17 ส.ค. เวลา 02:00 • ท่องเที่ยว
ศรีลังกา

ทริปสุดป่วนที่ Sri Lanka

ใครจะไปคิดว่าทริปที่วางแผนไว้ตั้งแต่แรกจะกลายเป็นเรื่องราวสุดป่วนได้ขนาดนี้! จากความตั้งใจจะไปสัมผัสเสน่ห์ของเนปาลในช่วงฤดูฝนที่แสนจะวุ่นวาย จนต้องเปลี่ยนแผนกระทันหันมาลงเอยที่ประเทศศรีลังกา
พอได้เริ่มหาข้อมูล ก็เพิ่งรู้ว่าเกาะเล็กๆ กลางมหาสมุทรอินเดียนี้ จะมีเสน่ห์ดึงดูดใจได้มากทีเดียว เมื่อเริ่มหาข้อมูลเราพบว่าศรีลังกา ไม่ใช่แค่ประเทศที่มีชายหาดสวย น้ำทะเลใส หรือชื่อเสียงทางด้านชาซีลอนหอมไกลระดับโลก แต่ยังเป็นดินแดนแห่งวัฒนธรรมอันยาวนาน ประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ และแหล่งธรรมชาติที่น่าสนใจอีกด้วย
วันเดินทาง
วันเดินทางที่ควรจะตื่นเต้นกับการเดินทาง กลายเป็นวันที่ตื่นเต้นกับความวุ่นวาย เมื่อหนึ่งในเพื่อนร่วมทริปทำพาสปอร์ตหายตั้งแต่เช้า กว่าจะหาเจอด้วยเวลาฉิวเฉียดในช่วง 17.00 น. ที่เหาะจากบ้านมาถึงดอนเมืองได้ แถมยังเจอกับเหตุการณ์ระบบ
คอมพิวเตอร์ล่มทั่วโลก จนกระทบถึงระบบการบิน ทำให้ทุกอย่างล่าช้าออกไปอย่างมาก และ ภาพความวุ่นวายในสนามบินวันนั้นยังคงติดตาตรึงใจ ไม่ว่าจะเป็นคิวเช็คอินที่ยาวเหยียด หรือเจ้าหน้าที่ที่ต้องมาเขียนตั๋วโดยสารด้วยมือทีละใบ และนี่คือสภาพของผู้ประสบภัยทั้งหมดที่สนามบินในวันนั้น
crowdstrike day
หลังจากใช้เวลาหลายชั่วโมงในการรอเช็คอินต่างๆ ก็บินล่าช้าไป 3 ชั่วโมง กว่าพวกเราจะไปถึงที่ Colombo, Sri Lanka ก็เกือบห้าทุ่ม ซึ่งทางบริษัททัวร์ที่ศรีลังกาก็ใจเย็นมาก รอรับเราถึงเวลานั้น การต้อนรับของบริษัทนี้อบอุ่นทีเดียว มีพวงมาลัยห้อยคอ มีถ่ายรูป มีพูดคุยและที่สำคัญเค้าไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มในการพาเราไปโรงแรมคืนแรก (ไม่ได้อยู่ในแพ็คเกจทัวร์และไม่คิดค่าบริการรถส่งโรงแรม 2 คัน)
คืนนี้พวกเราได้นัดแนะไกด์ในวันรุ่งขึ้นว่าจะเจอกันกี่โมง ซึ่งวันรุ่งขึ้นพวกเราเพิ่งรู้ไม่นานว่าเป็นวัน Poya Day หรือ เทศกาลพระจันทร์เต็มดวง จะเป็น “วันหยุด” ของคนทั้งประเทศ โดยวันพระจันทร์เต็มดวงนี้จะจัดขึ้นเดือนละ 1 ครั้ง ตามวันสำคัญทางศาสนา โดยมากจะไม่มีร้านค้า ร้านอาหาร หรือ สถานที่ต่างๆ เปิด คืนนี้ เราค้างในตัวเมืองซึ่งค่อนข้างสะดวกต่อการเดินทางเที่ยวในเมืองวันพรุ่งนี้
วันที่ 1 : เที่ยวเมือง Colombo
เช้าวันนี้เริ่มด้วยการไปตามสถานที่ต่างๆ ในเมือง ซึ่งได้รับข้อมูลแล้วว่าจะปิดซะเป็นส่วนใหญ่ เราและเพื่อนสามจีนไม่ได้ติดอะไรส่วนนี้ เหมือนเป็นการชมเมืองแบบขับรถสบายๆ ไกด์บอกว่าในวันปกติไม่สามารถที่จะขับรถไปตามที่ต่างๆ ได้เพราะว่าเมืองโคลัมโบ เป็นเมืองที่รถหนาแน่นมาก (เหมือนกรุงเทพฯ) เราบอกไกด์ว่า วันนี้ชิลมาก ให้ไกด์พาชมตามที่ต่างๆ ได้เลย ซึ่งไกด์ก็ให้ข้อมูลที่ดีและพาไปชมตามสถานที่ต่างๆ ทั่วเมือง
ไกด์พาขับตามทาง พร้อมอธิบายสถานที่ต่างๆ เช่น มัสยิดญามิอุลอัลฟาร์(มัสยิดแดง) หอคอยโลตัส หอนาฬิกาโคลัมโบ บ้านพักประธานาธิบดีที่โดนถล่ม วัดคงคาราม วิหารมหาเทวีอุทยาน ชายหาดเมานต์ลาวิเนีย แกลเล เฟซ จัตุรัสอิสรภาพ เป็นต้น
ภายในเมือง Colombo, Sri Lanka
วันที่ 2: พระราชวังลอยฟ้า ลึกลับและอลังการ
เช้านี้เตรียมตัวเดินทางตั้งแต่ 6 โมงเช้า วิ่งตรงยาวๆ 4 ชั่วโมงไปสิกิริยา ที่ตั้งของแหล่งประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมและธรรมาชาติที่ซ่อนอยู่ในป่าเขา ในระหว่างทางมีการปรับสถานที่เยี่ยมชมกันนิดหน่อย จากตอนแรกเราจะตรงไปที่พระราชวังลอยฟ้าเลย แต่ถ้าไปเดินตอนเที่ยงจะร้อนมากๆ ไกด์จึงขอเปลี่ยนเส้นทางโดยไปเก็บวัดและสถานที่ประวัติศาสตร์อื่นๆ ก่อน แล้วค่อยไปที่พระราชวังฯ ในช่วงเย็น
สถานที่แรกที่เราแวะคือ เมืองโบราณโปโลนนารุวา เป็นเมืองเก่าที่ยังคงเก็บรักษาเอาไว้เป็นมรดกโลก คล้ายกับเมืองเก่าอยุธยา ที่นี่มีศิวเทวาลัย อายุ 800 กว่าปี ที่นี่มีค่าเข้า $30 เมื่อเดินดูรอบๆ เสร็จแล้วตรงไปที่เขาสิกิริยา ในช่วงบ่ายๆ ค่าเข้า $35 หลังจากจ่ายค่าเข้าแล้วแนะนำให้ไปเดินที่พิพิธภัณฑ์ก่อน แล้วค่อยเดินเข้าไปด้านใน จากตรงนี้ไกด์บอกเราว่าสามารถใช้เวลาได้อย่างเต็มที่แต่ให้เดินลงจากเขาก่อน 6 โมงเย็น และด้านบนไม่มีห้องน้ำขอให้จัดการธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย
เส้นทางเดินขึ้นเขาค่อนข้างชัน ประมาณ 2,000 กว่าขั้น ถึงแม้ว่าจะมีระยะทางจะไม่ไกลมากแต่เมื่อเดินแนวตั้งคือหอบนะ ทางขึ้นและทางลงจะเป็นคนละทาง ในระหว่างทางมีคนมาเยี่ยมชมจำนวนมาก เมื่อขึ้นไปถึงด้านบนแล้วมีความรู้สึกปะปนทั้งสวย ทั้งลึกลับ เดินไป ก็คิดตามเรื่องเล่าที่เกี่ยวกับประวัติเล่าขานเกี่ยวกับกษัตริย์ฆ่าพ่อเพื่อชิงสมบัติ ซึ่งเบื้องหลังฆาตกรรมโหดมาจากสามีน้องสาวเป่าหูให้ชิงบันลังก์ และเรื่องอื่นๆ อีก (อันนี้ ไกด์เล่าให้ฟังก่อนมาเดินขึ้นเขา)  พวกเราเดินไปรอบๆ ชื่นชมบรรยากาศอย่างเต็มอิ่ม
หลังจากใช้เวลาสักพักใหญ่ พวกเรายืนดูพระอาทิตย์ตกครู่นึง แล้วรีบเดินลงก่อนที่เส้นทางจะมืดสนิทและก็เป็นไปตามที่ไกด์พูด พวกเราเดินลงมาหลังหกโมงเย็นและเส้นทางคือมืดมาก บางเส้นทางขาลงถูกปิด ร้านค้าที่อยู่ด้านล่างปิดสนิท
ไกด์พาเราเข้าที่พักในอำเภอนี้ เรากินอาหารเย็นในรีสอร์ท ซึ่งไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ เพราะว่าไม่ได้มีเมนูให้เราเลือก แต่เป็นคอร์สอาหารที่ทุกคนกินเหมือนกันทั้งหมด
พรุ่งนี้เช้าเราต้องออกจากสิกิริยา เพื่อไปเมืองแคนดี้
วันที่ 3 : มุ่งไปแคนดี้
พวกเราตื่นแต่เช้าเพื่อเดินทางจากสิกิริยาที่วัดถ้ำดัมบุลลา (Dambulla Cave Temple) เป็นวัดถ้ำที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุด
ออกจากถ้ำเดินทางต่อไปแวะที่ Ranweli spice garden สวนที่รวมเอาสมุนไพรต่างๆ ทำเป็นสินค้า OTOP ธรรมชาติ มีผู้เชี่ยวชาญเดินอธิบายตามจุดต่างๆ เสร็จแล้วมีนวดให้ด้วย (ค่าบริการแล้วแต่จะให้ทิป) จุดตรงนี้หากว่าสนใจควรช้อปไปเลยเพราะว่าระหว่างทางจะไม่มีสถานที่ให้ซื้อของแล้ว
หลังจากนั้นยิงยาวไปเมืองศักดิ์สิทธิ์แคนดี้ ซึ่งเป็นเมืองหลวงสุดท้ายของราชอาณาจักรสิงหลก่อนตกเป็นของอังกฤษ จากตรงนี้ใช้เวลาไม่นานประมาณ 2.30 ชั่วโมง
เมื่อถึงเมืองแคนดี้แล้ว เราไปแวะที่โรงงานผลิตชาชื่อดัง Embilmeegama Tea Factory ดูการผลิตชาตั้งแต่การเก็บ การอบ การแยก น้องผู้เชี่ยวชาญก็อธิบายรัวมาก เมื่ออธิบายเรื่องราวเสร็จแล้วก็พาไปชิมชาซีลอนชื่อดังระดับโลก ขนาดเราเป็นคนไม่ดื่มชาพอได้ลองชิมแล้วยังชอบเลย
ชิมชาเสร็จแล้วเราก็ตรงไปที่ วัดพระธาตุเขี้ยวแก้ว (Temple of the Tooth Relic) เอาฤกษ์ เอาชัย จากเรื่องเล่าว่าเป็นฟันซ้ายของของพระพุทธเจ้า เป็นเพียงองค์เดียวที่ปรากฏบนโลกมนุษย์ โดยมีหลักฐานรองรับความถูกต้องตรงตามพระคัมภีร์มหาวังศา นับเป็นสิ่งศักสิทธิ์คู่เมืองมาแต่โบราณ ซึ่งพระธาตุเขี้ยวแก้วนี้ได้ถูกบรรจุอยู่ในเจดีย์ทองคำ และผอบทองคำ 7 ชั้น
ออกจากวัดพระธาตุฯ แล้วไปชมโชว์ระบำศรีลังกา ก่อนไปทานข้าวเย็นใกล้ๆ ก่อนเข้าที่พัก วันพรุ่งนี้เราจะบินไปมัลดีฟส์ต่อ ส่วนเพื่อนอีกสองคนอยู่เที่ยวในเมืองโคลัมโบ แวะกินปูที่ร้านดัง Ministry of Crab ก่อนจะไปร้านนี้ควรจองปูและที่นั่งไว้ก่อนเพราะคนเยอะมาก
วันที่ 4 : กิน ช้อป ที่โคลัมโบ ก่อนกลับไทย
เราและเพื่อนอีกคน มีบินไปมัลดีฟส์ต่อ  ส่วนเพื่อนอีกสองคนไปต่อในเมืองโคลัมโบ เริ่มด้วยการกินปูให้หนำ แล้วต่อด้วย Colombo national museum และ Dehiwala Zoological Gardens ก่อนบินกลับไทยในช่วงค่ำ
สรุป
ทริปศรีลังกาครั้งนี้ ประทับใจและเกินคาดไปมาก ทั้งประสบการณ์และธรรมชาติที่ได้พบ รวมถึงอาหารที่อร่อยกว่าที่คิด และผู้คนที่พบเจอล้วนเป็นคนสุภาพ ได้ทั้งพักผ่อน ชมธรรมชาติ เรียนรู้ประวัติและวัฒนธรรมที่น่าสนใน หากใครมีวันว่าง 4 วัน 3 คืน ไม่รู้จะไปไหน ที่ศรีลังกาก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกน่าสนใจ สำหรับค่าใช้จ่ายในทริปศรีลังกานี้ รวมค่าทัวร์ ค่าโรงแรม ค่าอาหาร ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าเข้าสถานที่ต่างๆ ประมาณ 27xxx บาท  คุ้มนะ เอาจิง
ขอขอบคุณ
  • ขอบคุณเพื่อนสองจีนบวกหนึ่ง ที่ยังคงรูปแบบ กิน นอน ห้องน้ำ ตลอดทริปการเดินทาง
  • ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยแก้เรื่องหายนะต่างๆ ได้อย่างน่าใจหาย
  • ขอบคุณความโชคดีในทุกที่ที่ไป ได้เจอแต่คนดีๆ สภาพอากาศที่เป็นใจ
  • ขอบคุณทุกช่วงโอกาสที่พอเหมาะ พอเจาะ ที่ให้เราได้เจอประสบการณ์ที่ดี
  • ขอบคุณเพื่อนทั้งสามที่ไม่ว่าจะเจอสิ่งใด พวกเราก็สามารถหัวเราะได้ไม่สิ้นสุด
  • ขอบคุณตัวเองที่ยังแข็งแรงมากพอที่สามารถเดินทางไปได้ทุกสภาพอากาศและทุกสภาพแวดล้อม
โฆษณา