[รีวิวอัลบั้ม] Vultures 2 - Kanye West & Ty Dolla $ign >>> เอาที่ Ye สบายใจ 2
-20 ปีที่แล้ว โลกได้รู้จักกับ Kanye West ที่พิสูน์ตัวเองจากการเป็นโปรดิวซ์เซอร์ระดับ high profile ที่ได้ร่วมงานกับ Jay Z ในอัลบั้มฮิปฮอปที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่าง The Blueprint สู่การเป็นแรปเปอร์ที่สามารถลดคำสบประมาท “เป็นได้แค่โปรดิวซ์เซอร์” ได้อย่างสำเร็จในเดบิวต์อัลบั้ม The Colledge Dropout
ศักยภาพมากล้นในการรวบรวมชาวคณะประสานเสียง ศิลปินรับเชิญ และการเฉือนเนื้อตัวเองเพื่อทำอัลบั้มและเอ็มวีจากการที่ค่ายเพลงยังไม่กล้าเป็นท่อน้ำเลี้ยงได้เต็มที่ จนก่อเกิดเป็นสุดยอดเดบิวต์อัลบั้มที่ก่อเกิดปรากฏการณ์ที่มีแต่จะท็อปฟอร์มขึ้นเรื่อยๆในอัลบั้มต่อๆมา
-ขอแนะนำเป็นรอบที่ร้อยให้ไปดูสารคดี Jeen-Yuhs ใน Netflix แค่ 3 ตอนจบเท่านั้น เพราะนี่คือสารคดีที่ไม่ว่าคุณจะชอบหรือเกลียดเขาแค่ไหนก็สามารถไปศึกษาดูได้ ประหนึ่งศึกษาความสำเร็จของคนๆนึงที่ผ่านการพิสูจน์ตัวเองอย่างหนัก อีกทั้งได้เห็นถึง(สันดาน)ดังแล้วกลายเป็นคนละคนก็มีให้ดูในสารคดีนี้
-20 ปีต่อมานับจากยุคเดบิวต์พอดีเป๊ะก็ต้องบอกว่า พี่ Ye คนนี้ไม่ใช่เวอร์ชั่นแรกที่ต่อสู้เพื่อการเดบิวต์อย่างเป็นตำนานแต่อย่างใด ผู้มากบารมีที่รวบรวมคนทั้งวงการ (ยกเว้น Drake, Taylor Swift) ได้สบายๆเสียจนไม่ค่อยเห็นคุณค่าของคนร่วมลงเรือมากเท่าไหร่นัก
-โดยเฉพาะผู้ร่วมโปรเจคต์ Ty Dolla $ign ในฐานะ collaborator ที่ร่วมหัวจมท้ายมากที่สุดยิ่งกว่า Kid Cudi และ Jay Z ด้วยจำนวนระดับไตรภาคอัลบั้ม ซึ่งก็น่าเห็นใจอยู่ไม่น้อยที่นายใหญ่เลือกที่จะพ่นพรรณนาเรื่องของตัวเองซะส่วนใหญ่ แทนที่จะหาจุดร่วมของสไตล์แล้วเอามา blend กันอย่างกลมกลืน
-ผลลัพธ์ที่ได้ไม่ต่างจากภาคแรกเลยครับที่ได้แต่สงสัยว่า นาย Tyron จะมีซีนเด่นกี่โมง? แทบเหมือนตัวเสริมตามใจนายเหมือนกับเพลงเดี่ยวของพี่ Ye หลายๆเพลง ตอนที่เผยภาพปกภาคสองเนี่ย ผมโคตรจึ้งและแอบคาดหวังพอสมควร ภาคแรกพี่ Ye ถ่ายรูปคู่กับเมีย Bianca Censori ยังไม่ impact มากเท่ากับปกภาคนี้
-นาย Tyrone ถือรูปพี่ชาย Big TC ที่ถูกศาลสั่งจำคุก 67 ปีจากเหตุฆาตกรรมที่เขายืนยันว่าไม่ได้กระทำ ด้วยที่มาที่ไปค่อนข้าง emotional ซะขนาดนี้ ผมก็คาดหวังครับว่า Volume 2 represent นาย Tyrone อย่างมีสาระสำคัญ แล้วให้นายใหญ่เป็นรอง ดันน้องชายเต็มที่ สรุปแล้วผมคิดผิดจริงๆครับ still belong to Ye anyway
-เท่ากับว่าอัลบั้มภาคสองแทบไม่สามารถพลิกเกมส์ให้เลวร้ายกลายเป็นดีได้เลยครับ โปรดักชั่น downgrade แบบใดในภาคแรกก็ยังคงเป็นแบบนั้นในภาคนี้ ต่อให้รวบรวมสมัครพรรคพวกทั้งโปรดิวซ์เซอร์เกือบครึ่งวงการ แรปเปอร์ตัวแทนแห่งยุคมากรายเท่าใด ไม่สามารถช่วยพลิกฟื้นวิกฤตครีเอทีฟของนายใหญ่ได้เลย เหมือนพวกเขาเหล่านั้นคือทางผ่าน
-หนำซ้ำกลบซีนนาย Tyrone มิดในบางเพลง ด้วยการยก verse ให้แขกรับเชิญมากกว่านาย Tyrone เสียอีก เนี่ยจะไม่ให้ผมรู้สึกผิดหวังได้ไง เฉกเช่น FIELD TRIP ที่จงใจยกเป็นเรือธง เพราะกระแสของ Playboi Carti แต่ก็ดึง Kodak Black มาร่วมแจมได้แอร์ไทม์เยอะกว่าแบบงงๆ DEAD แทบจะยกให้ Future กับ Lil Durk แร๊ปเยอะจนแทบจะเป็นคู่หูใหม่ไปเลย FOREVER ROLLING Lil Baby ก็ได้แอร์ไทม์เยอะกว่าอีก
-ถ้าโทษที่แขกรับเชิญลูกเดียวก็คงไม่แฟร์มากนัก ต้องโทษที่ความเพี้ยนของนายใหญ่ที่นอกจากเอาแน่เอานอนกับวันปล่อยอัลบั้มไม่ได้แล้ว ยังคงสับสนปนเปในการรังสรรค์แบบแปลกๆ โดยที่ไม่เห็นหัวนาย Tyrone มากเท่าไหร่นัก การฟังเพลงซีรี่ย์อัลบั้ม Vultures จนเกือบสุดทางแล้วยังให้ความรู้สึก อะไรของพี่แกวะ วนอยู่ในหัวตลอดเวลา เหมือนผมไม่ได้นิยามความเป็นคู่หูใดๆเลย
-โปรเจคต์คู่หูจึงกลายสภาพเป็นโปรเจคต์เพื่อการดำรงอยู่ในกระแสของพี่ Ye ในรูปแบบที่ไม่ได้พิสูจน์ความเข้มขลังของศักยภาพด้วยอารมณ์นายใหญ่ปั้น Ty Dolla $ign โชว์ให้เด็กมันดู แต่กลายเป็นให้เด็กๆนอกงานช่วยนายใหญ่ที่ค่อนโรยราและตีบตันโชว์ซะงั้น ซึ่งมันยังคงเป็นที่หัวเราะเยาะแก่ haters อยู่ร่ำไป ในเมื่อพี่แกดันอ่อนไหวไปกับประเด็นปัญหาส่วนตัวหลายเรื่องจนหลุดโฟกัสการทำอัลบั้มเพื่อนคู่หูไปเสียเอง
-มีทั้งการตัดพ้อเมียเก่า Kim Kardashian ถึง 3 เพลง ไม่ว่าจะเป็น การตัดพ้อเมียเก่าที่เลือกจะฟัง Drake มากกว่าตัวเองในเพลง 530 ในแบบที่สนุกปาก เมาๆอึนๆด้วยฤทธิ์เตกีล่า จะว่าเก่งด้วยการด้นสดหรือพล่ามไปเรื่อยก็สุดแล้วแต่จะคิด HUSBAND, LIFESTYLE ซึ่งเป็นเพลงคู่ที่ไม่รู้ว่าจะ split ออกมาทำไม ซึ่งเพลง HUSBAND นอกจากจะเป็นเพลงเดี่ยวของนายใหญ่เต็มๆแล้ว แกยัง copy+paste verse มาทั้งดุ้นลงในเพลง LIFESTYLE โดยที่ไม่เปลี่ยน perspective แต่อย่างใดเลยเว้ย
-ไหนจะอยู่ในจุดที่สุดยอดศิลปินกล้าใช้เทคโนโลยี AI มาซ้อนทับ verse ของ CyHi แบบว่า เห้ย พี่คิดอะไรไม่ได้แล้วใช่มั้ย !!! ในเพลง SKY CITY มันเป็นการทำเพลงในเชิงเอาที่พี่สบายใจเกินกว่าจะแบ่งเค้กคู่หูได้มีแอร์ไทม์ที่เยอะกว่านี้ และมีเพลงเดี่ยวของเขาเองบ้าง
-แม้แต่เพลงที่ควรจะ tribute ให้พี่ชายอย่างเต็มที่ในเพลงสุดท้ายอย่าง MY SOUL จึงไม่ได้มอบคุณค่าแห่ง brotherhood ให้นาย Tyrone กับ Big TC ได้แลกเปลี่ยนความรู้สึกผ่านปลายสายเรือนจำมากเท่าที่ควร กลับกลายเป็นว่านายใหญ่อยากจะ Fuck Adidas ดีลขัดแย้งทางธุรกิจเลยแหลมออกมาขัด vibe แห่งการส่งสาสน์แห่งความอึดอัดถึงกระบวนการยุติธรรมไปโดยปริยาย Ye โดน Adidas เอาเปรียบมั้ย? ก็ใช่ แต่ไม่น่าเอามาผสมโรงด้วย ทางที่ดีนายใหญ่ควรปล่อยให้สองพี่น้องได้เพลงนี้ไปเต็มๆเลยจะดีกว่า
-ปัญหาไม่ได้อยู่ที่สภาวะทางอารมณ์ของนายใหญ่ที่เอาแน่เอานอนไม่ได้อย่างเดียว ภาคดนตรีบีทแต่ละเพลงดูไม่ค่อยผ่านการคัดสรรอย่างจริงจังมากนัก เป็นความสำเร็จรูปที่เราได้ยินจากศิลปินท่านอื่นมาแล้วนัดต่อนัด แปลกดีครับที่ตัวเครื่องยนต์ดังกล่าวกลับทำให้ผมรู้สึกกร่อย ไม่ได้รู้สึกถึงความตื่นตาตื่นใจและน่าฉงนสนเท่ห์มากนัก ขนาดเพลงเปิดอัลบั้ม SLIDE ที่รวบรวมทั้ง London on Da Track, Fred again… มาสุมหัวไว้ในเพลงเดียวก็ยังไม่เกิดความรู้สึกอหังการมากนัก
-การเอาไพร่พล Inter Milan มาโห่ร้องเอาฤกษ์เอาชัยในเพลง FRIED ก็ไม่ต่างจาก CARNIVAL ver 2.0 ที่ได้กลิ่นอายตามเดิมเป๊ะ ลูกเล่นเดิมๆที่ถูกเอามาให้เจือจางก็เท่านั้น แต่เพลงที่ผมเอ็นจอยที่สุด ฟังแล้วแช่มชื้นเลยก็มีแค่ PROMOTION ที่ดึง Future มาร่วมด้วย และเป็นตัวแย่งซีนตั้งแต่เปิดเพลงเลย ท่วงทำนองฟังดูคลี่คลาย การเกลี่ยสัดส่วนของแต่ละคนก็โอเค เอา buzz word เด็ดๆจากเพลง Good Life มาใส่ในเพลงได้เหมาะเจาะดี
-ยังคงไม่มีอะไรมาก และยังเป็น new low อย่างต่อเนื่องเลยฮะ ด่า Drake ว่า wack อย่างนั้นอย่างนี้ นายใหญ่ก็ไม่ต่างกัน ถ้ามันจะ delay ขนาดนี้ พี่ไม่ต้องประกาศวันรีลีสก็ได้มั้ง ในเมื่อผลลัพธ์ที่ได้เป็นงานปั่นชนิดไฟรนก้นซะขนาดนี้
-ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าการที่ Ty Dolla $ign ยอมเดิมพันด้วยการลงเรือลำเดียวกันกับกัปตันที่ดันไม่ฟังประกาศจากกรมอุตุ แล้วยังกะเสือกกะสนที่จะฝ่าคลื่นมรสุมอีก แล้วนาย Tyrone ก็ต้องมาตอบคำถามทั้งหลายเกี่ยวกับเหตุ delay album แบบแบ่งรับแบ่งสู้ on the way บ้าง Shit can happen บ้าง
-คงเป็นเพราะเหตุผล once in the lifetime achievement บวกกับได้ร่วมงานบ่อยจนเกิด royalty ด้วยแหละมั้ง แต่ก็ผิดเวลาพอสมควร ภายใต้แบรนด์ดิ้งที่มี movement แปลกๆเกี่ยวกับการบริหาร จนพนักงานออกมาแฉด้วยข้อหาต่างๆที่พิสดารพิลึกพิลั่น การรับมือ controversy รอบด้าน และการเสพติดแก๊สหัวเราะที่น่าเป็นห่วงเหลือเกินว่า ผลกระทบของมันจะเป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้ความคิดความอ่านต่างๆมีปัญหาจนเกิดวิกฤตในด้านการควบคุมอารมณ์ และความคิดสร้างสรรค์ที่ถดถอยลงมากขนาดนี้
ชายคนนี้ช่างซับซ้อนอย่างที่ทรัมป์เคยพูดไว้จริงๆ
Top Track: PROMOTION
Give 3/10
Thx 4 Readin’
See Y’all
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
