถึงธนาคารก็ทำตามขั้นตอน
ในขณะนั้นฉันตั้งคำถามในใจ
"ไม่ทำได้ไหม" และลังเล
"ไม่ได้ทำได้หรอ นั้นพ่อของเรานะ"
สรุปลงเอย ด้วยการถอนเงินหมดบัญชี
ฉันเริ่มถามพ่อด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจ
"พ่อเอาเงินหนูไปไหน"
"คุณอาขอยืม เดี้ยวอาเขาก็คืน"
พ่อตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย
ฉันได้แต่เงียบ และคิดในใจ
"ทำไมไม่มาขอเราละ ไม่ใช่เงินพ่อนะ"
ตอนเย็น ฉันรู้แล้วว่าเย็นนี้ ฉันต้องเจออะไรบ้าง
ฉันเล่าให้แม่ฟัง"วันนี้พ่อไปรับที่โรงเรียนช่วงกลางวัน
พาไปธนาคาร ถอนเงิน 4000 ไปให้คุณอายืม"
ฉันตอบแม่ด้วยความรู้สึกผิด
"ทำไมต้องให้ หนูก็ไม่มีปากมีเสียงเลยหรอ
ทำไมต้องถอนให้ กว่าแม่จะฝากได้ ตั้ง 4000"
ลักษณะน้ำเสียงของแม่ รู้สึกถึงการเอาเปรียบ
โดยไม่ได้ใส่ใจว่า เราจะรู้สึกอย่างไร
แม่รู้บ้างไหมว่า "ฉันพยายามที่จะปกป้องเงินก้อนนี้ไว้"
แต่ฉันจะทำได้ยังไงละ นั้นก็พ่อ
ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกด่าตัวเอง
ฉันมันแย่เอง ที่ถอนให้ สงสารแม่ที่กว่าจะหาได้
จากวันนั้นเป็นต้นมา ฉันไม่เคยได้มีเงินฝากอีกเลย
และฉันรู้สึกมาเสมอว่า
"หากมีเงินเยอะ ฉันจะถูกเอาไปแบบนี้อีก"
"ฉันมีเงินเพื่ออะไร เพื่อให้คนอื่นมาเอาไปหรอ"
"ไม่ต้องมีหรอก หรือถ้ามีเยอะก็จะใช้ให้หมด"
"หรือก็จะแอบมีไว้ ไม่ให้ใครรู้"
และก็เป็นแบบนั้นจริงๆ
ไม่มีพ่อแม่คนใด อยากสร้างบาดแผลให้กับลูกของตัวเอง
ไม่มีพ่อแม่คนใด อยากจะมีปัญหาทางการเงิน
ใช่ค่ะ ไม่มีใครอยาก แม้กระทั่งฉันเอง
จากเรื่องเล่า EP.1
ทำให้ฉันเข้าใจมากขึ้นว่า
ฉันได้รับชุดความคิดแบบนี้ เป็นมรดก
แบบไม่รู้ตัว มันกลายเป็นปีศาจสร้างตัวตนฉัน
ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วว่า นั้นเป็นเรื่องของพ่อและแม่
"ไม่ใช่เรื่องของฉัน" "มันจึงไม่ใช่ฉัน"
ฉันรู้สึกขอบคุณ ที่ฉันได้เขียนเรื่องนี้ขึ้นมา
ทำให้ฉันได้มองมุมกว้าง และมองเห็นว่า
"นั้นมันไม่ใช่ฉัน" "นั้นมันเขา"
หากตอนนี้คุณยังอยู่ในสถานะการณ์
เดียวกับพ่อแม่ของคุณ
พ่อแม่ของคุณส่งมรดกกล่องนี้ให้หรือเปล่า
ถ้าได้รับมรดกกล่องนี้ ขอให้เผาทิ้งไปเสีย
เรียนรู้ และตัดสินใจสร้างตัวตนขึ้นมาใหม่
จะเล่าให้ฟังต่อ ใน EP.2 โปรดติดตาม
3

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา