หรือ Romulus จะสร้างจักรวาลเอเลี่ยนขึ้นมาใหม่!
"Alien ภาค Romulus" และมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า "Alien ภาค Death Ship"
โดยภาคนี้มีไทม์ไลน์อยู่ระหว่าง "Alien 1" และ "Alien 2"
และกระบวนการทั้งหมดก็ได้รับการดูแลโดยท่านปรมาจารย์เล่ย (Ridley Scott)
เห็นได้จากปฏิบัติการชุดนี้ที่ผู้กำกับ Scott ละทิ้งไทม์ไลน์จาก "Alien 2" แล้วโดดมาเป็น "Alien 4" โดยทันทีในครั้งนี้
และต้องการสร้างภาคต่อ Alien ในจักรวาลของเขาเองโดยจะขอเริ่มต้นจาก "Alien 1" กันเลยทีเดียว
เนื่องจากสตูดิโอภาพยนตร์ยังไม่อนุญาตให้ผู้กำกับเล่ยถ่ายทำผลงานทั้งสามเรื่องตั้งแต่ "เอเลี่ยน 2" ถึง "เอเลี่ยน 4"
ตอนนั้นเพราะผู้กำกับเล่ยคงเสียใจและโกรธเคืองเอามากๆ แต่ในตอนนี้เขาได้รับลิขสิทธิ์ถ่ายทำอีกครั้ง
แน่นอน ครั้งนี้จะไม่ขอยอมรับให้ผู้กำกับคนอื่นๆ ได้ถ่ายทำภาคต่อของเรื่องนี้อีกต่อไปอีกแล้ว
เพราะเขาได้สร้างภาคก่อนของ "Alien" มาแล้วสองภาคตั้งแต่ปี 2012
ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะสร้างภาคต่อของ Alien ที่ต่อเนื่อง เมื่อพิจารณาจากชื่อเสียงของสื่อต่างประเทศหลังจากการแบน ฮาาา
ภาพยนตร์เรื่องนี้โดยพื้นฐานแล้วจะสอดคล้องกับสไตล์ของ "เอเลี่ยน" ของผู้กำกับ เก่าๆที่คงไว้ในปี 1979 ไว้ทุกประการ แต่ไม่ว่าจะเป็นการเลียนแบบความคลาสสิกและเล่นตามอารมณ์
หรือสร้างมุมมองโลกขึ้นมาใหม่ มันก็ยังอยู่ในช่วงถกเถียงกันอยู่ดี
แต่หนังไซไฟระทึกขวัญของเรื่องนี้ผมว่าทำได้ดีมากจริงๆ ถ้าเพื่อนๆพลาดภาคแรกในปีนั้น ต้องดูเรื่องนี้ เพราะนี้แทบจะเป็นการจำลองเรื่อง "Alien 1" กันเลยทีเดียว
ที่จริงแล้ว ผู้กำกับต้องการให้เราเห็นสิ่งที่แตกต่างออกไป
เช่น วิศวกร หรือแม้แต่ห้องทดลองของเดวิด และดาวเคราะห์ LV223 ที่ดันเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดในจักรวาลเอเลี่ยน
ดังนั้น ตอนนี้คือไทม์ไลน์หลัง "Alien ภาคเราจะทำตามสัญญา หรือ Covenant" และเป็นการเชื่อมโยงกันระหว่าง "Alien 1"
และระหว่างนี้ผมขอย้อนกลับไปในตอนท้ายของ "Alien Covenant" ที่เดวิดได้ลักพาตัว Daenerys สมาชิกลูกเรือ และพาเธอไปยังดาวเคราะห์ดวงใหม่
แล้วได้ก่อตั้งห้องทดลองขึ้นที่นี่ และ Daenerys ก็พัฒนาเป็นรุ่นที่สองของ Alien Queen
หลังจากศึกษาตัวอย่างแล้ว ตัวภาพยนตร์เองมีระดับการอธิบายในระดับกลางๆมากขึ้น
และจะเห็นได้ว่าเหล่ามนุษย์ต่างดาวต่างก็ได้รับการพัฒนาเพิ่มเติมซะด้วยซ้ำ
และรูปแบบการแพร่กระจายเอเลี่ยนไปสู่ห้วงอวกาศอันลึกล้ำของจักรวาล โดยหวังว่าเอเลี่ยนจะพิชิตจักรวาลได้ทั้งหมด
ในตอนนั้น เมื่อเวรกรรมตามทัน เดวิดได้บุกทำลายดาวเคราะห์บ้านเกิดของวิศวกรและพัฒนาเอเลี่ยนเป็นครั้งที่สอง
แต่วิศวกรก็ไม่ได้ตายไปซะทั้งหมด
และพวกมันกลับเป็นอารยธรรมก๊อปปี๊ของหลายดาวเคราะห์ในจักรวาล มีฐานการทดลอง(ผลิต)มากมายที่คล้ายกับดาวเคราะห์ LV223
ดังนั้นเมื่อวิศวกรเหล่านั้นกระจัดกระจายไปบนดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ
พวกเขาก็จะได้รับข้อมูลจากดาวเคราะห์บ้านเกิดของพวกเขาทันที พวกขับเรือรบและได้เข้าต่อสู้กับเดวิดเพื่อล้างแค้นให้กับอาณาจักรของพวกเขา
แล้วเหตุใด...ดาวเคราะห์บ้านเกิดของวิศวกรจึงหยาบช้าและถอยหลังเช่นนี้ ?
อันที่จริงนี่ก็เหมือนกับซีรีส์ "จักรวรรดิกาแลกติก (Galactic Empire)" ที่ปรากฏตัวในสื่อแฟรนไชส์สตาร์ วอร์ส นั่นเอง..
กล่าวคือ เมื่ออารยธรรมพัฒนาเป็นอารยธรรมหลายดาวเคราะห์ พวกเขาจะออกจากสถานที่กำเนิดและสร้างดาวเคราะห์ดวงใหม่ในกาแลคซี
เมื่อเวลาผ่านไป คนรุ่นใหม่ที่อยู่เบื้องหลังก็ลืมบ้านเกิดของดาวแม่ไป(นาน)แล้ว และค่อยๆ ละทิ้งและไม่ต้องการปกป้องดาวแม่อีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม ดาวแม่กลับมีเพียงกลุ่มคนแก่ อ่อนแอ ป่วยและพิการเท่านั้น จึงเป็นเรื่องง่ายมาก จะถูกกำจัดโดยเดวิด
อันที่จริงมีรายละเอียดอยู่ในภาพยนตร์เรื่องนี้ในภาค "สัญญา หรือ Covenant"ลองโหลดมาดูจะพบว่า
เมื่อเดวิดขับยานอวกาศทรงกึ่งกลมกลับไปยังดาวเคราะห์บ้านเกิดของ กลุ่มวิศวกร
กลุ่มวิศวกรสูงอายุก็รวมตัวกันและดูเหมือนจะตั้งตารอผู้คนบนยานอวกาศ
นี่เป็นเรื่องสมเหตุสมผลมากเพราะพวกเขาคิดว่านักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์กลับมาแล้ว และพวกเขารู้จักยานอวกาศประเภทนี้เป็นอย่างดี
แต่พวกเขาไม่เคยคาดหวังว่า เดวิด ลูกของ“ยูดาส” จะกลับมา ไม่เพียงแต่ด้วยความเกลียดชังเท่านั้น แต่ยังจะทำลายพวกเขาอีกด้วย
หากกลับไปใน "เอเลี่ยน 1" มีดาวเคราะห์ดวงหนึ่งที่มียานอวกาศทรงกลมอยู่บนนั้นอยู่แล้วตั้งแต่ต้น
นอกจากนี้ยังมีวิศวกรที่เสียชีวิตในยานอวกาศอีกด้วย
ในเวลานั้น ผู้คนต่างใช้แนวคิดของ "อัศวินอวกาศ" เพื่ออธิบายรูปลักษณ์ของวิศวกร
และในเรื่องนี้ก็เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเดวิดในเวลาต่อมา
ท้ายที่สุด วิศวกรที่เสียชีวิตก็มาเพื่อหลบหนีจากดาวเคราะห์ที่ไม่รู้จัก สาเหตุที่พวกเขาเสียชีวิตที่นี่ก็เพราะหลังจากการต่อสู้กับเดวิด
เป็นยานอวกาศของพวกเขาเสียเองที่ถูกรุกรานโดยมนุษย์ต่างดาว จนถึงขั้นเสียชีวิตจากการติดเชื้อ
จนตอนนี้จึงเป็นเรื่องราวของ "เรือมรณะ" เกิดขึ้นในสถานีอวกาศที่เรียกว่าโรมูลัส ที่ต้องใช้หลบหนีไปในตอนจบ
โดยในขณะนั้นได้เกิดการระเบิด ซึ่งนำไปสู่วิกฤตการณ์ของมนุษย์ต่างดาว
ลูกเรือทั้งหมดวิ่งหนีด้วยความตื่นตระหนก
แต่กลุ่ม Facehuggers ที่น่ารักก็กำลังกระโดดไล่ตามและโจมตีลูกเรือเพื่อวางไข่ ทันทีที่พบศพลูกเรือ(หัวโล้น)คนหนึ่งที่ติดแหงกอยู่ เข้ามาดูแล
พวกเขาไม่รู้ว่าเลยว่ามีมนุษย์ต่างดาวอยู่(ข้างใน)เลยถูกฆ่าตายพร้อมการกำเนิด
โชคดีที่มีอาวุธจำนวนมากอยู่ในห้องโดยสาร จึงสามารถต่อสู้กับเอเลี่ยนได้ จนพูดได้ว่าเนื้อเรื่องของหนังเรียบง่ายสุดๆ
เป็นหนังอวกาศเกี่ยวกับการเอาชีวิตรอดในห้องที่ถูกล็อค และเอเลี่ยนก็กลายเป็นสัตว์ร้ายที่น่ากลัวที่สุดในหนังทั้งเรื่อง
โดยรวมแล้ว จากการจัดฉากในหนัง สามารถสรุปได้ว่านี่คือหนังเอเลี่ยนที่น่าพึงพอใจ(สำหรับผม)
โดยพื้นฐานแล้ว เหมือนเรื่องราวของ "เอเลี่ยน 1" จะถูกเล่าอีกครั้งในที่อื่นโดยไม่มีไอเดียใหม่ๆ มากมายนัก
ส่วนเรื่องราวของ “เอเลี่ยน พรีเควล” ก็ไม่เคยถูกเอ่ยถึงอีกเลย
ซึ่งก็เป็นไข่อิสเตอร์ในส่วนดีๆ ที่ทำให้จักรวาลเอเลี่ยนยังคงไม่สามารถดำเนินเรื่องแบบวงปิดของไทม์ไลน์แบบเดิมๆนี้ได้
- 6
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
